วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ไม่เชื่อปู ไม่เชื่อศปภ. แล้วจะรอด!!






ถ้าคุณผู้อ่านจำได้ ย้อนกลับไปราวๆสัก1อาทิตย์ ทั้งพลตำรววจเอกประชา ทั้งนายกฯยิ่งลักษณ์ ออกมาเตือนให้คนกรุงทั้งกรุง เตรียมตัวยกของขึ้นสูงอย่างน้อย1เมตร ให้ทำใจยอมรับว่า กรุงเทพฯต้องท่วม จำกันได้มั้ยครับ?

และหลังจากนายกฯและศปภ.บอกให้คนกรุงทำใจเตรียมใจจมน้ำสัก1เดือนไปแล้ว ช่อง11 ก็ได้เผยแพร่คลิปน้ำท่วมกรุงปี2485 ทุกวัน วันละหลายๆรอบ เพื่อจะบอกให้คนกรุงเทพฯ ยอมรับความจริงว่า ท่วมแน่!!

นั่นแปลว่ารัฐบาลปูหญ้าแพรกยอมรับความพ่ายแพ่ บอมิไก๊ ไร้ฝีมือ ไปแล้ว และทำให้คนกรุงเทพฯทั้งเมืองหวาดวิตกไปหมด เพราะว่าน้ำจะท่วมทั้งกรุงฯ แถมเป็นน้ำเน่าซะด้วย



แถมเมื่อวานนี้ รมว.เกษตร ยังออกมาพูดอีกว่า มวลน้ำก่อนใหญ่1หมื่นล้านยังอยู่เหนือกรุงเทพฯ และกำลังเดินทางมา คงทำให้คนกรุงกลัวขึ้นมาอีกรอบ

ผมอยากอธิบายว่า มวลน้ำทุ่งหมื่นล้านมากก็จริง แต่มันไม่มีทางมาพร้อมกันหรือจะมาทั้งหมดที่กรุงเทพฯหรอกครับ

ให้คุณผู้อ่านนึกถึง แก้วแชมเปญที่วางซ้อนกันแล้วเทแชมเปญลงมา แล้วให้แชมเปญล้นจากแก้วนึงไปอีกแก้วนึง พอนึกออกนะครับ

อยุธยา ก็เสมือนแก้วแชมเปญที่ถูกเทน้ำลงมาจนล้น ส่วนที่ล้นออกจากแก้วของอยุธยาก็จะล้นมาที่ปทุมธานี ส่วนที่ล้นแก้วจากปทุมธานีก็ล้นมาที่นนทบุรี และกรุงเทพฯ ตามลำดับ

แต่ที่นนทบุรี และปทุมธานี โดนหนักกว่ากทม. เพราะอั้นไว้มาก ที่ไหนยิ่งอั้นก็ยิ่งหนัก

ฉะนั้นน้ำที่จะมากรุงเทพฯ จึงเป็นเพียงน้ำล้นครับ เมื่อหมดกำลังน้ำล้น น้ำก็จะค้างอยู่ในแต่ละแก้ว ไม่ได้มาที่กรุงเทพฯทั้งหมด

เมื่อสถานการณ์น้ำเหนือ และน้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ภาวะปกติเรื่อยๆ สุดท้ายแต่ละจังหวัดก็จะระดมสูบน้ำที่ค้างอยู่ในแก้วลงเจ้าพระยาในที่สุด




----------------------

ลองสมมุติว่าเราเทน้ำลงพื้น

เวลาเราเทน้ำลงพื้น ตรงจุดที่เทน้ำจะไหลแรงมาก แต่น้ำจะเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆเมื่อเดินทางไกล นั่นแปลว่า ยิ่งเดินทางไกล น้ำก็จะยิ่งช้าลง เอื่อยลง

ก็เหมือนน้ำที่เข้ากทม.ตอนนี้ มาแรงตรงเซียร์รังสิต ดอนเมือง และเมืองเอก แต่เมื่อไกลออกไป ก็เริ่มช้าลงๆ แค่อย่าไปขวางเขาเท่านั้น แต่ให้ระดมสูบน้ำให้หนัก!!

ฉะนั้นถ้าระดมสูบน้ำกันอย่างจริงจัง เพิ่มเครื่องสูบให้มากที่สุด จงอย่าพอใจกับจำนวนเครื่องสูบที่มีอยู่ พยายามเสริมเครื่องสูบเข้าไปให้มากขึ้นไปอีก ผมรับรองว่ากรุงเทพฯชั้นในจะรอด ถ้าไม่มีคันกั้นน้ำพัง หรือมีชาวบ้านไปรื้อให้พังซะก่อน


------------------------------

ผมเริ่มจะเชื่อว่า กรุงเทพฯจะไม่จมทั้งกรุง และเขตที่จะท่วมต่อจากนี้เช่นลาดพร้าว คันนายาว ถ้าท่วมก็จะท่วมไม่สูง ถ้าวัดจากถนนสายหลักไม่น่าเกิน30ซม.

ทำไมผมถึงเริ่มเชื่อเช่นนี้? ก็เพราะผมไม่เชื่อศปภ.ไงครับ ถ้าศปภ.บอกให้คนกรุงเทพฯทั้งกรุง เตรียมยกของขึ้นที่สูง1เมตร ให้เตรียมพร้อมเสมอหากต้องอพยพ

นั่นจึงแปลความได้ว่า กรุงเทพฯชั้นในฝั่งตะวันออกมีโอกาสรอดสูงขึ้นแล้วล่ะครับ ถึงท่วมก็ไม่ถึง1เมตรแน่ๆ

แต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คือ ต้องอย่าให้ประชาชนขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะประชาชนมองแค่พื้นที่ตัวเอง ไม่ได้มองในมุมสูงให้เห็นรอบด้าน

ประชาชนคิดแต่ว่า พื้นที่ของเราต้องไม่ท่วม เมื่อต่างคนก็ต่างกั้นพื้นที่ตัวเองไม่ให้ท่วม มันเลยยิ่งท่วมครับ

วันนี้กำลังน้ำเหนือเริ่มอ่อนลงแล้วครับ

ดูง่ายๆ อยุธยาจมน้ำเมื่อ6 ตุลาคม แค่ไม่ถึงเดือน เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในหลายท้องที่ โดยเฉพาะอำเภอเมือง

แต่กรุงเทพฯ มีระบบระบายน้ำดีกว่า ถ้าท่วมน่าจะผ่านได้เร็วกว่าอยุธยาครับ

ตอนนี้กลัวแต่ว่า จะมีขบวนการแดงใต้ดินที่ฟอร์มเป็นชาวบ้าน มาช่วยทำกรุงเทพฯจมจริงๆน่ะสิครับ


--------------------------

ความล้มเหลวของศปภ. และนายกฯปูหญ้าแพรก

นั่นคือ ไม่สามารถสื่อสารให้ประชาชนเชื่อฟังได้ เราจึงจะได้เห็นความขัดแย้งของประชาชนกับเจ้าหน้าที่ไม่จบไม่สิ้น

ศปภ. ขอร้องให้ชาวบ้านชุมชนวัดนาวงอย่ารื้อคันกั้นน้ำเน่าเข้าคลองประปา แต่ก็ไม่สำเร็จ

อย่างวันก่อนถ้านายกฯไม่ไปก้มกราบชาวบ้านย่านคลอง8 คลอง9 ก็ไม่มีทางหรอกที่เขาจะยอมให้เจาะพนังกั้นน้้ำช่วยระบาย


------------------

เขตที่ชาวบ้านชอบรื้อคันกั้นน้ำมักเป็นเขตเพื่อไทย

อย่างเขตดอนเมือง ชาวชุมชนวัดนาวง ที่รื้อคันกั้นน้ำของการประปาจนน้ำเน่าเข้าคลองประปา นี่ก็เขตของเพื่อไทย สส.การุณ

อย่างเขตคลองสามวา ที่ชาวบ้านปะทะกับเจ้าหน้าที่เรื่องเปิดประตูระบายน้ำ ก็เขตของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.เพื่อไทยเหมือนกัน

หรืออย่างจังหวัดปทุมธานี ที่มีชาวบ้านชอบรื้อคันกั้นน้ำมากที่สุด หรือขวางการเปิดประตูระบายน้ำของเจ้าหน้าที่บ่อยๆนั้น ก็เลือกเพื่อไทยยกจังหวัดครับ

วันนี้จบดื้อๆแค่นี้แหล่ะครับ

ปูเอาอยู่ค่า!!



-->

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แค้นใจยิ่งนัก ยิ่งลักษณ์ไม่ทำตามในหลวง!!







ที่ผ่านๆมา ผมยังพอรับได้ว่า มันต้องท่วม เพราะมีผู้นำโง่ แต่วันนี้ผมเริ่มยอมรับไม่ได้ แถมยังเริ่มแค้นใจนัก ที่ผู้นำไม่ใช่แค่โง่อย่างเดียว แต่มันดื้อด้าน แถมเลวอีกด้วย

เพราะเมื่อคืนผมได้ย้อนดูคลิปแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปี38 ที่ในหลวงทรงเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวกับน้ำทั้งหมด เพื่อแก้วิกฤติน้ำท่วมปี38

ทั้งอธิบดีกรมชลประทานท่านปราโมทย์ ไม้กลัด ทั้งผู้ว่าฯกทม.กฤษฎา อรุณวงศ์ฯ

ย้อนดูในหลวงทรงแนะแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมปี38

แนวทางที่ในหลวงทรงแนะนำ เช่น

1. ทรงแนะให้เร่งระบายน้ำ ไปทางตะวันออก เร่งระบายโดยไม่ต้องกลัวตลิ่งจะพัง ไม่ต้องกลัวบ้านเรือนที่รุกล้ำคลองจะพัง เพราะถ้าพังให้ไปชดเชย แก้ไข ซ่อมแซม เยียวยากันทีหลัง ตอนนี้ต้องรักษากรุงเทพฯให้ได้ ไม่งั้นระบบเศรษฐกิจประเทศจะพัง จะเสียหายมากกว่า

แต่ปี54กรมชลประทาน กลับชี้แจงที่ในเว็บกรมชลฯ ว่า ที่ไม่เร่งระบายน้ำ เพราะกลัวตลิ่งพัง!?

ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าในหลวงเมื่อวันที่12ตุลาคม ในหลวงก็แนะให้เร่งระบายน้ำทางตะวันออก แต่จนถึงวันนี้ การระบายน้ำผ่านทางตะวันออก ก็ยังระบายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าเร่งระบายแต่เนิ่นๆ ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ได้ น้ำจะไม่ท่วมกรุง ถึงท่วมก็ไม่มาก!!

แต่นังปูมันก็ไม่เร่งทำ!!

คลิกรูปเพื่อขยาย!!



2. ทรงแนะให้เจาะถนนบางนาตราด เพราะถ้าไม่เจาะถนน ปล่อยให้น้ำเอ่อขึ้นเอง ไหลมาเอง ถนนจะยิ่งเสียหายมากกว่า ต้องเสียเงินซ่อมมากกว่าเจาะถนน

บ.ทีมกรุ๊ป ก็เคยเสนอแนวทางเจาะถนนก่อนใคร ดร.จากมหิดลที่ออกรายการคมชัดลึกเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็เห็นว่าควรเจาะ อาจารย์จากวิศวะจุฬาอีกคนที่ออกอีกรายการทางทีวีไทยวันเดียวกัน ก็เห็นว่าควรเจาะถนน

ดูรองผู้ว่ากทม.ออกรายการเจาะข่าวเด่นกับสรยุทธ ก็บอกว่า ควรเจาะถนน!!




แต่ปี54รมว.คมนาคมสุกำพล บอกถนนไม่ขวาง!! ไม่ต้องเจาะ แต่ในความเป็นจริง สมุทรปราการมีประตูระบายน้ำ มีเครื่องสูบหลายตัวรอน้ำอยู่ แต่น้ำไปไม่ถึง เพราะมีสิ่งกีดขวางมากมาย ทั้งโรงงาน ถนนหลายสาย

แนะนำย้อนอ่าน คนไทยต้องจมเป็นเดือนเพราะมีผู้นำโง่ (ผมอธิบายเหตุผลง่ายๆว่าทำไมต้องเจาะถนนชัดเจน)

2.1 ในหลวงยังได้ทรงยกตัวอย่างทางรถไฟในต่างประเทศว่า แม้แต่ทางรถไฟก็มีการวางท่อหรืออุโมงค์ใต้ทางรถไฟให้น้ำไหลรอดผ่านได้ เพื่อลดแรงปะทะของน้ำ

เพราะถ้าไม่ให้น้ำไหลผ่าน ทางรถไฟก็จะพังได้ง่าย ซึ่งทางรถไฟของไทยจะหาได้น้อยมากที่จะมีช่องเพื่อให้น้ำไหลผ่าน


3. ทรงแนะให้ใช้เครื่องเร่งน้ำ ช่วยการระบาย สมัยนั้นเครื่องนึงตกตัวละล้าน ในหลวงเคยได้ทดลองที่คลองวัดช่องนนทรีได้ผลมาแล้ว จากน้ำท่วม10ชั่วโมง เหลือท่วมแค่4ชั่วโมง

ซึ่งตามความเข้าใจของผม เครื่องเร่งน้ำที่ในหลวงทรงพูดถึง ก็คือ เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มี2หัว ติดตั้งตรงประตูระบายน้ำต่างๆ เพื่อช่วยให้น้ำไหลผ่านได้ดีขึ้น เพราะตามประตูน้ำต่างๆมันแคบ เพราะประตูเล็กกว่าคลอง จึงต้องมีเครื่องช่วยเร่งน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้เร็วขึ้น

คุณผู้อ่านครับ น้ำที่ไหลเข้าทางวิภาวดีและพหลโยธิน มันไม่ได้เร็วมาก ถ้าเร่งสูบทัน กรุงเทพก็จะไม่ท่วม ถ้าเรามีเครื่องเร่งน้ำไปติดตามประตูน้ำหลายจุด ก็จะช่วยเร่งให้น้ำไหลไปได้เร็วขึ้น

เครื่องเร่งน้ำ



แต่วันนี้ กรมชลประทาน บอกเครื่องสูบไม่พอ เครื่องสูบบางเครื่องเสีย ห่วยแตกจริงๆ

เมื่อเครื่องสูบไม่พอ นังปูหญ้าแพรก ควรรีบจัดหาระดมเครื่องสูบ แต่นังปูมันไม่ทำ มันคิดแค่สั่งซื้อจากจีน แล้วกว่าจะมาถึง ก็เมื่อสายไปแล้ว แทนที่จะระดมเครื่องสูบน้ำจากทั่วประเทศ วอนขอจากเอกชนที่มีก็ได้ มาช่วยก่อน แต่มันก็ไม่คิดทำ!!

(ข่าวแจ้งว่า เครื่องสูบน้ำที่รัฐบาลปูหญ้าแพรกสั่งซื้อล็อตแรก จะมาถึงอีก20วันเมื่อนับจากวันนี้)


4. วิธีจัดการเรื่องการขัดขวางของประชาชน ในหลวงก็ทรงพูดถึง ในหลวงทรงบอกว่า ถ้ามาขวางการเปิดประตูระบายน้ำ สุดท้ายก็ท่วมเหมือนเดิม แต่ถ้าปล่อยให้เปิดประตูระบายน้ำ ถึงท่วมก็ท่วมเร็วจบเร็ว ไม่ท่วมนาน เพราะแถวพื้นที่ตอนล่างนี้ ถ้าปล่อยให้เอ่อท่วมเองจะเป็นการท่วมน้ำเน่า!!

เมื่อในหลวงทรงแนะผ่านทีวีถ่ายทอดทั่วประเทศ ประชาชนทุกจุดก็หยุดขัดขวางการทำงานเร่งระบายน้ำของเจ้าหน้าที่ทันที แต่ยุคยิ่งลักษณ์ มีชาวบ้านพังคันกั้นน้ำ มีชาวบ้านขัดขวางการเปิดประตูระบายน้ำตลอดเวลา จนถึงวันนี้


5. มีช่วงหนึ่งทรงถามว่า รู้มั้ยทำไมเชียงใหม่น้ำท่วม? ในหลวงทรงเฉลยว่าไม่ใช่เพราะเขื่อนปล่อยน้ำ แต่เพราะแม่น้ำปิงเต็ม เต็มจากทรายตะกอน ฉะนั้นต้องปลูกหญ้าแฝก บนเนินริมตลิ่ง เพื่อป้องกันทรายลงไปในแม่น้ำ

แต่ปี54ยิ่งลักษณ์กลับบอกให้ปลูกหญ้าแพรก!??


6. ในหลวงทรงพูดถึง การรุกล้ำสร้างสิ่งปลูกสร้างบนทางระบายน้ำ ซึ่งรัชกาลที่5ได้ทรงกำหนดไว้เป็นพระบรมราชโองการเอาไว้ว่า พื้นที่ฝั่งตะวันออกเป็นflood way ใครมาสร้างแถวนี้ถือว่าผิดกฏหมาย!!

แต่ปี38 ก็มีคนสร้างสิ่งก่อสร้างขวางทางน้ำมากมายแล้ว มีโรงงานขวางทางน้ำมากมาย ซึ่งในหลวงแนะแนวทางแก้ไขระยะยาวไว้ด้วยว่า ต่อไปให้ฝังท่อขนาดใหญ่ลงไปใต้โรงงานพวกนั้น เพื่อให้น้ำได้ไหลผ่านได้ แต่จนวันนี้ก็ไม่มีรัฐบาลไหนทำตาม



---------------------

สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มาสร้างขวางทางน้ำไหล เพราะพวกนักการเมืองแก้ไขกฏหมายผังเมืองภายหลัง

แต่ยังดีที่สุววรณภูมิยังติดตั้งระบบระบายน้ำช่วยสูบน้ำลงทะเล แต่ ปีนี้น้ำกลับไม่ค่อยมาให้สูบที่สุวรรณภูมิ ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิมีเครื่องสูบขนาดใหญ่มาก แต่วันนี้กลับทำงานได้เพียง50%เท่านั้น เพราะน้ำยังมาไม่ถึง!?

นั่นเพราะมีสิ่งกีดขวางมากมายในทางน้ำไหล และกรมชลฯกลัวตลิ่งจะพัง

มีข้าราชการและนักการเมืองห่วยๆแบบนี้ไง กรุงเทพฯเมืองหลวงของไทยจะจมน้ำ

ผมบอกตามตรง ถ้ายิ่งลักษณโง่ ผมยังพอให้อภัย

แต่ถ้าไม่โง่ แต่เจตนาปล่อยให้น้ำท่วมกรุง แสดงว่าต้องเป็นคนเลวสุดๆ เพราะคิดแต่ปกป้องนิคมลาดกระบัง เพราะนักลงทุนญี่ปุ่นขู่เอาไว้ว่า ถ้าท่วมจะทิ้งฐานการผลิตที่เมืองไทย

และที่สำคัญคือสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ยิ่งลักษณ์เห็นว่าต้องปกป้องมากกว่ากรุงเทพฯ

อย่าเห็นสนามบินสำคัญกว่าเมืองหลวงและคนในกรุงเทพอีก10ล้านคน

ในส่วนประเด็นเรื่องนี้ ผมแนะนำอย่าพลาด!! บทความเรื่อง กรุณาอย่าเชื่อข่าวลือ!!

-----------------------

ก่อนจบ ผมขอนำหลักการบริหารน้ำที่ถูกต้องตามที่ในหลวงทรงอธิบาย

"ในหน้าฝน เขื่อนต้องกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ส่วนประตูระบายน้ำในตอนล่างต้องทำให้แห้งเข้าไว้ เผื่อรับการระบายน้ำจากเขื่อน"

แต่เหตุการณ์ปัจจุบัน ผู้คนต่างคิดว่าเขื่อนต้องพร่องน้ำในหน้าฝน ส่วนประตูน้ำกลับเปิดระบายไม่ได้เพราะกลัวท่วมนา (ผมถามหน่อยว่า ถ้าไม่ให้เขื่อนคอยเก็บน้ำในหน้าฝนไว้ใช้ จะให้รอไปเก็บน้ำในช่วงหน้าแล้งหรือไง)

นี่แหล่ะครับ การคิดที่สวนทางแนวพระราชดำริ มันถึงท่วมหนักในวันนี้

หรือเพราะมันคือแผนให้ท่วมกรุง เพื่อพวกมันจะได้หาเรื่องละเลงเงินหลายแสนล้านฟื้นฟูป้องกัน?


คลิกอ่าน สาเหตุน้ำท่วม54 ที่คุณอาจคิดไม่ถึง!!


-->

น้องเอิน กัลยกรวิจารณ์ยิ่งลักษณ์,คลิปแฉของบริจาค







อดีผมเพิ่งได้อ่านข้อเขียนที่เอิน กัลยกร อดีตนักร้องแกรมมี่วิจารณ์นายกฯปูเละ ว่า ไม่อยากจะนับว่าเป็นนายกฯหญิงคนแรกของไทย ผมขอตัดบางส่วนของข้อเขียนของคุณเอิน มีดังนี้

"จริงๆ ตอนที่คุณยิ่งลักษณ์ได้ตำแหน่ง ผู้หญิงทั้งในและต่างประเทศ ก็รู้สึกยินดีที่ประเทศไทยได้มีนายกหญิงคนแรก เราเองได้เขียนลงเฟซบุ๊คว่า ส่วนตัวไม่ถือว่าคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกหญิงคนแรก เหตุเพราะคุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับการเลือกตั้งเพราะความสามารถของเธอเอง แต่เป็นเพราะคนต้องการผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังเธอต่างหาก ประชาชนที่เลือกเธอ ไม่ใช่เพราะชื่อ "ยิ่งลักษณ์" แต่เป็นเพราะนามสกุล "ชินวัตร" ที่เป็นสิ่งการันตีว่าเธอคนนี้คือ "สายตรง" ดังนั้นเราจะนับว่าคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกไม่ได้

เราจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกจริงๆก็ต่อเมื่อ เธอคนนั้นต่อสู้ฟันฝ่ามาด้วยตัวเอง และพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า "ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถที่จะเป็นผู้นำประเทศได้" เท่านั้น

เธอทำให้เห็นเลยว่า ความละมุนของเธอนั้น จริงๆแล้วมาจากความอ่อนแอ

คุณยิ่งลักษณ์ตอกย้ำทุกวัน ว่าผู้หญิงอ่อนแอ ว่าผู้หญิงพูดจาเป็นงานเป็นการไม่รู้เรื่อง ว่าผู้หญิงคุมลูกน้องไม่ได้ ว่าผู้หญิงตัดสินใจไม่เป็น ว่าผู้หญิงเป็นผู้นำไม่ได้ สิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์ทำ หรือทำไม่ได้ ตอกย้ำว่าผู้หญิงทำงานใหญ่ไม่ได้ ว่าผู้หญิงสุดท้ายก็เป็นได้แค่ผู้หญิงวันยังค่ำ ที่ได้แต่แต่งตัวสวยไปวันๆโดยที่ทำอะไรไม่เป็น ...เสียค่ะ เสียหายอย่างยิ่ง

แล้วก็พาลสงสัย ว่าประวัติที่ผ่านมาของคุณยิ่งลักษณ์ ก็เป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ระดับประเทศทั้งนั้น แล้วบริษัทเหล่านั้นรอดมาได้อย่างไร สงสัยแม้กระทั่งว่าคุณยิ่งลักษณ์เคยทำงานเองจริงๆหรือไม่ หรือได้แค่ใช้วุฒิการศึกษาที่ดูดี แต่งตัวดีๆ แต่งหน้าดีๆ ไปนั่งเฉยๆ ให้บริษัทนั้นดูภาพลักษณ์ทันสมัยขึ้น แค่นั้น? ...ถามจริงๆเถอะ ความสามารถในการสื่อสารและการทำงานระดับนี้ ถ้าไม่มี "พี่ชาย" คอยผลักคอยดันอยู่ข้างหลัง ป่านนี้คุณยิ่งลักษณ์จะทำอะไรอยู่ที่ไหน? ให้เดานะคะ ...แต่งตัวสวยๆ กลางวันไปช็อปปิ้ง ไปสปา กลับมานั่งสวยรอให้สามีชื่นชม

สรุปคือผิดหวังค่ะ เสียใจ และรู้สึกแย่ที่ผู้หญิงซึ่งได้รับตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้คนแรก กลับทำให้ภาพลักษณ์ของผู้หญิงด้วยกันตกต่ำลงกว่าเดิม แต่งตัวสวยๆ หน้าผมเป๊ะนั้นไม่ผิดหรอกค่ะ ที่ผิดคือทำได้แค่นั้นจริงๆ

ยอมรับค่ะ ว่าการที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาก็กลัวเหมือนกันว่าจะมีผลกระทบกับชีวิต ว่าอาจจะมีผู้สนับสนุนนายกออกมาล่าหัว โทษฐาน "วิจารณ์ผู้นำอันเป็นที่รักยิ่ง" แต่ต้องพูดค่ะ พูดอย่างเป็นกลางโดยไม่ฝักฝ่ายทางการเมือง พูดในฐานะประชาชนในระบอบประชาธิปไตยที่สามารถวิจารณ์ฝ่ายการเมืองได้ ...พูดในฐานะที่เป็นผู้หญิง

ย้ำนะคะ ไม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์จะมาจากพรรคไหนก็ตาม หากได้เป็นนายกแล้วทำงานอย่างนี้ ก็จะออกมาพูดแบบนี้เหมือนกัน

เพราะคุณยิ่งลักษณ์ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ขี่ม้าขาว และเธอไม่ใช่สตรีในตำนาน (ก็อย่างที่คนข้างตัวเคยพูดไว้) สุดท้าย คุณยิ่งลักษณ์ ก็เป็นได้แค่ "สตรีขี่ม้าน้ำ" เท่านั้น

กัลยกร นาคสมภพ
26 ต.ค. 2554




ไปอ่านข้อเขียนเต็มๆของเธอได้ คลิกที่นี่

ซึ่งในมติชนก็ได้ลง ข้อเขียนของใครก็ไม่รู้ มาตอบโต้ข้อเขียนของคุณเอิน ซึ่งผมลองอ่านแล้ว ก็เห็นว่า ตรรกะของนายคนนั้น ตื้นเขินมาก เพราะพยายามจะบอกว่า ผู้นำหญิงคนอื่นก็อาศัยพื้นฐานจากครอบครัวเหมือนกัน

---------------------

ซึ่งประเด็นสำคัญ เรื่องปูเละได้ดีเพราะพี่ช่วย คงไม่อยากถือสา แต่ถ้าเข้ามาแล้วโง่พาชาติจมน้ำ อันนี้สิถึงได้โดนน้องเอินวิจารณ์

คุณผู้อ่านครับ ผมเองก็ไม่แปลกใจที่จะมี ผู้หญิงก้าวสู่ตำแหน่งทางการเมืองโดยมีพื้นฐานมาจากครอบครัวการเมืองมาก่อน เพราะนักการเมืองชายหลายคนเป็นแบบนั้นเหมือนกัน

แต่เมื่อขึ้นมาเป็นผู้นำแล้ว ก็ต้องพิสูจน์ด้วยว่า แม้จะมาจากครอบครัวสนับสนุน แต่ตัวเองก็มีความสามารถพอที่จะเป็นผู้นำที่แท้จริงได้ ไม่ใช่เป็นแค่หุ่นเชิดของพี่ชาย!!

ซึ่งจะพิสูจน์ว่า ผู้นำหญิงคนนั้นฉลาดหรือไม่ ดูแค่ไม่กี่วันก็รู้ครับ

และนายกฯหญิงที่โง่ที่สุดในโลก ผมยังมั่นใจว่าคือนายกฯปูเละแน่นอน!!

ผมขอสมมุติตัวอย่างประกอบ

ถาม นโยบายพรรคที่คุณยิ่งลักษณ์หาเสียง คิดเองรึเปล่าคะ

นายกฯปูเละ เปล่าฮ่ะ พี่ทักษิณคิด ดิชั้นขอทำฮ่ะ

ถาม ท่านนายกฯคะป่าไม้หมดไป เราจะหาอะไรมาซับน้ำแทนได้บ้างคะ

นายกฯปูเละ เราต้องปลูกหญ้าแพรกช่วยชลอน้ำฮ่ะ (อีก2วันถึงรู้ตัวว่่าพูดผิด)


ถาม ท่านนายกฯครับ ประตูน้ำบางโฉมศรีแตก เราจะแก้ไขอย่างไรดีครับ

นายกฯปูเละ ดิชั้นคิดว่า เราต้องแก้ไขโดยนำหินมาถมทะเลฮ่ะ (สิงห์บุรีมีทะเลตรงไหนวะ)

ถาม ท่านนายกฯคะ ประชุมครม.วันนี้สรุปว่าไงคะ

นายกฯปูเละ ครม.ได้มีการอนุมติซื้อเรือดำน้ำเพื่อดันน้ำออกทะเลฮ่ะ


ถาม ท่านนายกฯครับ น้ำท่วมขนาดนี้ นิคมอุตสาหกรรมจะรับไหวมั้ยครับ

นายกฯปูเละ ปูเอาอยู่ค่ะ!!

ถาม ท่านนายกฯครับ นิคมอุตสาหกรรมตอนนี้เป็นไงบ้างครับ

นายกฯปูเละ โอว..ปูรับไม่ไหวแล้วฮ่ะ โอว..แตกแล้วฮ่ะ

ถาม ท่านนายกฯคะ คนตายจากน้ำท่วมไป200กว่ารายแล้ว จะประกาศภาวะภัยพิบัติมั้ยคะ (ภาวะภัยพิบัติฉุกเฉินไม่ใช่พรก.ฉุกเฉิน)

นายกฯปูเละ ต้องขอศึกษาก่อนฮ่ะ เพราะดิชั้นไม่รู้จัก แต่คิดว่าไม่น่าจะประกาศ เดี๋ยวนักท่องเที่ยวแตก!!..ตื่น ฮ่ะ


ถาม ศปภ. จะย้ายมั้ยคะ

นายกฯปูเละ ไม่ย้ายฮ่ะ ดอนเมืองของท่านปลอด รับรองเอาอยู่ไม่ท่วมหมื่นเปอร์เซ็นต์ฮ่ะ


ถาม ตอนนี้สนามบินดอนเมืองน้ำท่วมแล้ว ศปภ.จะย้ายมั้ยคะ

นายกฯปูเละ จะยังไม่ย้ายฮ่ะ ต้องให้ผู้ประสบภัยย้ายออกไปหมดก่อน ศปภ.ถึงจะย้ายฮ่ะ


แต่สุดท้าย ศปภ.มันหนีไปแล้วทั้งคณะ ทิ้งผู้ประสบภัยอีก600กว่าคน อยูุ่ที่สนามบินดอนเมือง โดยไม่มีทั้งน้ำประปา และไฟฟ้า ใช้ฮ่ะ

-------------------------------

ทีนี้ผมขอนำวีดีโอแฉ โกดังจะเก็บไว้ทำพ่อ..มึงเหรอ ช่วงศปภ.เริ่มจะจม ก่อนจมน้ำสนิท






แล้วมาดูสภาพหลังสนามบินดอนเมืองจมแล้ว ส่วนศปภ.ก็ทิ้งประชาชน แถมปล่อยให้ส้วมลอยน้ำล้มลอยน้ำเละเทะ!! ไม่รู้มันจะเก็บไว้เยอะแยะทำไม?

ให้ดูคลิปข่าว3มิติ ตั้งแต่นาทีที่17.45 เป็นต้นไปครับ




เฉลย ที่แท้มันเก็บเรือไว้รอพ่นสีทับ

อย่างบ.แมกซ์ลายเนอร์ได้บริจาคเรือ มันก็มีคนเอาสีมาพ่นทับชื่อบริษัทเค้า ไม่รู้มันจะเอาไปเขียนชื่อสส.คนไหนบริจาคแทน




และพอวันรุ่งขึ้น นักข่าวถามเรื่องของบริจาคลอยน้ำ

นายกฯยังมึน ตามคลิปนี้






วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คนไทยต้องจมน้ำเป็นเดือนเพราะมีผู้นำโง่!!





ตั้งแต่รัฐบาลปูหญ้าแพรกเข้ามาบริหารจัดการเรื่องน้ำ ยังไม่เคยมีที่ใด ที่รัฐบาลทำสำเร็จ ยังไม่มีแนวทางใดที่ทำสำเร็จ

น้ำมีนี้มากมหาศาล รัฐบาลยังพูดอยู่ได้ว่า การระบายน้ำตามระบบที่มีอยู่ยังเป็นไปได้ดี?ดีจนจะท่วมทั้งกรุง!!

กรณีเจาะถนน ทีมกรุ๊ปผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำคือผู้เสนอแนวคิดนี้รายแรก

ต่อมาทางกทม.ก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ว่าควรเจาะถนน ซึ่งเขาได้ขีดเส้นไว้แล้วว่า ถ้าเจาะจะมีประชาชนเดือดร้อนน้อยกว่าไม่เจาะ เพราะถ้าไม่เจาะ สุดท้ายทางตะวันออกก็จะท่วมหนักกว่า และนานกว่า เพราะการระบายน้ำของระบบที่มีอยู่ระบายได้ช้า และไม่เพียงพอ

แต่สุดท้ายรัฐบาลปูหญ้าแพรกไม่เห็นด้วย  ซึ่งรมว.คมนาคมที่เป็นพลอากาศเอก แกบอกว่า แค่ขุดลอกคูคลอง และไปขจัดขยะและคอคอดตรงสะพานข้ามคลองก็น่าจะพอ เพราะแกขึ้นฮ.ไปดูแล้วว่าไม่มีถนนขวางทางน้ำ?

คุณผู้อ่านครับ นักวิชาการเชี่ยวชาญเรื่องน้ำ หลายคนบอกว่า วันนี้น้ำมีมากกว่าอุทกภัยหลายปีที่เคยมี ระบบระบายน้ำที่มีอยู่มันไม่พอ การดึงน้ำออกทางตะวันออกก็ยังน้อยไป จนน้ำทะลุเข้ากลางกรุงแทน

แต่รัฐบาลนี้กลับเห็นว่า ใช้การระบายน้ำตามแนวทางปกติที่มีอยู่ แล้วไปเร่งขุดลอกคูคลองก็พอแล้ว

เช่นตอนนี้ สมุทรปราการ มีประตูระบายน้ำมากมายหลายประตู มีเครื่องสูบอย่างดีรออยู่ แต่กลับไม่มีน้ำมาให้สูบ นั่นเพราะน้ำยังไม่ไม่ถึงสักที นั่นเพราะมีการกีดขวางน้ำจากสิ่งก่อสร้างมากมาย รวมทั้งถนนด้วย

----------------------

ผิดพลาดซ้ำแล้วซ่ำเล่า ก็ยังดันทุรัง

เราต้องยอมรับกันได้แล้วว่า แนวทางที่ผ่านมาของรัฐบาลยังไม่สำเร็จสักกะอย่าง ยังคงใช้แนวคิดเดิมๆ ใช้แก้ปัญหาน้ำที่มีมหาศาลกว่าปกติ

ทำไมรัฐบาลไม่ลองลดอัตตาตนเองลง แล้วลองใช้แนวทางที่กทม.เสนอดูบ้าง? ว่าจะทำให้การระบายน้ำดีขึ้นมั้ย?

รัฐบาลโง่!! แต่ยังคิดว่าตัวเองฉลาด เชื่อมั่นวิธีจัดการของตนเองมาตลอด แล้วก็เจ๊งมาตลอดเช่นกัน

คุณผู้อ่านครับ วันนี้น้ำมีมากผิดปกติ ถ้าที่ผ่านมารัฐบาลทำสำเร็จมาตลอดก็ว่าไปอย่าง แต่ที่ผ่านมาล้มเหลวแล้วล้มเหลวอีก รัฐบาลควรพิจารณาความโง่ของตัวเองได้แล้ว

-----------------------

คิดนอกกรอบ

แม้อาจารย์เสรี แห่งทีวีไทย จะบอกว่า ตอนนี้เจาะถนนไม่ค่อยมีประโยชน์แล้วก็ตาม แต่

เรื่องเล่าเช้านี้ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดาบอกว่า ถ้าเป็นผม ผมเจาะ เพราะตอนนี้ต้องหาทางระบายน้ำออกไปให้เร็วที่สุด มีทางไหนระบายควรรีบทำทันที ถ้าเจาะถนน แล้วกระทบคนในพื้นที่ ก็รีบชดเชยให้เขาเป็นพิเศษไป เยียวยาประชาชนหมื่นล้านดีกว่ากรุงเทพฯเสียหายหลายแสนล้าน!!

แต่วิธีคิดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์วันนี้คือ เอาน้ำผ่ากลางกรุง แล้วก็ใช้ระบบการระบายเดิมๆที่มีอยู่ต่อไป

ฉะนั้นถ้าประชาชนทุกท่านที่จมน้ำ น้ำระบายช้า ถ้าท่านจมน้ำเน่าๆเป็นเดือนๆ ก็ขอให้จำไว้ว่า ที่ระบายน้ำได้ช้าเพราะรัฐบาลปูหญ้าแพรกยังมีแนวคิดเดิมๆ คือคิดแค่ในกรอบ (ส่วนการเจาะถนนคือคิดนอกกรอบ)

ถ้ารัฐบาลคิดถูกมาตลอด น้ำต้องไม่ทะลุกรุง ดอนเมืองต้องไม่ท่วมหมื่นเปอร์เซ็นต์ แต่นี่รัฐบาลผิดพลาดมาตลอด ยังไม่สำนึก!!

ดร.จากมหาลัยมหิดล ที่ออกรายการคมชัดลึกวานนี้ ท่านเห็นด้วยกับแนวทางเจาะถนน ท่านบอกไว้ว่า

"เพราะนี่คือสภาวะการณ์ที่ไม่ปกติ ก็ต้องใช้วิธีการระบายน้ำที่ไม่ปกติไปสู้!!"

-------------------------

ถ้าผมakecity เป็นนายกฯ ถ้าผมเห็นว่า เครื่องสูบน้ำไม่พอ ผมจะออกทีวีกราบขอจากคนทั้งประเทศที่มีเครื่องสูบน้ำ ระดมเอามาช่วยเมืองหลวง

ถ้าผมเห็นว่ามีสวะมากมายเต็มคลอง ผมจะขออาสาสมัครมาช่วยกันขุดลอก ช่วยกันตักขยะ เพื่อช่วยเมืองหลวง

ถ้าผมเห็นประตูระบายน้ำถูกประชาชนขัดขวางซ้ำๆซากจนล่าช้า ผมต้องลงไปพูดคุยกับคนในพื้นที่เองตั้งนานแล้ว ถ้าผมไม่ลงไปเอง ผมต้องหาอำนาจพิเศษมาให้เจ้าหน้าที่จัดการแทนได้

ผมakecity ไม่ได้บอกว่า การเจาะถนนน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องเสมอไป

เพียงแต่ผมคิดว่า วิธีการใดที่รัฐบาลปูหญ้าแพรกมันคิดว่าผิด!! ผมกลับมองว่านั่นคือหนทางรอดของวิกฤติคราวนี้ครับ


ถึงเวลาที่เราต้องแลกหมัดกับน้ำแล้วครับ ถ้ายังใช้แนวคิดเดิมๆ ก็จมน้ำนานแน่นอน!!

รัฐบาลปูหญ้าแพรก = รัฐบาลโง่แต่ขยัน !!

---------------

ก่อนจบ ผมขอยกตัวอย่างความโง่ของรัฐบาลเพื่อไทยบาดาล อีกกรณีที่เห็นชัด

ภาวะน้ำดื่มขาดแคลน รัฐบาลปูโง่เลยสั่งนำเข้าน้ำดื่มจากมาเลเซีย!!

ผมถามว่า ประเทศไทยมี76จังหวัด จังหวัดที่น้ำไม่ท่วมหรือท่วมน้อย ไม่มีบริษัทคนไทยที่ผลิตน้ำดื่มบ้างเลยหรือ? ถึงต้องเสร่อไปสั่งน้ำดื่มจากมาเลเซีย?

ทั้งประเทศไทยไม่มีน้ำดื่มสะอาดในจังหวัดอื่นๆแล้วใช่มั้ย?

และณ.วันนี้ ผมมั่นใจแล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้ตรรกะที่ว่า สนามบินสุวรรณภูมิสำคัญกว่ากรุงเทพฯทั้งเมือง!!

--------------------

ปล.
ผู้ว่าฯกทม.ขอถุงกระสอบจากศปภ. เพื่อเอาไปสร้างคันที่คลองหกวา เพราะกทม.ขาดแคลนถุงกระสอบ
แต่กลับมีใครบางคนเอาถุงกระสอบของกทม.ไปให้โอ๊ค พานทองแท้บรรจุทรายกันน้ำเข้าบ้านจันส่องก้น
ไม่ได้โจมตีโอ๊คนะ ผมแค่สงสัยเท่านั้น?? ว่าใครมันเอาไปให้วะ!!




วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

histat





มีนายกฯฝึกงานพาชาติล่มจม!!






ผู้นำหญิงในโลก ล้วนมีจิตใจที่จะรับใช้ประชาชนมาตั้งแต่ต้น ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองอย่างเข้มข้น รู้ซึ้งถึงปัญหาของประชาชนมาก่อนทั้งสิ้น ถึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศได้

อย่างนางมากาเร็ต แธทเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ฉายาเธอคือผู้นำหญิงเหล็ก สามารถเป็นจอมทัพหญิงได้ นำอังกฤษเข้าสู่สงครามชิงเกาะฟอร์คแลนด์ จนได้ชัยชนะ

ประเทศไทยในภาวะวิกฤติเช่นนี้ เราต้องมีแม่ทัพที่เด็ดเดี่ยว กล้าตัดสินใจ ประมวลผลข้อมูลทุกด้านอย่างรอบคอบ และชี้ชัดไปเลยว่าจะใช้วิธีไหนในการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว จะมาเป็นแม่สายบัวไม่ได้

ทุกวันนี้ ขนาดน้ำทะลักถล่มจนประชาชนสาหัสขนาดนี้แล้ว เรายังได้ยินเรื่องความขัดแย้งในแนวทางการแก้ปัญหาอยู่เลย

เมื่อแนวคิดของคณะทำงานยังขัดแย้งกัน คนที่ฟันธงก็คือนายกรัฐมนตรี

แต่นายกรัฐมนตรีหญิงของไทย อยู่ๆก็ถูกพี่ชายจับมานั่งเป็นนายกฯ ไม่เคยผ่านวิกฤติ ไม่เคยผ่านสถานการณ์แก้ปัญหายากๆมาก่อน ไม่เคยคิดที่จะเป็นนักการเมืองมาก่อน

แค่เพียง40กว่าวัน ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ นี่จึงเป็นปัญหาสำหรับระบบความคิดของคนไทย

ที่คิดว่า ใครก็ได้ที่ทักษิณบอกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เลือกทั้ังนั้น นี่แหล่ะประชาธิปไตยแบบแม้วๆ

---------------------------

ขณะที่ทหารกำลังช่วยเหลือประชาชนอย่างเหนื่อยยาก นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ยังปล่อยให้ลิ่วล้อหน้าคางคกปากหมาอย่างนายจตุพรออกมาแขวะทหาร

ขณะที่บ้านเมืองกำลังวิกฤติ เราก็ได้เห็นสส.เพื่อไทยกัดกับนายณัฐวุฒิ และจตุพร เรื่องแย่งของบริจาคเพื่อแจกเอาหน้า

ตามสโลแกนพวกหนักแผ่นดินที่ว่า "เลียนายใหญ่เป็นงานหลัก กัดกันเองเป็นงานรอง"

"เผาเมืองเป็นเรื่องถนัด ช่วยประชาชนเป็นเรื่องเอาหน้า"

ในขณะที่ คลองประปาวิกฤติน้ำทะลักล้น เราก็ยังได้รับรู้ถึงความสถุลของสส.ดอนเมืองพาคนไปพังคันดิน

ในขณะที่นักข่าวอยู่ที่ศปภ. เราก็เห็นตลกฝืดอย่างเจ๋ง ดอกจิก กร่างวางอำนาจสั่งนักข่าวไปขนเรือ

นี่เพราะอะไร? ก็เพราะเรามีนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดที่ไร้ซึ่งอำนาจและความรู้ มาบริหารชาติน่ะสิ

ช่วงเวลาที่ชาติต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง เด็ดขาด เรากลับได้เด็กฝึกงานมาเป็นนายกฯ ไม่มีความพร้อมอะไรเลยในการบริหารประเทศ

เมื่อผู้นำโง่ ลูกน้องย่อมทะเลาะกันเอง การจัดการมันเลยไม่บูรณาการ แต่กลายเป็นบูรณาเกิน!! แย่งกันเอาหน้า ขัดแย้งกันเอง

นายปลอดประสพรับประกัน สนามบินดอนเมืองไม่ท่วมหมื่นเปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นไง?

ดั่งนรกชังฤาสวรรค์แกล้ง แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอเธอ!!

เวลาที่ศปภ.ออกมารับประกันเรื่องอะไรดีๆ จะกลายเป็นตรงกันข้ามทุกเรื่อง เหมือนสวรรค์แกล้ง

แต่ถ้าศปภ.ออกมาพูดอะไรที่เลวร้าย ก็กลายเป็นจริงทุกที เหมือนถูกนรกอวยพรประมาณนั้น

-------------------------

ยังแหลได้อีก

ขนาดนายกฯปูร้องไห้ต่อหน้าผู้สื่อข่าว สะอื้นซะขนาดนั้น ยังบอกไม่ได้ร้องไห้ ไม่ท้อค่ะ

โถๆพณฯท่าน เพราะท่านไม่ท้อนี่แหล่ะ มันถึงได้จมน้ำตายมาแล้วเกือบ400ศพ ถ้าท้อเร็วกว่านี้ รีบชิงลาออกตั้งแต่น้ำท่วมนนทบุรี หรือไม่ก็ให้ผบ.ทบ.บัญชาการแทน ป่านนี้กรุงเทพฯคงรอดน้ำท่วมไปแล้ว

เพราะวิธีแก้ปัญหาที่รัฐบาลหญ้าแพรก ทำได้เท่านั้นคือ บอกให้คนกรุงเตรียมความพร้อมอพยพ

คนอยู่ในกรุงเทพฯ หลายล้านคน จะให้อพยพไปไหนคร้าบ? รถทหารที่จะมารับต้องมีกี่คันถึงจะพอ ไปเอารถบรรทุกของบริจาคเพื่อเอาหน้าของพวกเสื้อแดงมาช่วยรับด้วยสิ ทีเรื่องเอาหน้าเสนอหน้ามากันหลายคัน แต่พอให้ไปรับผู้อพยพดันไม่มีรถเสื้อแดงมาเลยสักคัน

ทำไมยุคปูจมน้ำ แดงทั้งแผ่นดินมันหายไปไหน ทำไมมีน้อยกว่าทหาร!!

ประเทศอื่นๆ ถ้าผู้นำแก้ปัญหาไม่ได้ เขาไม่ออกมาร้องไห้หรอก เขาลาออกไปนานแล้ว คนตายไปหลายร้อยแล้วนะครับท่าน กรุงเทพฯก็กำลังจะไม่รอด เพราะการบริหารจัดการที่ไม่บูรณาการเลย




--------------------------

วิกฤติแบบนี้ต้องให้ทหารจัดการถึงจะถูกต้อง

นายทหารเขาเรียนรู้เรื่องพิชัยสงคราม เขารู้เรื่องวินัย และการบริหารในภาวะสงคราม ตอนนี้ประเทศเปรียบเสมือนเจอข้าศึกล้อมเมือง มันต้องได้ผู้นำทัพที่เข้มแข็งเท่านั้น ที่จะพาประชาชนรอดได้

ไม่ใช่ให้กาลีขี่ควายแดงมาบริหาร

วิกฤติขนาดนี้ ทุกครั้งที่นายกฯออกมาแถลง ก็ยังต้องอ่านโพยตลอด แถมยังอ่านผิดอ่านถูก คนดูลุ้นจนเหนื่อยกว่าจะอ่านจบ

แค่สื่อสารกับประชาชนยังต้องพึ่งโพย แล้วประชาชนจะพึ่งอะไรเธอได้อีก

----------------------

หนทางเอาชนะน้ำให้กรุงเทพฯรอดยังพอมี ถ้าจัดการได้เร็วและถูกต้อง

ถามว่าท่านนายกฯหญิงขยันมั้ย? ผมว่าขยันครับ

แต่ถ้าสมัยนาซี มีคนขยันแบบนี้ ฮิตเล่อร์บอกต้องฆ่าทิ้งครับ

เพราะถ้าขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ บ้านเมืองก็ยิ่งวอดวาย..

แต่เอาเถอะ ยังเหลือโอกาสให้นายกฯหญิงแก้ตัว รักษากรุงเทพฯให้รอดได้ก็แล้วกัน

-----------------------

กลัวอย่างเดียว

คือตอนนี้ผมกลัวอีกเหตุผลนึง ที่จะทำให้กรุงเทพไม่รอดก็คือ

ถ้าศปภ.สามารถพบวิธีช่วยกรุงเทพฯรอด ทำให้น้ำที่กำลังไหลจากพหลโยธินกับวิภาวดีเกิดหยุดไหลเข้าเมืองได้

กลัวว่า จะมีคนแถวย่านดอนเมือง ตลาดสี่มุมเมือง เรื่อยมาจนถึงสะพานใหม่ที่จมน้ำอย่างหนักจะด่ารัฐบาลว่า ทำไมไม่ทำแบบนี้เสียแต่แรกล่ะวะ?

ถ้าเป็นเช่นนั้น รัฐบาลอาจซวยมากขึ้น ฉะนั้นจึงต้องแกล้งทำว่าแก้ปัญหาไม่ได้ น้ำมันเยอะเกินไป จะได้ไม่มีใครโทษรัฐบาล!!

ขอให้ผมคิดผิดเถอะ


คลิกอ่าน กรุณาอย่าเชื่อข่าวลือ




-->


วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หลักฐานชี้ชัดน้ำท่วมเพราะให้ควายจัดการน้ำ!!







เฮ่อ.. มีผู้นำผิด คิดจนจมน้ำตาย!!

มีหลายคนด่าว่า เธอโง่ เธอเป็นแค่พริตตี้ประเทศเท่านั้น!?

มีหลายคนบอกว่า อุทกภัยพิบัติคราวนี้ คือยุคที่เอาปัญญาชนมากรอกทราย เอานักวิชาการไปแก้ปัญหาในทีวี แล้วเอาสมองหมาปัญญาควายมาจัดการเรื่องน้ำ

ไม่จริงๆ ผมไม่เชื่อถ้าไม่มีหลักฐานให้เห็นจะจะ

--------------------------

หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความโง่ของศปภ.

ตั้งแต่อยุธยาแตก นครสวรรค์แตก แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็ยังต้องคิดได้ว่า อย่าพยายามขวางน้ำแบบโง่ๆ

แต่ควายไม่มีเขาแถมสีแจ๊ดแจ๋ กลับคิดไม่ได้?

ถ้าคิดจะขวางน้ำ ต้องหาที่หาทางให้น้ำไหลไปได้ด้วย ถ้าแค่ขวางอย่างเดียว ที่ไหนที่นั่น เป็นแตกทุกราย โอว...ปูเอาอยู่!!

อาจารย์เสรี แห่งทีวีไทยผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ออกทีวีพูดเรื่องน้ำทุกวันจนดังไปทั่วประเทศ

อาจารย์เสรีเตือนว่า อย่าเอาอะไรมาขวางน้ำบนถนนวิภาวดีเด็ดขาด เพราะไปขวางจะไปยกให้น้ำสูง แล้วน้ำก็จะตีโอบเข้าอีกด้านอยู่ดี ไม่มีประโยชน์

พออาจารย์เสรีพูดปุ๊บ แถมอาจารย์ยังพูดให้คุณสรยุทธฟังซะด้วย

เช้าวันต่อมา ศปภ. แสดงมันสมองอันน้อยนิด ไปเอาหินคลุกยางมะตอย มาราดกั้นทางน้ำบนถนนวิภาวดีทันที!!

ดู ดู๊ ดู ดูมันทำ!! ทำไมมันถึงทำได้?

คุณผู้อ่านลองดูรูป รถทัวร์ที่ใต้ท้องรถติดคาบนเนินหินคลุก จนล้อยก ไปไหนไม่ได้ คาอยู่ตรงนั้น หน้าสนามบินดอนเมือง (ในรูปตรงกลางคือคุณสรยุทธ ที่ไปพบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง)

เพราะความโง่ของการบริหารแบบโง่ๆ แท้ๆ ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน!!



การเทหินคลุกของพวกปัญญาควาย เจตนาก็คือ ต้องการให้น้ำหน้าสนามบินดอนเมืองสามารถให้นายกฯสมองปูกับศปภ.เข้ามาทำงานได้ที่นี่ต่อไป

สุดท้ายเอาไม่อยู่

แถมจุดที่เอาไว้กักตุนของบริจาค ไว้ให้เสื้อแดงเอาไปแจกเอาหน้านั้น ก็ถูกน้ำเข้าท่วมไปแล้วเมื่อวานนี้ ต้องย้ายไปที่คลังสินค้าในที่สุด

ส่วนนายกิตติรัตน์ ก็อีกคน เห็นๆอยู่ว่าน้ำท่วมถนนวิภาวดีเรื่อยๆ วันก่อนดันเสนอแนวคิดให้ใช้ดอนเมืองเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้ห้างอีก

โถๆ แค่กระจายของบริจาคให้เสื้อแดงไปแจกเอาหน้าอย่างเดียว คนเขาก็ครหากันทั้งประเทศอยู่แล้ว

นี่ยังจะเอาของบริจาคไปให้ห้างขนไปขายอีก รึเปล่าวะ??

สงสัยกำลังคิดหาเงินไปจ่ายค่าศพละ10ล้านให้เสื้อแดง รึเปล่า?


สุดท้ายแม้แต่ที่ๆสูง อย่างสนามบินดอนเมือง ก็ถูกน้ำท่วมในที่สุด เครื่องบินจอดในน้ำ!!

ไม่รู้เป็นเพราะน้ำมาเยอะ หรือแผ่นดินตรงนั้นมันเกิดต่ำลงกระทันหันกันแน่หว่า?

---------------------------------

ก่อนจบ ผมขอเล่าอีกสักนิด พอดีเมื่อตอนสี่ทุ่ม ผมดูข่าวทีวีไทย ได้อ่านsmsที่หน้าจอ

มีข้อความถามว่า "อีกกี่วันน้ำถึงจะถึงหนองจอกครับ"

ผมอ่านแล้ว รู้สึกเศร้าจริงๆ เพราะจะทำให้ข่าวลือที่ว่า

มีการเจตนาจงใจปล่อยน้ำให้ท่วมกรุง ดูท่าจะเป็นจริง

เพราะเขตหนองจอก ปกติน้ำท่วมประจำเพราะแถบนี้เป็นทางที่น้ำจะไหลผ่านตามธรรมชาติ แถมอยู่นอกคันกั้นกทม. ยิ่งถ้าน้ำมามากแบบนี้ หนองจอกไม่น่าจะเหลือที่แห้งแล้ว

แต่ปีนี้แปลก!! ที่ต่ำอย่างหนองจอก ลาดกระบัง สมุทรปราการ น้ำกลับไม่ค่อยท่วมเหมือนทุกปี

แต่สนามบินดอนเมืองน้ำกลับท่วมแทน!!


----------------------

สมุทรปราการน้ำไม่ท่วม!!

ผมได้นำแผนที่จากthaiflood ของวันที่26ตุลาคม54 มาให้ดู

แผนที่บริเวณน้ำท่วม สียิ่งเข้ม แปลว่า ท่วมหนัก

หมายเลข1คือกรุงเทพ เลข6คือนนทบุรี เลข7คือปทุมธานี เลข8คืออยุธยา เลข9คือสุพรรณ

และที่น่าสังเกตคือ หมายเลข2 คือจังหวัดสมุทรปราการ สีขาวสะอาด!! ไม่มีน้ำท่วม!!



นั่นเพราะก่อนจะถึงสมุทรปราการ เส้นทางน้ำผ่าน(flood way) ได้ถูกสิ่งปลูกสร้างขวางน้ำไว้มากมาย ทั้งๆที่ปกติสมุทรปราการ แค่เจอน้ำทะเลหนุนหน่อยเดียวก็ท่วมแล้ว ตามข่าวนี้ คลิก!!


คลิกอ่าน  ฤาจะเจตนาให้กรุงเทพเสียกรุงฯ






วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฤา จะเจตนาให้กรุงเทพฯเสียกรุง?






ช่วงนี้ผมเริ่มได้ยินคนวิพากษ์วิจารณ์ศปภ.และรัฐบาลสมองปูหญ้าแพรกหนาหูแล้วว่า

มีมือที่มองไม่เห็น มีผูัมีบารมีนอกประเทศ มีเจตนาที่จะให้กรุงเทพจมน้ำจริงๆ ตามคำพูดที่ว่า

"ถ้าผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าอยู่เป็นสุขเลย"

คนกรุงเทพส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบผู้มีบารมีนอกประเทศคนนี้ จึงสร้างความเจ็บแค้นให้เขามากๆ ยิ่งเขาเห็นคนกรุงเทพฯเอาดอกกุหลาบไปให้ทหารเมื่อปี49

ภาพบาดตานี้ ทำให้เขาแค้นใจยิ่งนัก!!

-----------------------

อาจารย์ศศิน

คุณผู้อ่านรู้จักมั้ยครับ อาจารย์ศศิน เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร อาจารย์คนนี้ออกทีวีในช่วงนี้บ่อยมาก เสนอแนวคิดช่วยให้กรุงเทพฯรอด อะไรที่อาจารย์ไม่เก่ง ไม่รู้ ก็ไปปรึกษาผู้รู้แล้วเอามาย่อยให้พวกเราได้รู้ ว่า รัฐบาลควรจะทำอย่างนั้น ควรจะทำอย่างนี้ เพื่อช่วยให้กรุงเทพฯรอด

ผมชอบคำพูดของอาจารย์ศศิน อยู่ครั้งนึงทางทีวีไทย อาจารย์บอก บ้านอาจารย์อยู่อยุธยาก็ท่วม บ้านที่ปากเกร็ดก็ท่วม แต่อาจารย์บอกว่า ถ้าช่วยให้กรุงเทพชั้นในรอดได้ ต่อให้บ้านอาจารย์ท่วมสูงกว่านี้ อาจารย์ก็ยอม

เพราะอะไรรู้มั้ยครับ?

อาจารย์ศศินบอกว่า อย่างน้อยผมก็อยากให้กรุงเทพฯเหลือที่แห้งๆ เหลือโรงพยาบาลแห้งๆดีๆไว้ให้ผมพึ่งพายามเจ็บป่วยบ้างสิครับ ถ้ากรุงเทพฯท่วมหมดแล้วจะไปโรงพยาบาลที่ไหนได้อีก

พอดีวันนี้ผมนั่งแท๊กซี่ ได้ฟังอาจารย์ศศินให้สัมภาษณ์กับสวพ.91 อาจารย์ศศินพูดแบบ แบบ แบบไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว

อาจารย์ศศินบอกว่า อาจารย์ไประดมนักวิชาการหลายๆด้านมาช่วยคิดช่วยทำ หาทางช่วยกรุงเทพฯชั้นในให้รอด แล้วเอาไปเสนอวิศวกรรมสถาน ซึ่งก็เห็นด้วย แล้วนำเสนอไปให้ศปภ.

แต่สุดท้าย รัฐบาลและศปภ.ไม่ได้ทำตาม เหตุการณ์ก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์ศศินแกบอกว่า ก็เราเลือกเขามาแล้วทำไงได้ ก็ต้องเชื่อผู้นำพาชาติพ้นภัย คงทำได้แค่นี้แหล่ะ

อาจารย์ศศินให้สัมภาษณ์หลังจากพนังกั้นน้ำตรงหลักหก เมืองเอกแตกอีก

-------------------------

ขอยกจากข่าวที่ อาจาย์ศศินให้สัมภาษณ์มาส่วนนึง

นายศศิน กล่าวว่า เมื่อวานดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา บอกว่าจากภาพดาวเทียมแสดงว่าน้ำมวลใหญ่อยู่ทางฝั่งตะวันตกมากกว่า ทีนี้ฝั่งตะวันตกระบบระบายน้ำมีแค่ระบบท่าจีน ปกติธรรมชาติของน้ำต้องลงฝั่งตะวันออก ก็คือ คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง เพื่อที่จะหาทางรอดมอเตอร์เวย์ บางนาตราด ไปลงทะเล โดยจะลงคลองหลัก ๆ คือคลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต แต่วันนี้เขาไม่เอาน้ำลงฝั่งนี้เลย แต่ไปเอาผ่านคลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลองหกวา คลองระพีพัฒน์ ไปลงฉะเชิงเทรา ลงนครนายกหมดเลย ทำให้พื้นที่น้ำท่วมด้านบนก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ก็ต้องลุ้นยาวนาน เพราะการเอาน้ำมาแช่ที่รังสิตนครนายก หรือลำลูกกานานๆ คันจะเกิดการล้า แล้วจะพังหรือเปล่า

นายศศิน กล่าวอีกว่า น้ำมันย้อนผิดธรรมชาติ เขาดึงขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ อาจต้องการไปลงที่คลองไกลๆ เพื่อเบี่ยงหลบนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 5 แห่ง กับสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะคิดว่าน้ำขนาดนี้หากลงคลองสามวา หรือลาดกระบัง จะไม่มีอะไรทานอยู่

ถ้ารัฐบาลตัดสินใจแบบนี้ ตนก็แนะนำไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรขัดแย้งว่าจะระบายน้ำออกทางตะวันตก หรือตะวันออก แต่ที่ตนสนใจคือทำอย่างไรที่จะเสริมคันหลักหกจนถึงลำลูกกา ให้แข็งแรงขึ้น ตามหลักคือให้เอาน้ำเสริมชั้นสอง แต่วันนี้มันเลยเวลามาแล้ว เขาคงไม่เอาแล้ว ก็คงลุ้นกับคันชั้นเดียวแตก ก็ไม่เป็นไร


---------------------------------

กรณ์ ชี้มีความพยายามปกป้องพื้นที่ฐานเสียงตัวเอง

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า 
"พื้นที่ที่เคยท่วมตามธรรมชาติ เช่น มีนบุรี หนองจอก กลับไม่ท่วม แต่น้ำกลับทะลักมายังพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ ซึ่งเป็นเพราะประตูน้ำพระอินทร์ราชา หรือ ประตูดำ ชำรุดมานาน 1 เดือนแล้วแต่ไม่มีการซ่อมแซม โดยนายกรัฐมนตรีกลับแก้ปัญหาด้วยการให้รองอธิบดีกรมชลประทานถือกุญแจเปิดปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งไม่มีประโยชน์เพราะประตูพัง สิ่งที่ต้องทำคือซ่อมแซมให้ใช้งานได้ เพราะขณะนี้น้ำจำนวนมากทะลักเข้า กทม.จากจุดนี้ เชื่อว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ถูกย้ายจากตำแหน่งไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เพราะไม่ยอมรายงานเรื่องประตูดำชำรุด ปล่อยน้ำทะลักเข้า กทม. เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ปทุมธานีของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ ควรจะมีการระบายน้ำตามธรรมชาติด้วยการเปิดประตูคลอง 8-13 เพื่อระบายน้ำเพิ่ม แต่ตรงส่วนนี้ก็จะกระทบพื้นที่สมุทรปราการและฉะเชิงเทรา

"หากรัฐบาลยังไม่รีบตัดสินใจทำในสิ่งที่ควรทำตามหลักวิชาการ ก็มีความเป็นไปได้น้ำท่วม กทม.ทั้งหมด สูงประมาณเมตรครึ่งยาวนาน 1 เดือน จึงอยากให้รัฐบาลรู้ว่า เรื่องนี้เป็นความเสียหายที่หลีกเลี่ยงได้ จึงต้องรีบดำเนินการก่อนสิ้นเดือนที่น้ำทะเลจะหนุนจนทำให้ศักยภาพการระบายน้ำลดลง"


------------------------

จากที่ผมนำคำสัมภาษณ์มาให้อ่าน ถ้าพวกนิยมรัฐบาลมาอ่านที่ผมเขียนในบทความนี้ เขาก็ต้องบอกว่าผมเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็ต้องเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลอยู่แล้ว ผมน่ะแม้ไม่เห็นด้วย แต่ก็ภาวนาให้รัฐบาลทำสำเร็จปกป้องกรุงเทพฯได้

เคยได้ยินแนวคิดที่นักวิชาการเสนอว่า ควรเจาะถนนมอเตอร์เวย์ และบางนาตราดบางช่วง เพื่อให้น้ำผ่านได้เร็วขึ้น

ได้ยินมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่นายกฯปูบอกว่า การระบายน้ำยังควบคุมได้ เลยยังไม่อยากใช้วิธีเจาะถนนให้น้ำผ่าน

แล้วนายกฯปูจะต้องรอให้มันวิกฤติเกินเยียวยาก่อนหรือไง ถึงคิดเจาะถนนมอเตอร์เวย์?

ตอนนี้ถ้ามีหนทางใดที่ทำให้น้ำไหลลงทะเลได้เร็วที่สุด ต้องรีบทำทันที ไม่ใช่มัวแต่รอให้รับมือไม่ไหวแล้วค่อยมาคิดทำ ซึ่งอาจจะสายเกินไป

เจาะถนนไม่ใช่เรื่องยาก เจาะแป๊บเดียวแล้วเอาท่อขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางสัก2เมตรฝังไว้ใต้ถนนสักกี่ท่อก็ตาม แล้วให้น้ำไหลทะลุผ่าน ทำจริงๆแป๊บเดียวก็เสร็จ วางท่อขนาดใหญ่เสร็จก็รีบถมถนนให้สัญจรได้ทันที

ควรยอมเสียถนน ดีกว่าปล่อยให้เสียกรุง แต่ก็ไม่รีบทำ!!

ศปภ.ยังใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ คือไม่ทำก่อนน้ำจะมา แต่ปล่อยให้น้ำมาจนวิกฤติแล้วคิดจะทำ ซึ่งก็จะคิดไม่ค่อยออก

(อาทิตย์ที่แล้วก็รายการคมชัดลึก คุณจอมขวัญไปเขตลาดกระบัง ถนนยังแห้งสนิทจริงๆ)

--------------------

นักลงทุนญี่ปุ่นเคยพูดว่า ถ้านิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังจมน้ำอีก นักลงทุนญี่ปุ่นอาจถอนการลงทุนออกจากประเทศไทย

นี่อาจเป็นสาเหตุนึงที่นายกฯปูไม่ปล่อยให้น้ำจำนวนมาผ่านไปทางลาดกระบังเท่าที่ควร เลยผ่ากลางกรุงเทพฯดีกว่า ประตูน้ำตรงไหนที่แตก ก็ไม่คิดจะรีบซ่อม เพราะเจตนาคือต้องการให้น้ำทะลุใจกลางกรุง

เมื่อไม่อยากให้น้ำไปทางนั้นมาก ก็เลยต้องให้ผ่านใจกลางกรุงแทน

อย่างดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร  เคยพูดเมื่อคืนวันจันทร์ทางทีวีไทยว่า ถนนวิภาวดีฯไม่ควรเอาอะไรไปขวางถนน เพราะจะไปยกให้น้ำยิ่งสูง

เช้าวันรุ่งขึ้น ศปภ.สั่งเทหินคลุกไปกองขวางถนนทันที แล้วก็ขวางไม่ได้อยู่ดี

คนที่ประชาชนเชื่อถืออย่างอาจารย์เสรี เสนอแนวทางเยอะแยะ แต่รัฐบาลกลับไม่ค่อยสนใจ




วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กำแพงกั้นน้ำแตกเพราะยิ่งลักษณ์






ให้หยุดคลิปในนาทีที่ 3.48 คุณจะเห็นรอยรั่วน้ำแตกทะลักออกมาจากกำแพง และจะเห็นรูปท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ติดอยู่เหนือตรงจุดที่แตก!!




ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลองให้ท่านยิ่งลักษณ์ลาออกเถอะ คันกั้นน้ำต่างๆที่เคยแตกอาจหยุดแตกทันที!!


ทำไมนายก คนนี้พูดไม่เหมาะสม เป็นผู้หญิงแท้ๆ

เวลาสัมภาษณ์สื่อ
พูดได้ไงว่า "เอาอยู่ เอาอยู่"

ซักพักก็บอกว่า "แตกแล้ว แตกแล้ว"

เสร็จแล้วก็บอกว่า " รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น!? "
โอวพระเจ้า!!

แถมบอกให้ประชาชน "ช่วยตัวเองไปก่อน "

โอว ประชาชน สับสนนะนี่ ว่าน้ำไหนจะท่วม

ขำขำ เอาจากเค้ามาอีกที ............ ขอบคุณต้นฉบับ

CNX



------------

แดงฉวยโอกาส!!




-----------------------

ขอตั้งข้อสงสัย

เมื่อวันก่อน เห็นกิตติรัตน์บอกจะให้สนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์กระจายสินค้า

ผมล่ะงง? จริงๆ ว่า

ของบริจาคมากมายก่ายกองอยู่ในคาร์โก้ แต่คนเดือดร้อนข้างนอกบอกขาดแคลน

พวกเว็บแดงออกมาแก้ต่างว่า ของต้องอยู่ในคาร์โก้สิ ถ้าไม่มีของอยู่ในคาร์โก้ แล้วจะเรียกว่าคาร์โก้ได้ไง

ฉะนั้น ต้องมีของกองในคาร์โก้เยอะๆ จะได้โก้ ถ้าของมีไม่เยอะเดี๋ยวไม่โก้ ^^

แล้วถ้าให้ดอนเมืองเป็นศูนย์กระจายสินค้า บ้าเป่า? ถนนหน้าสนามบินดอนเมืองท่วมไปแล้ว

แล้วถ้าเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้ห้างเอาไปขาย ก็ยังงงๆว่า เอาของบริจาคไปขายอ๊ะเป่า?

ผม งง?? งวย?? กลัวมันจะมาปนกัน!!


คลิกอ่าน กรุณาอย่าเชื่อข่าวลือ






วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กรุณาอย่าเชื่อข่าวลือ!!






วันนี้ผมจะรวบรวมข่าวลือในช่วงน้ำท่วมหลายข่าว มาเล่าให้ฟัง แต่ขอย้ำก่อนว่า นี่คือข่าวลือที่ไม่มีหลักฐานอะไร ฉะนั้นกรุณาอย่าเชื่อความลือที่มีมูลแบบนี้นะครับ ^^

ข่าวลือแรก จังหวัดสุพรรณอยู่บนเขา!!

ทำไมน้ำไม่ท่วมสุพรรณบุรี ทั้งๆที่จังหวัดสุพรรณอยู่ในเขตกรมชลประทานแท้ มีคลองชลประทานระบายน้ำมากมาย จังหวัดอื่นเขาท่วมมาเป็นเดือนๆ สุพรรณยังแห้งสนิท ชาวนาสุพรรณได้เก็บเกี่ยวข้าวกันได้ อย่างน่าชื่นชม ช่างน่ายินดีกับชาวนาสุพรรณจริงๆ

สุพรรณเพิ่งเริ่มจะท่วมบ้างแล้ว หลังนาเก็บเกี่ยวเสร็จเมื่อปลายเดือนกันยายนนี่เอง แต่พื้นที่ส่วนใหญ่สุพรรณคงอยู่บนเนินเขา เลยรอดน้ำท่วม?

มีคนเขาลือว่า ที่นาสุพรรณไม่ท่วม เพราะเป็นนาที่พวกแขกอาหรับที่ทักษิณพามาทำสัญญาซื้อข้าวจากชาวนาสุพรรรณ เลยต้องรอให้เก็บเกี่ยวข้าวให้เสร็จก่อน แล้วค่อยปล่อยให้ท่วมสุพรรณบ้าง พอที่จะไม่โดนด่า

ข่าวลือที่2 ที่ปากน้ำ ก็ไม่ท่วม 

จังหวัดสมุทรปราการดินแดนที่เรียกว่าปากน้ำ เพราะเป็นทางที่น้ำต้องมาลงทะเลแถวนี้ แถมเวลาปกติบางครั้งน้ำก็ท่วมถนนบางสายได้ทั้งๆที่ฝนก็ไม่ตก เพราะน้ำเจ้าพระยาหนุนขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ

ผมล่ะสงสัยมาหลายวันแล้วว่าช่วงที่ผ่านมา ทำไมยังไม่มีข่าวสมุทรปราการน้ำท่วม ทั้งๆที่มีเครื่องสูบน้ำกำลังแรงรออยู่นับ20ตัว แต่น้ำยังไม่มาถึงสักกะที ผมเพิ่งจะรู้มาไม่นานนี่เองว่า เพราะก่อนจะถึงสมุทรปราการ ต้องผ่านเขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง เขตที่มีสส.เพื่อไทยคนดังเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่านแนวฟลัดเวย์นี้

เชิญคุณผู้อ่านไปอ่าน เรื่อง แฉ!! ใครแก้ผังเมืองฟลัดเวย์จน้ำท่วมใหญ่ คลิกที่นี่ แล้วคุณถึงบางอ้อว่า อ๋อ ไอ้พวกนี้เองที่ทำชาติล่มจม!!


ข่าวลือที่3

เพราะในหลวงเคยทรงไม่เห็นด้วยที่จะสร้างสนามบินที่หนองงูเห่า (อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ) เพราะหนองงูเห่าเป็นทางระบายน้ำและเป็นแก้มลิงธรรมชาติมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 แต่มีพวกนักการเมืองมันอยากกินทรายกินดินที่ถมหนองงูเห่า เลยฝืนธรรมชาติ ไปสร้างสนามบินที่หนอง!!

ทีนี้ถ้าปล่อยให้สนามบินสุวรรณภูมิจมน้ำ พวกมันก็จะโดนประชาชนด่าว่า บอกแล้วว่าไม่ควรสร้างสนามบินในหนองในบึงก็ไม่เชื่อ

ฉะนั้น สนามบินสุวรรณภูมิต้องไม่ท่วม ปล่อยน้ำผ่านกลางกรุงเทพฯให้มันท่วมไป เพื่อรักษาหน้านักการเมืองบางคน!!


----------------

ข่าวลือที่4

กรุงเทพต้องท่วม เพื่อจะได้มีเหตุผลในการย้ายเมืองหลวง ไปอยู่ที่ๆถูกโฉลกกับดวงคนบางคน แถมได้ตั้งงบมหาศาลสร้างเมืองหลวงใหม่ งาบกันอีกยาวๆ

-----------------

ข่าวลือที่5

กำลังเกิดเกมการเมืองของ2ขั้ว โยนความผิดกันไปมา ว่าใครที่ทำให้กรุงเทพฯท่วม เพื่อผลการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งต่อไป

ไม่ต้องไปเชื่อพรรคการเมือง แต่ประชาชนลองฟังสื่อและภาคเอกชน และต่างชาติแล้วกันว่า เขาด่าใคร? ก็ไอ้นั่นแหล่ะตัวทำให้ท่วม

---------------------

สำหรับความเห็นของผม

ถ้าไม่มีศปภ. มาเสือกเรื่องน้ำ จะไม่มีจังหวัดใดท่วมหนักเท่าปัจจุบัน

หน้าที่ของรัฐบาลคือเข้ามาแก้ไขปัญหา ถ้าแก้ไม่ได้ แล้วปล่อยให้น้ำไหลตามธรรมชาติ

แล้วจะมีศปภ.ทำแม้วทำไม?

ก็ปล่อยให้น้ำมันไหลผ่าน ไม่ต้องปิดสักประตูก็สิ้นเรื่อง ยุบๆไปเหอะศปภ. แล้วแผ่นดินไทยจะดีดตัวเด้งขึ้นเหนือระดับน้ำทะเลทันตาเห็น!!

ก็เอาพวกหนักแผ่นดินมาทำงาน น้ำจะไม่ท่วมได้ไง?

(ก็มีอย่างที่ไหน สส.พาประชาชนไปพังคันกั้นน้ำ แถมมีไอ้ตลกถ่อยๆกร่างที่สนามบินดอนเมืองอีกน่ะ ถ้าไม่เรียกว่าใช้พวกหนักแผ่นดินแล้วจะเรียกว่าอะไร?)

--------------------

แวะมาอัพเดทเพิ่มเติม!!

ข่าวลือที่6

มีการลงขันจากเจ้าของโรงงานในนิคมเพื่อให้รัฐบาลเลี่ยงการผันน้ำไปตะวันออกเพื่อลดความเสี่ยงของนิคมลาดกระบัง!!?


คลิกอ่าน ฤาจะให้กรุงเทพฯเสียกรุง?




ถ้ากรุงเทพฯรอดเพราะผู้ว่า แต่ถ้าท่วมเพราะ ศปภ.






มีการใส่ร้ายว่า กทม.ไม่ได้เปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งมันคือการใส่ความเพื่อเอาตัวรอดของพวกโง่ คือตัวเองโง่แต่ไม่ยอมรับว่าโง่ เลยปล่อยข่าวมั่วๆว่า กทม.ไม่ได้ระบายน้ำจากเหนือเข้ากทม.

ความเป็นจริง น้ำจากเหนือมันท่วมทางหนองจอก มีนบุรี นอกคันกั้นน้ำมานานเป็นเดือนแล้ว กทม.ก็ระบายน้ำเหนืออยู่ตลอดเวลาผ่านทางคลองแสนแสบ

แต่ถ้าจะให้กทม. ระบายน้ำเหนือที่มาจากคลองรังสิต มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหญ้าแพรกและศปภ. ที่ต้องให้กรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำแถวคลองรังสิตผันเข้ามาในกทม.ก่อนสิวะ

เมื่อก่อนหน้านี้ศปภ. ไม่เคยคิดผันน้ำเข้าคลองรังสิตมาก่อน เพราะมันโง่เอาแต่ปิดประตูตายมาหลายเดือน แล้วจะให้ กทม.เอาน้ำที่ไหนมาช่วยระบายให้วะ??

ทั้งๆที่มันควรผันน้ำเข้าคลองรังสิตตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมแล้ว เพื่อช่วยแบ่งภาระจากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่รัฐบาลปูหญ้าแพรกมันไม่เคยคิดจะทำ เพราะมันโง่!!

จนประตูระบายน้ำในจังหวัดปทุมธานีแตกแล้วแตกอีก จนปทุมจมบาดาล นนทบุรีต้องจมกว่า2เมตร เพราะความโง่ของรัฐบาลปูหญ้าแพรกนี่แหล่ะ ถ้าปล่อยให้น้ำไหลผ่านมาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ปิดตายแบบที่ผ่านมา ชาวนนทบุรีจะไม่จมน้ำแบบนี้

ขอให้พี่น้องชาวนนทบุรีและปทุมธานีจงรู้ไว้ ว่า เพราะความโง่ของรัฐบาลปูหญ้าแพรก ทำให้พี่น้องนนทบุรีและปทุมธานีจมน้ำ!!

----------------------------

นังปูหญ้าแพรก แก้ตัวน้ำขุ่นๆ

พอนวนครล่ม นังปูหญ้าแแพรกและลิ่วล้อ เพิ่งจะคิดได้ว่า ต้องผันน้ำลงคลองรังสิต ผ่านเข้ากทม. และผันออกทางด้านตะวันออก

แต่ถึงจะประกาศว่าจะทำอย่างนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะชาวบ้านในปทุมธานีหลายเขตเข้ามาขัดขวางไม่ให้เปิดประตูระบายน้ำ

เพราะนังปูมันโง่ มันไม่เข้าใจถึงเจตนาของพรก.ฉุกเฉิน2548 ที่ทักษิณพี่ชายมันออกไว้ เพราะเสื้อแดงมันเกลียดพรก.ฉุกเฉิน เพราะเสื้อแดงมันกลัวทหารจะกลับมาเป็นที่รักของประชาชนเหมือนเดิม มันเลยไม่ยอมประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน

ผมเคยได้อธิบายไปแล้วว่า ถ้ามีพรก.ฉุกเฉิน จะทำให้เจ้าหน้าที่ที่ลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ มีอำนาจในการจัดการกับพวกที่มาขัดขวางการทำงาน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจ ก็เลยไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำได้ทันท่วงที

------------------------------

นังปูเพิ่งจะให้รองกรมชลฯ และตำรวจเฝ้าประตูน้ำพระอินทร์

นังปูหญ้าแพรกเพิ่งจะฉลาดขึ้นมาหน่อยว่า ถ้าไม่ใช่พรก.ฉุกเฉิน ก็ต้องส่งผู้มีอำนาจลงไปคุมสถานการณ์ไม่ให้ประชาชนขัดขวาง

ข่าว - “ยิ่งลักษณ์” ใช้อำนาจตาม ม.31 พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มอบสิทธิขาดให้รองอธิบดีกรมชลฯ ถือกุญแจปิดเปิดประตูน้ำพระอินทร์ พร้อมให้ “คำรณวิทย์” จัดกำลังตำรวจสนับสนุน ห้ามประชาชนขวางการปิดประตูระบายน้ำ

นี่มันนังปูมันเพิ่งจะฉลาดจริงๆ ทั้งๆที่มันควรฉลาดให้เร็วกว่านี้ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน

ผมเองก็เคยแนะนำวิธีแบบนี้ไว้แล้วในบทความก่อนๆ ว่าถ้าไม่อยากใช้พรก.ฉุกเฉิน ก็ต้องส่งผู้มีอำนาจลงไปควบคุมจัดการด้วยตนเอง

--------------------------------

คลองประปาแตก เพราะความโง่ของศปภ.

จากข่าวทีวีหลายช่องรวมทั้งสรยุทธ ได้เคยรายงานไว้ก่อนแล้วว่า จุดอ่อนของกทม.อีกจุดคือ ต้นคลองประปา นายอภิสิทธิ์ ก็เคยพูดว่า น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาอาจจะทะลักเจ้าคลองประปาได้ เพราะคลองประปาไม่มีคันกั้น

แต่ศปภ. ก็ไม่สนใจ เพราะพวกมันเอาแต่นั่งในห้องแอร์ รอออกทีวี ไม่สนใจที่จะส่งคนลงไปจัดการป้องกันแก้ไข แม้แต่ชาวบ้านย่านบางกระดี ก็โทรไปแจ้งที่ศปภ.ตั้งแต่เช้าก่อนวันเกิดเหตุ1วันว่า เริ่มมีน้ำไหลเข้าคลองประปาแล้ว แต่ศปภ.มันไม่สนใจ

จนนายอภิสิทธิ์ไปเยี่ยมนิคมบางกระดี และชาวชุมชนแถวนั้นก็เลยฟ้องนายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ก็มาให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวว่า ควรระวังคลองประปาด้วย แต่ศปภ.มันก็ไม่สนใจฟัง

สุดท้ายน้ำทะลักเข้าคลองประปา ทำให้เขตดอนเมืองต้องเจอน้ำท่วม เรื่อยไปจนถึงเมืองทองธานี

ฉะนั้นชาวดอนเมือง และทุกท่านที่จมน้ำเพราะน้ำจากคลองประปานั้น มันเกิดมาจากความห่วยของศปภ.นั่นเอง

ผู้ว่าฯกทม. บอกว่า กทม.ไม่มีอำนาจออกไปจัดการที่ต้นคลองประปา เพราะมันอยู่ในเขตปทุมธานีเป็นอำนาจของ ศปภ.

กทม.ช่วยได้เพียงพยายามเร่งสูบน้ำลงคลองสามเสน

แต่ศปภ.มันก็ยังเฉยๆ ไม่กระเตื้อง สุดท้ายเขตดอนเมืองจมบาดาล

--------------------------------

สงสารผู้ว่ากทม. อุตส่าห์ไปช่วยมัน แต่เจ้าหน้าที่กทม.เกือบตาย!!

เมื่อเวลาประมาณตี2 ของคืนวันที่22ต่อวันที่23 ตุลาคม 2554 ผู้ว่ากทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปพยายามสร้างคันกั้นน้ำในจุดรอยต่อของถนนพหลโยธินตัดกับคลองรังสิตซึ่งอยู่นอกเขตกทม. ซึ่งทำให้น้ำท่วมบริเวณเซียร์รังสิตไปจนถึงอนุสรณ์สถานฯไหลไปจนถึงศปภ.

แต่เจ้าหน้าที่กทม.ที่อุตส่าห์ลงไปทำงานแทนศปภ.แท้ๆ กลับถูกชาวบ้านบริเวณนั้นออกมาต่อต้าน แถมมีการใช้ปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่กทม.

ทำให้ผู้ว่าฯต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่กทม.ล่าถอย

ทั้งๆที่น้ำตรงจุดนี้ จะเป็นน้ำที่ทำให้ท่วมถนนวิภาวดีและบริเวณถนนพหลโยธินแท้ๆ เป็นหน้าที่ที่ศปภ.ต้องไปจัดการ แต่มันก็ไม่ไปจัดการ ปล่อยให้หน้าสนามธูปะเตมีย์ก็ท่วมหนัก ลามเรื่อยไปจนถึงสนามบินดอนเมือง ส่วนอีกทางก็ไหลไปทางกองทัพอากาศและโรงพยาบาลภูมิพล ฯ

ศปภ.มันก็ไม่สนใจ ยังเฉยต่อไป

ฉะนั้นพี่น้องย่านนั้นจงจำไว้เลยว่า ที่น้ำท่วมตลาดสี่มุมเมือง เซียร์รังสิตเรื่อยไปนั้น ก็เพราะความห่วยแตกขั้นนรกของศปภ.นั่นเอง

สุดท้ายกลายเป็นว่า น้ำจะท่วมกรุงเทพฯชั้นในหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่จุดนี้แหละ ตรงจุดรอยต่อพหลโยธินกับรังสิตตรงอนุสรณ์สถานฯ ตรงบริเวณกลับรถใต้สะพานข้ามคลองรังสิต ชาวบ้านไปรื้อคันกั้นน้ำ

คลิกอ่านข่าวกทม.โดนชาวบ้านธัญบุรีขัดขวาง

----------------------

ศปภ. นี่หรือหน่วยงานภายใต้รัฐบาลประชาธิปไตย?

ถ้าเรามองไปที่ประเทศเจริญแล้วในโลก เวลาเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม เวลาหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบจะแถลงการณ์อะไร หรือแถลงข่าวอะไรเสร็จแล้ว

ต้องเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้ซักถามข้อสงสัย

สังเกตมั้ยครับ เวลาศปภ. แถลงข่าวจะแถลงข่าวฝ่ายเดียว เป็นการสื่อสารทางเดียว ศปภ.ไม่เปิดโอกาสให้นักข่าวซักถามข้อสงสัยเลย

เพราะอะไร? ก็เพราะพวกมันโง่ไงครับ ต้องพูดตามโพยกันทั้งศูนย์  ถ้านักข่าวไปถามอะไรนอกสคริปต์ มันตอบไม่ได้ ประชาชนจะรู้ความจริงว่าพวกมันโง่ยกชุด!!

--------------------------

ส่วนผู้ว่าฯกทม. แถลงเสร็จให้นักข่าวได้ซักถามทุกครั้ง

ดูคลิปนี้ทั้งหมดแล้วคุณจะเข้าใจว่า ท่านผู้ว่าฯได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ผู้ว่าได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านออกมาต่อต้านเจ้าหน้าที่กทม.

v

v

คลิกอ่าน กรุณาอย่าเชื่อความลือ!!



วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ยิ่งลักษณ์ ยิ่งนาน ยิ่งมิด






วันนี้ผมเข้ามาดึก เลยขอเขียนคร่าวๆแล้วกัน

ข่าววันนี้ยิ่งลักษณ์ประกาศใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 31

มาตรา ๓๑ ในกรณีที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายมีอำนาจสั่งการผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรวมตลอดทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ที่กำหนดก็ได้ โดยให้มีอำนาจเช่นเดียวกับผู้บัญชาการตามมาตรา ๑๓ และผู้อำนวยการตามมาตรา ๒๑ และมีอำนาจกำกับและควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และเจ้าพนักงานในการดำเนินการตามมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๘ และมาตรา ๒๙ ด้วย
เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณี

ผมขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆคือ

ยิ่งลักษณ์ต้องการอำนาจเพื่อเล่นงานผู้ว่าฯ กทม.ได้ นั่นเอง เพราะผู้ว่าฯ กทม.มาจากการเลือกตั้ง ตามปกตินายกรัฐมนตรีจะปลดหรือจะลงโทษผู้ว่าฯมันคงทำไม่ได้ง่ายๆ

แต่ถ้าใช้พรบ.ตัวนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจสั่งแกมบังคับว่า ผู้ว่าฯต้องทำตามคำสั่งนะ ถ้าไม่ทำตามคำสั่ง เดี๋ยวปูจัดหนัก!!

(แต่จากข่าวที่ศปภ.แถลงกลับบอกว่าเพราะพวกอบต.ไม่ทำตามคำสั่ง เลยต้องใช้พรบ.นี้มาจัดการ โถๆไปหลอกฟายแดงเถอะ )

-------------------------------

พรบ.สาธารณภัยมันต่างจากการใช้พรก.ฉุกเฉินอย่างไร?

มันก็ต่างตรงที่ พรบ.สาธารณภัย มันให้อำนาจนายกฯลงโทษองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น

ตามปกตินายกรัฐมนตรีก็มีอำนาจสั่งผู้ว่าฯได้ทุกจังหวัดและองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นได้อยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าประกาศใช้พรบ.สาธารณภัยด้วย มันเหมือนครูเอาไม้เรียวมาวางข้างๆลูกศิษย์นั่นแหล่ะ ถ้าลูกศิษย์ไม่ทำตามที่ครูสั่ง ครูก็ฟาดได้เลย

ส่วนพรก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฯ ให้จัดการกับผู้ที่เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้

จึงแปลความง่ายๆว่า พรบ.สาธารณภัย ให้อำนาจนายกฯจัดการเจ้าหน้าที่

ส่วนพรบ.ฉุกเฉิน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐจัดการประชาชน (ที่มาขัดขวางการทำงาน)

ฉะนั้น แม้นายกรัฐมนตรีจะสั่งเจ้าหน้าที่ให้ไปเปิดประตูระบายน้ำ สมมุติว่าประชาชนไม่ยอม เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจจัดการ

ในเมื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นคนลงไปเปิดประตูน้ำเอง ก็ควรหาอำนาจมาให้เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่หาอำนาจมาให้ตัวเองเพื่อเล่นงานเจ้าหน้าที่!!

------------------------------

ที่ผ่านมาร่วม2อาทิตย์ เราจะเห็นประชาชนออกมาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการสร้างคันกั้นน้ำ ขัดขวางการเปิดประตูระบายน้ำ

เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรประชาชนได้ นอกจากได้แต่ขอร้องแล้วขอร้องอีก

การที่ยิ่งลักษณ์ประกาศใช้พรบ.สาธารณภัย อาจไม่ได้แก้ต้นเหตุที่แท้จริง แต่เหมือนเจตนาต้องการเล่นงานทางการเมืองมากกว่า

ที่ยิ่งลักษณ์ประกาศใช้พรบ.สาธารณภัยเพราะยิ่งลักษณ์และศปภ.มองว่าผู้ว่าฯ กทม.คือตัวปัญหา เพราะมีความขัดแย้งในแนวทางแก้ปัญหาที่ไม่ตรงกัน

ยิ่งลักษณ์เลยต้องหาเครื่องมือแห่งอำนาจเพื่อจะจัดการผู้ว่ากทม.


------------------------------

ปล่อยน้ำเข้ากทม.

ทุกคนเห็นด้วยกับการให้น้ำผ่านเข้ามาในกรุงเทพฯ

ผู้ว่าฯกทม.ก็เห็นด้วยที่จะเปิดให้น้ำเหนือเข้ากรุงเทพฯ แต่ที่ทำให้รัฐบาลกับผู้ว่าฯ มีปัญหากันก็คือ

ผู้ว่าฯต้องการทราบปริมาณน้ำที่แน่ชัดที่จะผ่านเข้ากรุงฯ เพราะถ้าไม่รู้ปริมาณที่ชัดเจน ก็ยากที่ควบคุม

ส่วนศปภ. บอกว่าผู้ว่าฯให้เปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด โดยไม่แจงรายละเอียดถึงปริมาณน้ำว่าวันนึงเข้ามาเท่าไหร่ จุดไหนมากแค่ไหน เพราะ ศปภ.ก็ไม่รู้ตัวเลขแน่นอนเหมือนกัน

ยิ่งที่ผ่านมาศปภ.คาดการณ์ผิดพลาดมาตลอด คำนวณปริมาณน้ำผิดพลาดมาตลอด ฉะนั้นจากสถิติที่ผ่านมาของศปภ. จึงทำให้ ผู้ว่าฯเลยไม่มั่นใจว่าคำสั่งของศปภ.จะชัวร์หรือมั่วนิ่ม

ผู้ว่าฯคงคิดว่า ถ้าปล่อยน้ำเข้ามาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าแบบโง่ๆเหมือนสมอง ศปภ.

กรุงเทพฯมีหวังจมสนิท!!

นี่จึงเป็นปัญหาของการทำงานระหว่างรัฐบาลกับผู้ว่าฯกทม.


ในสายตาศปภ. มองผู้ว่าฯกทม.คือตัวปัญหา แต่ในสายตาคนกรุงเทพฯและปริมณฑลกับนักลงทุนต่างชาติ กลับมองว่า ศปภ.นี่แหล่ะคือไอ้ตัวปัญหาตัวจริง!!



คลิกอ่าน ถ้าน้ำท่วมกทม. ใครสมควรโดนด่าที่สุด!?




วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บูรณาการ แปลว่าอะไร?






เพราะเสื้อแดงมันชอบเรียกร้องความเท่าเทียมกัน พอน้ำท่วมฝั่งบ้านเสื้อแดงเพราะแถวบ้านตัวเองที่ต่ำกว่า แต่อีกฝั่งเขายังไม่ท่วม เจ้าหน้าที่ต้องเลือกสละบางส่วนเพื่อรักษาบางส่วนเพื่ออยู่รอด เจ้าหน้าที่จำใจต้องไปสร้างคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันด้านที่มีโอกาสรอดมากกว่าเอาไว้

แต่เสื้อแดงมันบอกไม่ได้ ทำอย่างนั้นบ้านมันจะจม ถ้าจะท่วมต้องท่วมเท่าเทียมกัน!!

เมื่อเย็นนี้ผมดูข่าว ชาวดอนเมืองออกมารื้อคันดินที่กั้นน้ำจากคลองประปา ชาวดอนเมืองผู้ซึ่งเลือกนายทารุณ โหดสถุลเป็นสส.ดอนเมือง ก็ออกมาขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ แล้วบอกว่า เราไม่ยอมถ้าจะท่วมต้องท่วมเท่าเทียมกัน!!

----------------------------

ทำไมประตูน้ำที่ปทุมจึงแตกซ้ำแล้วซ่ำเล่า?

นั่นเพราะ นังปูหญ้าแพรก (ขอเรียกแบบนี้เพราะเหลืออดแล้ว) ไม่กล้าใช้คำสั่งเด็ดขาดในการสั่งให้ประชาชนเสื้อแดงปทุม (จังหวัดปทุมเลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด) ยอมให้เปิดประตูระบายน้ำบ้างบางส่วนเพื่อลดแรงดันน้ำ

พอประตูน้ำทุกประตูไม่สามารถเปิดได้เลย น้ำก็มาออกันที่หน้าประตูมากขึ้นๆ สุดท้ายก็พังประตูเพราะแรงดันน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

เพราะเสื้อแดงปทุมไม่ยอมให้น้ำท่วมเลยสักนิด ทั้งๆที่เสื้อแดงอยุธยาเขาจมน้ำมาเป็นเดือนแล้ว

ถ้ายอมให้น้ำท่วมบ้างแค่ไม่เกินหัวเข่า ก็จะลดแรงดันน้ำตรงประตูน้ำได้มาก ประตูน้ำก็อาจไม่แตก น้ำก็ไม่ต้องท่วมหนักเกินไป

ทีนี้พอไม่ยอมให้เปิดประตูบ้างเลย สุดท้ายมันก็แตก แล้วมันก็ท่วมมิดหลังคา ทะลุจากสามโคกไปบางบัวทอง เสียหายยับเยิน เสียน้อยเสียยากก็แบบนี้แหล่ะ

-----------------------

วันนี้ก็ยังมีปัญหาเรื่องการเปิดประตูระบายน้ำ

เมื่อศปภ. บอกว่าต้องระบายน้ำลงคลองรังสิตทุกคลองเพื่อผันน้ำไปทางตะวันออกของกรุงเทพฯ แต่กลับเจอปัญหาว่า ประชาชนช่วงคลอง 8, 9, 11 และ 12 ไม่ยอมให้เปิดประตูระบายน้ำ จึงทำให้คลอง 13 ทำงานหนัก นอกจากนี้ยังพบปัญหาวัชพืช ประตูระบายน้ำเล็ก ทำให้การผันน้ำทำได้ช้า

นั่นไงครับ เจอปัญหาซ้ำซาก ขวางการระบายน้ำอีกแล้ว

เพราะอะไร? ก็เพราะนังปูหญ้าแพรก ตัวเองไม่กล้าทะเลาะกับประชาชน เมื่อตัวเองไม่กล้าออกหน้าเอง ก็ควรให้ทหารออกหน้าแทน ด้วยการประกาศพรก.ฉุกเฉินสิ เพราะยังไงๆทหารเขาก็ไม่ต้องห่วงเสียคะแนนจากเสื้อแดงปทุมอยู่แล้ว

แต่นังปูก็ไม่ทำ ไม่กล้าประกาศพรก.ฉุกเฉิน!! เพราะเดี๋ยวเสื้อแดงด่า!!

เอ้า! เดี๋ยวหลายคนจะสงกาสัย ว่าพรก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทำงานง่ายได้อย่างไร?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนครับว่า พรก.ฉุกเฉินฉบับปัจจุบัน ที่เสื้อแดงมันรังเกียจนักหนานั้น ประกาศใช้ในสมัยรัฐบาลทักษิณในปีพ.ศ.2548ครับ

ผมขอยกอำนาจตามพรก.ฉุกเฉินมาให้ดู2ข้อ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานในภาวะฉุกเฉินได้ง่าย เช่น

ข้อ1. ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวผู้ใดซึ่งต้อง สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินก็ดี ว่าเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้นก็ดี หรือว่าปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินก็ดี ทั้งนี้ เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อกันมิให้ผู้นั้นกระทำการหรือร่วมมือกระทำการใด ๆ อันจะทวีความรุนแรง หรือเพื่อระงับความรุนแรงโดยไม่ชักช้า

6. ประกาศห้ามบุคคลมิให้กระทำการใด ๆ หรือสั่งให้บุคคลกระทำการใด ๆเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ หรือความปลอดภัยของประชาชน


คุณผู้อ่านพอจะมองเห็นภาพมั้ยครับ?

ถ้ารัฐบาลมองว่าจำเป็นต้องรักษากรุงเทพฯเอาไว้ ถ้ามีใครมาขวางการรักษากรุงเทพฯ ก็เท่ากับทำให้กรุงเทพฯและประเทศชาติตกอยู่ในสภาวะฉุกเฉินครับ

คนกรุงเทพฯไม่ใช่สำคัญกว่าคนต่างจังหวัดเพราะ ทุกคนเท่าเทียมกัน!!

เพียงแต่กรุงเทพฯคือเมืองหลวงของคนทั้งชาติ  กรุงเทพฯคือหัวใจของเศรษฐกิจประเทศและเป็นหัวใจของการบริหารประเทศ ครับ

คนกรุงเทพฯจริงๆมีแค่5ล้าน แต่มีพี่น้องต่างจังหวัดเข้ามาทำงานอีก5ล้านครับ!! การรักษากรุงเทพฯก็คือการรักษาทั้งเมืองหลวงและรักษาคนกรุงเทพฯและคนต่างจังหวัดไปพร้อมๆกัน

ที่จริงเขาต้องการให้ประกาศตั้งแต่ตอนอยุธยาล่มแล้วครับ แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมประกาศ

ฉะนั้นการประกาศพรก.ฉุกเฉินไม่ได้ทำเพื่อคนกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ทำเพื่อคนไทยทุกจังหวัดครับ

การที่ปทุมธานี นนทบุรี จมน้ำ ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้าทะเลาะกับชาวบ้านหรือไปขอร้องชาวบ้าน เพราะกลัวเสียคะแนนนิยม ซึ่งถ้าไม่กล้า ก็ต้องให้ทหารจัดการแทนครับ

บางครั้งในยามฉุกเฉิน ก็จำเป็นต้อง จำกัดสิทธิคนบางส่วนเพื่อให้ส่วนรวมอยู่รอดครับ

เพราะคนไทยชอบใช้สิทธิเกินขอบเขต ไม่รู้จักคำว่าเสียสละ

เสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตครับ

การใช้พรก.ฉุกเฉิน ก็คือ กฏหมายที่จำกัดสิทธิประชาชนในภาวะฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ครับ

-----------------------

พรก.ฉุกเฉิน ไม่ไช่ให้อำนาจแก่ทหารเท่านั้น

ผมอยากจะบอกว่า พรก.ฉุกเฉิน ยังมีนายกรัฐมนตรีคือผู้มีอำนาจควบคุมสูงสุดเหมือนเดิม

กล่าวคือเป็นกฏหมายที่ให้อำนาจ นายกรัฐมนตรีอย่างกว้างขวาง หรือ อย่างเบ็ดเสร็จ

และยังให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เช่น กรมชลประทาน ตำรวจ ทหาร กทม. เจ้าหน้าที่รัฐที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ มีอำนาจในการควบคุมจัดการกับพวกที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ตามกฏหมายครับ

อย่าเข้าใจผืดคิดว่า พรก.ฉุกเฉินคืออำนาจของทหารเท่านั้น

อย่าเข้าใจผิดครับ!!

-----------------------

ไอ้ตู่ คางคกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ

ขณะที่ทหารออกมาช่วยเหลือประชาชนอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ไอ้ตู่กลับเดินสายไปเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง

ขณะที่อยุธยาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขนย้ายผู้ยังติดค้างในบ้านออกมา เรากลับไม่เห็นหัวแกนนำแดงสักตัว!!

วานนี้ไอ้ตู่ คางคก ออกมาพูดแนวคิดชั่วๆตามสันดานสัญชาติคางคกยางหัวไม่ตกไม่รู้สำนึก ว่า

"กองทัพไทยได้ใช้กำลังคน ยุทโธปกรณ์ครบถ้วนในพื้นที่รับผิดชอบแล้วหรือยัง ถ้าทหารได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือประชาชน ไม่มีการกั๊ก เทใจ และไม่คิดหวังผลรอวันหายนะ จากการแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่สำเร็จของรัฐบาล จะเป็นเหตุของการpatiwat ruttaprahan เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นเหตุของการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่"

ไอ้ตู่นี่ มันเลวได้ทุกสถานการณ์จริงๆ




-----------------------------

สรุปบูรณาการ แปลว่าอะไร?

จากเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่คราวนี้ "บูรณาการ" คือคำที่นังปูหญ้าแพรก ย้ำเสมอๆนั้น

ย้ำจนพวกนายทหารที่นั่งในศปภ. ยังติดเอาไปใช้เวลาแถลงด้วย

ฉะนั้นผมจึงขอสรุปว่า บูรณาการ ก็แปลว่า ท่วมเท่าเทียมกัน!!

ขอร้องอย่าขำ!!


คลิกอ่าน ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพฯใครสมควรโดนด่าที่สุด!!





ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพฯ ใครสมควรโดนด่าที่สุด!!






ก่อนอื่น เราต้องมารู้หน้าที่ของรัฐบาลหรือศปภ. และหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.ช่วงน้ำท่วมคืออะไร?

หน้าที่รัฐบาลในนามศปภ. คือต้องจัดการน้ำให้มีที่ไป ให้ไหลไปทางอื่นไม่ให้พุ่งชนกรุงเทพฯ

หน้าที่ผู้ว่ากทม. คือ ป้องกันกรุงเทพฯไม่ให้น้ำเข้ามา ด้วยการเสริมคันกั้นน้ำ และต้องเสริมอย่างแข็งแรงตามหลักวิชาการด้วย

ถ้ารัฐบาลไม่สามารถจัดการให้ช่องทางให้น้ำไหลเบี่ยงไปทางอื่นได้ น้ำต้องพุ่งชนกรุงเทพฯอย่างจัง ตูม!! เมืองหลวงของไทยกลายเป็นเมืองบาดาลทันที!!

เพราะถ้ารัฐบาลไม่จัดการให้น้ำไหลไปทางอื่น ต่อให้กรุงเทพฯมีกำแพงเหล็ก7ชั้น แถมให้ผู้ว่าอัญเชิญพระปางห้ามสมุทรมาห้ามน้ำพร้อมกัน7องค์ แถมลงอาคมมหาอุดกำแพงไว้ด้วย ก็เอามวลน้ำไม่อยู่ เพราะโลกนี้น้ำเป็นใหญ่ที่สุด เพราะน้ำมี3ใน4ของโลก

วิธีเอาชนะน้ำ ต้องไม่ใช่การขวางทางน้ำ แต่ต้องเป็นการโอนอ่อนผ่อนตามน้ำ ถ้าไม่อยากให้น้ำมาชนกรุงเทพฯตรงๆ ก็ต้องชวนน้ำออกไปเที่ยวรอบนอกแทน

แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ไม่รีบทำ ทั้งๆที่มีเวลาเตรียมการตั้งหลายวันตั้งแต่อยุธยาแตก แต่เธอก็ไม่ทำ จนปทุมแตกแล้ว เธอก็ยังไม่ทำ โดยอ้างง่ายๆว่า พี่น้องประชาชนไม่ยอมให้น้ำผ่าน!?

--------------------------

กรณีจังหวัดปทุมธานี และกรณีนวนครคือตัวอย่างความล้มเหลวที่เห็นชัดที่สุด

ผู้ว่าปทุมฯ แทบร้องไห้ คันกั้นน้ำสำคัญพังพร้อมกัน3จุด ทั้งทางฝั่งตะวันตก กับฝั่งตะวันออก ผู้ว่าฯปทุม แทบร้องไห้ ไม่สามารถรักษาเมืองไว้ได้ เพราะกำลังก็ไม่พอ เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่พอ วัสดุสำคัญๆอย่างเหล็กชีสพาย ก็ไม่มี

สุดท้ายผู้ว่าฯต้องทิ้งน้ำกลางคัน ในฝั่งตะวันตกด้านสามโคก จนน้ำท่วมอำเภอเมือง เรื่อยไปจนถล่มนนทบุรี แล้วมุ่งไปจัดการประตูฝั่งตะวันออกแทน เพราะใกล้กรุงเทพฯ

ผู้ว่าฯปทุมฯ ต้องวอนขอเอกชนช่วยบริจาคเหล็กชีสพายก็ได้ หรือจะให้ซื้อก็ได้ ช่วยหามาหน่อย ถ้าไม่ได้เหล็กชีสพาย ประตูน้ำคลองบ้านพร้าวจะซ่อมไม่ได้แน่นอน

จส.100ประกาศหาเหล็กชีสพายช่วย ก็ได้มาไม่กี่อัน กว่านายกฯและศปภ.จะสะดุ้ง!! ว่าประตูคลองบ้านพร้าวพังแล้ว กว่าจะส่งทหารมาช่วย กว่าจะได้เหล็กชีสพายจากบ.อิตาเลียนไทยมาช่วยก็ผ่านไปอีก2วัน มันช้าได้ใจจริงๆ

แล้วการที่ประชาชนมาขวางไม่ให้สร้างคันกั้นน้ำ หรือขวางไม่ให้เปิดประตูระบายน้ำ เจ้าหน้าที่ก็ไปจับประชาชนไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจทางกฏหมายจัดการ เพราะมันไม่ผิดกฏหมาย เพราะประชาชนปกป้องบ้านพวกเขา ใครก็ห้ามประชาชนไม่ได้หรอก

แต่ถ้ามีพรก.ฉุกเฉิน ให้ทหารมีอำนาจจัดการได้ เพราะถ้ามีใครขวางการทำงานในภาวะฉุกเฉินคือผิดกฏหมาย!! แต่ไม่เอา!! ปูไม่อยากทะเลาะกับพี่น้องของปู ไปทะเลาะกับน้ำดีกว่า ตูม!! นวนครพังไปอีก!!

ถ้าไม่อยากใช้พรก.ฉุกเฉิน เพราะนายกฯยิ่งลักษณ์มัวแต่เงอะๆะงะๆ ก็ควรสั่งให้รมต.ลงพื้นที่ไปสื่อสารกับประชาชนตั้งแต่แรกก็ไม่ทำ 

ถ้าประชาชนเขายอมให้น้ำท่วมบ้านเขา รัฐต้องชดเชยให้เขาเท่าไหร่? ถ้ามีรมต.ไปรับปากเองต่อหน้าสื่อมวลชนว่าจะชดเชยให้เขา ประชาชนเขาก็คงยอม

ที่ประชาชนเขาไม่ยอม เพราะเขาไม่รู้ว่า ถ้าเขาเสียสละให้น้ำผ่าน บ้านเขาพัง ทรัพย์สินเขาเสียหาย ใครจะช่วยเขา ปัญหามันคือตรงนี้!!

ทีนี้พอปล่อยให้น้ำเขาเที่ยวไปอย่างอิสระ ไปตามทางน้ำเขาเอง ก็เลยพังไปเป็นแถบๆ ไปที่ไหนท่วมหนักที่นั่น เพราะไม่มีการบริหารจัดการการไหลของน้ำเลย

------------------------

กรณีนวนคร

เราเห็นมาหลายนิคมอุตสาหกรรมแล้ว ว่าคันดินกับกระสอบทรายมันเอาน้ำไม่อยู่ เพราะน้ำเขาต้องมีทางไป เมื่อน้ำไม่มีทางไปแถมมีคันดินที่ไม่แน่นพอ เพราะจมน้ำนาน สุดท้ายมันก็ต้องพัง

ตอนนวนครคันแตกวันแรก ท่วมไป10% กรรมการบริหารนวนคร วอนขอให้นายกฯช่วยเจาะทางรถไฟผันน้ำลอดใต้ทางรถไฟไปบ้าง เพราะถ้าน้ำไม่มีทางไปความดันน้ำจะยิ่งสูง นายกฯก็ไม่เชื่อเขา

จนนวนครต้องไปขอท่านบรรหาร ว่าไปช่วยพูดให้สมองปูให้รับรู้หน่อยว่า คันกั้นน้ำมันเอาไม่อยู่หรอก เพราะน้ำต้องมีที่ไป

แต่ก็ไม่สำเร็จ!! นวนครพังในที่สุด แล้วนายกฯก็ออกมาพูดแค่ว่า เสียใจค่ะ

นี่ถ้าบริษัทเอสซีแอสเซทมันตั้งอยู่ในนวนครบ้าง นายกฯจะทำแบบนี้มั้ย? ก็เพราะมัวแต่เชื่อไอ้พวกเสื้อแดงอวดฉลาดรอบตัว ไม่เชื่อคนในพื้นที่เลย

นักข่าววงในเขาพูดกันว่า มีผู้รู้มีนักวิชาการเรื่องน้ำออกมาแนะนำวิธีให้รัฐบาล แต่รัฐบาลก็ไม่ฟัง ไม่เชื่อ สงสัยมัวแต่ฟังคนที่อยู่นอกประเทศอย่างเดียว

สุดท้ายนักวิชาการเหล่านั้น เขาเอียนปู เขาเลยไปออกทีวีอธิบายให้ประชาชนฟังว่า รัฐบาลต้องทำอย่างนี้อย่างนั้น ถ้าไม่ทำพังแน่ แล้วมันก็พังจริงๆ พังทุกที่ เพราะไม่รีบทำ

--------------------------------

รัฐบาลเพิ่งจะสะดุ้งเมื่อวานนี้ (19ต.ค.54)

ก็พึ่งจะเห็นนายกฯยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์แบบปากสั่น หน้าเสีย ก็เมื่อวานนี้แหล่ะ บอกว่า "ไม่ได้โกหก จะพูดความจริงทุกอย่าง"

เห็นรึยังครับ การโกหกมันไม่ดีแบบนี้นี่เอง เพราะตั้งแต่เธอเริ่มเป็นนายกฯ อะไรที่เธอบอกว่า ไม่ได้ทำ ก็แปลว่าทำ!!

พอช่วงน้ำท่วม อะไรที่บอกว่ารับมือไหว ก็แปลว่าพังทุกที่ ท่วมทุกแห่ง เพราะมัวแต่บอกให้คนอื่นไปบูรณาการ แต่ดันลืมบูรณาการสมองตัวเอง

----------------------

จากประเด็นที่ว่า น้ำท่วมกรุงเทพฯใครควรโดนด่าที่สุด

ผมว่า ก็นายกฯยิ่งลักษณ์นั่นแหล่ะครับ น้ำท่วมหนักสาหัสจริงๆก็ตั้งแต่สิงหาคม แต่พอได้เป็นนายกฯยิ่งลักษณ์ยังพาลูกน้องไปเตะบอลไปเลียไข่ฮุนเซ็นอยู่เลย ยังมัวแต่สนใจเรื่องประชานิยมแจกรถอยู่เลย

น้ำแม้จะมาก แต่ก็มีเวลาเดินทางหลายวันกว่าน้ำจะถึงกรุงเทพฯ แต่นายกฯไม่ตัดสินใจอะไรให้เด็ดขาดเลย

และทักษิณก็เป็นอีกคนที่สมควรถูกประณามที่สุด เพราะดันเลือกน้องสาวสมองปูมาเป็นนายกฯ





(ขณะที่เขียนบทความ น้ำเหนือทะลักเข้าคลองประปาแล้ว!! ซวยล่ะ!! เกิดเหตุอาเพท เกิดกาลกิณีอะรว่ะนี่!!)


ถ้าผมยังรอดไม่จมน้ำตายไปก่อน ไว้บทความหน้าจะอธิบายว่า ทำไมต้องปกป้องกรุงเทพฯ อาจเขียนในบล็อคนี้หรือบล็อคใหม่เมืองเอกยังไม่แน่ใจครับ

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ศปภ. ศูนย์สะเปะสะปะภัย






ถ้าจะให้ด่าหรือพูดถึงข้อบกพร่องของศปภ. เชื่อว่า มีให้อ่านในเว็บมากมาย เพียบ!!

แต่ละคนในศปภ. ที่นั่งออกทีวีแถลงน่ะ หาใครสักคนที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจในความรู้ความสามารถไม่ได้เลยสักคน

ในฐานะที่ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ผมเพิ่งความรู้สึกอยากจะโดดถีบจอทีวีบ้านตัวเอง ก็คราวนี้แหล่ะ

มันจะพล่ามอะไรยืดยาว ไม่กระชับให้ได้ใจความ

ถ้าอะไรที่ไม่สำคัญนัก ก็ไม่ต้องพูดหรือออกมาแถลงก็ได้ ออกมาทีพล่ามยาว แต่สาระที่ได้กลับน้อยนิด เข้าทำนองที่ว่า น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง

จนผมเลิกฟังมันละไอ้ศปภ.อะไรนี่แหล่ะ ท่วมก็ท่วมวะ ก็นายปลอดเขาแนะให้ประชาชนไปต่อแพ เอาไว้นอนลอยน้ำเป็นเดือนๆแล้วนี่

ช่างอัจฉริยะบุคคลจริงๆเลย แก้น้ำท่วมด้วยวิธี ลอยแพประชาชน!!

---------------------

วิกฤติน้ำท่วมคราวนี้สาหัสยิ่งนัก แต่ยิ่งลักษณ์ยังทำเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ พอประชาชนไม่เชื่อฟัง เธอทำได้แต่ร้องขอ วอนขอ!!

งั้นเชิญพณฯท่านนายกฯลองไปกราบเท้าพี่น้องประชาชนเองดูสิว่า เขาจะยอมให้ผันน้ำเข้าบ้านเขามั้ย?

ไม่มีใครเขายอมหรอก แถมพวกชาวบ้านเขาส่งเวรยามไปเฝ้าตามประตูน้ำต่างๆ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูปล่อยน้ำมาผ่านบ้านเขา

ผมว่า กรุงเทพฯท่าจะไม่รอดแน่!! เพราะสถานการณ์วิกฤติขนาดนี้ นายกฯยังมาทำเหมือนเล่นขายของ พาลูกพาเพื่อนลูกมาปิกนิค มาเล่นแพคของใส่ถุงยังชีพ ให้นักข่าวารุม แชะ! แชะ! แชะ! ลงข่าวหน้า1

แล้วก็ไปเปิดงานเรือดันน้ำกำมะลอ (ที่เธอเคยเข้าใจว่า เป็นเรือดำน้ำ จนหน้าแตกมาทีนึงแล้ว)

ไม่ว่าจะเรือดันน้ำ หรือหญ้าแพรก พูดผิดน่ะพอให้อภัย

แต่ถ้าแก้ปัญหาวิกฤติผิด แล้วมาตีหน้าซื่อแล้วแค่บอกว่า "ปูเสียใจค่ะ" แบบที่เธอพูดถึงกรณีนวนคร

ง่ายดีนะ!! แล้วก็พังไปอีกแสนล้าน!!

------------------------

ในสภาวะวิกฤติแบบนี้ นายกฯยิ่งลักษณืไม่ได้แสดงถึงภาวะผู้นำอะไรเลย ต้องกล้าสั่งการเด็ดขาด ต้องกล้าบังคับประชาชน เพราะสถานการณ์แบบนี้ จะมามัวกลัวเสียคะแนนนิยมไม่ได้ ผู้นำต้องยอมเสียสละต้องยอมโดนด่าสักนิดเพื่อส่วนรวมอยู่รอด

ถ้าเธอทำไม่ได้ ไม่กล้า ก็ไม่ควรดันทุรัง อย่าเอาความเสียหายประเทศมาเล่นการเมือง ควรปล่อยให้ทหารเข้ามาจัดการทั้งระบบ เพราะกฏหมายรองรับให้ปฏิบัติได้ง่าย แต่เธอก็ไม่ยอมประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินสักที

นั่นเพราะ ถ้าทหารเข้ามาจัดการ แล้วทำได้สำเร็จ เสื้อแดงจะไม่พอใจ!!

โถๆ เอาเข้าไป มัวแต่เกรงใจเสื้อแดง แล้วปล่อยให้ประเทศชาติshipหายไปกับน้ำ ทักษิณมันคงสะใจใช่มั้ย?

"ถ้าผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังได้อยู่เป็นสุขเลย"

--------------------------

เมื่อวานนี้ เห็นนายกฯขึ้นฮ.ตรวจดูสภาพน้ำ ขึ้นฮ. ลงฮ. ดูมันเข้าไป น้ำ มันคงลดหรอกนะ

พอลงจากฮ. ก็ลงมารับมอบเงินจากผู้มาบริจาค

เฮ่อ.. ภารกิจของนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ต่างจากที่เธอเคยทำในบริษัทของพี่ชายเธอเลย คือมอบของ รับของ ยิ้ม ถ่ายรูป แค่นั้นแหล่ะ

นายกรัฐมนตรี = ประชาสัมพันธ์ครม.

ถ้ากรุงเทพฯรอดน้ำท่วมได้ ผมกล้าฟันธงเลยว่า ไม่ใช่เพราะรัฐบาลนี้แก้สำเร็จ หรือศูนย์สะเปะสะปะแก้สำเร็จ

ถ้ากรุงเทพฯจะรอด ผมว่ารอดเพราะผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ ได้ทำพิธีบูชาพระปางห้ามสมุทรสำเร็จมากกว่า

ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ผมว่าเวลานี้คนกรุงหวังพึ่งอะไรรัฐบาลปูหญ้าแพรกไม่ได้แล้ว สู้หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิจะยังมีลุ้นมากกว่า

เพราะที่ผ่านมา ศปภ. เคยป้องกันน้ำท่วมที่ไหนสำเร็จมั่ง? ไม่มี!!

นั่นเพราะมีแต่เสื้อแดงทั้งนั้นที่นั่งทำงานในศปภ. ถ้ามีเสื้อแดงที่ไหนรับรอง ชิหาย ที่นั่น

วันนี้เขียนแค่นี้แหล่ะ เพราะช่วงนี้ผมเกิดอาการหายใจไม่ทั่วท้อง


ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์อุ้มพระปางห้ามสมุทร เพื่อทำพิธีบูชา



คลิกอ่าน ดันน้ำนะโว้ยไม่ใช่เปิดงานการกุศล!!