วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ฮากับพาดหัวตัวไม้ !! วรเจตน์โดนตุ๋ย !!





(บทความนี้เขียนตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนที่ฝาแฝดต่อยวรเจตน์จะมอบตัว)




เสียงของผู้ใช้แรงงานนับพันคนไม่ดังเท่าเสียงกระดิกนิ้วของมหาเศรษฐีที่ดิน!!



แค่ได้ยินชื่อ ปูก็ออกอาการคันหู!!


-----------------------------

วรเจตน์สร้างกระแสโดนต่อย?




มันจบแล้ว แต่นิติราษฎร์ไม่ยอมจบ เพราะลงทุนลงแรงจนกระแสแก้มาตรา112 เริ่มฮอต แต่พอทรราชทักษิณเอ่ยปากสั่งลิ่วล้อไม่ขอแตะแก้กฎหมายอาญามาตรา112 และรธน. หมวดพระมหากษัตริย์

กระแสนิติราษฎร์ ก็แผ่วลงๆๆๆ

แต่แล้ววรเจตน์ไม่ยอมจบ จนมีข่าวชายไม่ประสงค์ออกนาม บุกมาต่อยหน้าวรเจตน์ ซึ่งถ้าชายคนนั้นถูกจับได้(หรือมามอบตัว) ก็แค่บอกว่า ต่อยวรเจตน์เพื่อปกป้องสถาบันฯ

ถ้าชาย2คน บอกแบบนี้จริงๆ ก็เข้าทางหมาวรเจตน์ทันที

ชายคนที่บุกมาต่อย อย่างเก่งก็โดนปรับไม่กี่บาท แต่อาจไปแอบรับทรัพย์หลายหมื่นลับหลังจากพวกล้มเจ้าอีกก็ได้ ใครจะรู้ จริงมะ?

ถ้าข่าววรเจตน์โดนต่อย ยังไม่ฮอตพอ ไม่แน่นะ คราวหน้าวรเจตน์อาจมีข่าวโดนรุมตุ๋ย! จนตูดบานก็ได้ ใครจะรู้?? 555 (วรเจตน์บอกแบบนี้ล่ะของชอบ)

ถ้าอยากให้คนเชื่อว่า พวกนิติราษฎร์ไม่ได้จัดฉาก ต่อยวรเจตน์เพื่อสร้างกระแสแล้วล่ะก็

แน่จริง ก็ให้พวกไพร่สถุลใช้บริการพี่เอ็ม79 หรือให้น้องเอ็ม16 สาดเข้าใส่วรเจตน์แบบที่สนธิลิ้มเคยโดนสิ

รับรองได้ กระแสแก้มาตรา112 จะกลับมาร้อนแรงเหมือนเดิม ฮ่าๆ





คลิก รวมข้อความให้กำลังใจวรเจตน์






ทวงสัญญาค่าแรง300บาททำทันที





บทความนี้ต่อจากบทความเรื่อง หาเสียงแบบซื้อเสียงของพรรคเพื่อทุย

ตามที่ผมได้อธิบายไปแล้วว่า พรรคเพื่อทุยหาเสียงแบบซื้อเสียงอย่างไร และผิดกฎกมายเลือกตั้งอย่างไร (แต่กฎหมายไทยเป็นแค่เสือกระดาษ)

เมื่อวานนี้ ผู้ใช้แรงงานมาประท้วงทวงสัญญาจากรัฐบาล ที่เคยหาเสียงสัญญาไว้ว่า

"ค่าแรงขั้นต่ำ300บาททำทันที ค่าแรง300บาทพร้อมกันทั่วประเทศ" ตามที่พรรคเพื่อทุยได้หาเสียงทำนองซื้อเสียงเอาไว้

แต่สุดท้ายตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับมีมติให้ขึ้นค่าจ้าง 300 บาทนำร่องใน 7 จังหวัดเท่านั้น ตั้งแต่ 1 เมษายนนี้

คลิกอ่านข่าวนี้





-------------------------------


อุทาหรณ์สอนว่า

คนไทยไม่รู้จักคำว่าประชาธิปไตยที่แท้จริง

เพราะคนที่เลือกพรรคเพื่อทุย ก็เพราะหวังแค่อามิส ผลประโยชน์ที่เขานำมาหลอกล่อให้เลือกเท่านั้น

ตรงจุดนี้ ทรราชทักษิณมันรู้ดี มันจึงรังสรรค์นโยบายเชิงซื้อเสียงมากมาย




---------------------------------


ปิดท้ายด้วยคลิป นายกปูแจงสื่อเรื่องว.5 โฟร์ซีซั่น





สติ๊กเกอร์ seawjeaw เสียวเจี๊ยว!!

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!




วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทำไมต้องฆ่าเสธ.แดง? นักรบชุดดำคือใคร?







คำตอบนั้นง่ายมากๆ นั่นก็คือ เสธ.แดงรู้ข้อมูลที่ชี้เป็นชี้ตายของฝ่ายเสื้อแดงให้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ได้เลย

เมื่อเสธ.แดง กุมความลับด้านมืดของเสื้อแดงเอาไว้ ก็จำเป็นต้องสั่งเก็บเสธ.แดง

และข้อมูลที่ต้องสั่งเก็บเสื้อแดง นั่นก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับนักรบชุดดำ หรือไอ้โม่งดำ หรือนักรบโรนินที่เสธ.แดง ใช้เรียก

นักรบชุดดำ หรือไอ้โม่งดำ ที่มีการใช้อาวุธหนัก มาช่วยฝ่ายเสื้อแดง เหมือนที่อริสมันต์เคยปราศัยว่า

"มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย มาช่วยพวกเรา"

นี่แหละคือมูลเหตุ สาเหตุสำคัญที่ชี้ได้เลยว่า ทหารไม่ได้ยิงประชาชน แต่คนยิงประชาชนคือนักรบชุดดำ (ที่อาจถอดชุดดำแฝงกายอยู่ในฝ่ายเสื้อแดงแล้ว)

ถ้าผมอ้างลอยๆ พวกควายมันย่อมไม่เชื่อ เพราะเหล่าควายมันมีโมหะ โทสะจริต เชื่อฟังแต่ทรราช เห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปแล้ว

ต่อไปนี้ บทความจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 2คน ที่ชื่อ Kenneth Todd Ruiz และ Olivier Sarbil ที่เคยเข้าไปสัมผัสกลุ่มนักรบโรนินของเสธ.แดง ในบทความที่ชื่อว่า

เอเชียไทม์เปิดโปงชายชุดดำ นักรบ "โรนิน" กลุ่มเสื้อแดง


--------------------





Southeast Asia
May 29, 2010


Unmasked: Thailand's men in black
By Kenneth Todd Ruiz and Olivier Sarbil

BANGKOK - A cigarette hanging from his lips, a sinewy man with a knotted-up beard perched on the back of a plastic chair and spoke into a military-grade radio.

ชายร่างบึกบึนกำยำซึ่งมีเคราที่ถักเป็นกระจุกผู้หนึ่ง เท้าแขนลงบนพนักพิงของเก้าอี้พลาสติก และกรอกคำพูดเข้าไปในวิทยุรับส่งคุณภาพสูงระดับที่ใช้กันในหน่วยทหาร ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงคาบบุหรี่เอาไว้

''Happy birthday," he said in English. Moments later a sonorous detonation boomed from afar in the heart of the Thai capital. A cluster of anti-government protesters crowded around him exulted, shouting ''Happy birthday'' in unison. Many more such coded celebrations would follow in the next 24 hours.

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์” เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ไม่กี่อึดใจต่อมาก็มีเสียงระเบิดกัมปนาทขึ้นจากจุดที่อยู่ห่างออกไปในเขตใจ กลางกรุงเทพฯ-เมืองหลวงของประเทศไทยแห่งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลกลุ่มย่อมๆ ที่อยู่รายล้อมเขาต่างอยู่ในอารมณ์ของความสะใจ พากันตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงต่อจากนั้น จะมีการเฉลิมฉลองด้วยการเปล่งรหัสลับทำนองเดียวกันนี้อีกหลายๆ หนทีเดียว

It's five days before the army would send armored personnel carriers into central Bangkok on May 19 to decisively quash the 'red shirt'' occupation, and your correspondents are inside a tent with the infamous paramilitaries, dubbed ''men in black'' by the media, as they prepared for war.

ช่วง 5 วันก่อนที่กองทัพจะส่งรถหุ้มเกราะเข้าไปใจกลางกรุงเทพฯ ในวันที่ 19 พ.ค.เพื่อสลายการชุมนุมของผู้ชุมนุมประท้วงเสื้อแดง ผู้สื่อข่าวทั้งสองคนได้เข้าไปอยู่ในเต็นท์ ร่วมกับกลุ่มติดอาวุธที่ถูกขนานนามจากสื่อทั้งในไทยและต่างประเทศว่า "ชายชุดดำ" โดยบุคคลเหล่านี้กำลังเตรียมทำสงคราม

They let us inside their secret world on one condition: if we took any pictures, they would kill us.

พวกเขาอนุญาตให้เราสองคนเข้าไปในโลกอันลี้ลับแห่งนี้ได้ โดยมีเงื่อนไขข้อเดียวคือ ถ้าเราถ่ายภาพ พวกเขาจะฆ่าเราทุกคน

These were not the regular black-attired security guards employed by the United Front for Democracy against Dictatorship, or UDD, anti-government protest group who generally didn't carry guns. These were the secretive and heavily armed agent provocateurs whose connections, by their own admission, run to the top of the UDD, also known as the red shirts.

คนกลุ่มนี้ไม่ใช่การ์ดที่สวมชุดดำของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เห็นกันจนชินตา และตามปกติไม่พกอาวุธปืน แต่คนกลุ่มนี้เป็นจารชนติดอาวุธร้ายแรงที่ทำงานอย่างลับๆ และมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มเสื้อแดง


Several UDD co-leaders have since been detained and branded as ''terrorists'' by the Thai government. On Wednesday, Thai authorities issued an arrest warrant for self-exiled former prime minister Thaksin Shinawatra on terrorism charges, alleging a link between the fugitive politician and the UDD gunmen's violent campaign. Thaksin swiftly denied the charges.

นับตั้งแต่บรรดาแกนนำเสื้อแดงหลายคนถูกควบคุมตัวและถูกตราหน้าจากรัฐบาลไทยว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" รัฐบาลไทยได้ออกหมายจับกุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาก่อการร้ายด้วยเช่นกัน โดยกล่าวหาว่าทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนใช้ความรุนแรงของกลุ่มมือปืนเสื้อแดง ซึ่งอดีตผู้นำไทยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ในทันที

There was a simple honesty to our arrangement with the fighters, but their death threat didn't preclude Thai-style hospitality. Only one man voiced displeasure with our presence; he asked his comrades about us, but he used the Thai pronoun for ''it''.

การตกลงกันระหว่างพวกเราสองคนกับนักรบกลุ่มนี้เป็นไปอย่างซื่อๆ ตรงไปตรงมา และถึงแม้พวกเขาจะข่มขู่ว่าอาจจะเอาชีวิตเรา แต่นั่นก็ไม่ได้สกัดกั้นไม่ให้พวกเขารับรองเราอย่างมีมิตรไมตรีแบบไทยๆ มีเพียงชายคนเดียวในกลุ่มนี้เท่านั้นที่ยังคงแสดงน้ำเสียงไม่ชอบใจกับการ ปรากฏตัวของพวกเรา เขาถามเหล่าสหายของเขาเกี่ยวกับเราสองคน โดยเขาเลือกใช้คำสรรพนามภาษาไทยแทนพวกเราว่า “มัน”

As the sun set on May 14 behind the UDD's bamboo-and-tire fortress erected in the heart of one of Bangkok's top commercial districts, the men ate hot noodles and whispered anxiously about army shooters. Snipers angered them.

ขณะที่ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ณ วันที่ 14 พฤษภาคม เบื้องหลังป้อมปราการที่กำหนดเขตด้วยแนวรั้วเครื่องกีดขวางอันสร้างขึ้นจาก ไม้ไผ่และยางรถยนต์ ในบริเวณใจกลางของย่านการค้าระดับท็อปแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ชายเหล่านี้รับประทานบะหมี่ร้อนๆ และพูดกระซิบกระซาบกันอย่างหงุดหงิดกังวลใจเกี่ยวกับพลแม่นปืนของกองทัพ นักซุ่มยิงของฝ่ายทหารกำลังทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกโกรธเกรี้ยว

Twenty-four hours earlier, Bangkok had been plunged into chaos after the man whom they said issued their orders directly, renegade army officer Maj Gen Khattiya Sawasdipol, was struck down and eventually died from a sniper's bullet as he spoke to a reporter. The government has denied responsibility for the hit.

ช่วง 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ กรุงเทพฯ ตกอยู่ในภาวะโกลาหลอย่างมาก หลังจากที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้อ้างว่าเป็นผู้ออกคำสั่งโดยตรงแก่พวกเขา ถูกลอบยิงเสียชีวิตจากมือปืนซุ่มยิงขณะกำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างชาติรายหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลก็ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหาร เสธ.แดง

Khattiya, a celebrity rogue revered by many red shirts, often spoke fondly of what he called the ''Ronin Warriors'' - Ronin being samurai with no lord or master. In February, he boasted to reporters of training an undisclosed number of former military men to defend the red shirts, but later publicly denied leading them.

เสธ.แดง นายทหารหัวขบถซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มเสื้อแดงจำนวนมาก มักพูดบ่อยครั้งว่าชื่นชอบ "นักรบโรนิน" ซึ่งหมายถึงซามูไรไร้สังกัดหรือนักรบที่ไม่มีเจ้านาย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เสธ.แดง ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่ากำลังซุ่มฝึกอดีตทหารจำนวนหนึ่งให้มาทำหน้าที่ปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง แต่ต่อมาก็ออกมาปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่าไม่ได้เป็นผู้นำทหารกลุ่มนี้

Absent Khattiya's leadership, discipline inside the red fortress was on the decline. Alcohol flowed freely, fueling tempers and fist-fights. Earlier in the day a Ronin fighter fired an Israeli-made TAR-21 assault rifle, seized from the army in April, at an army helicopter overhead.

เมื่อไร้เงาของ เสธ.แดง ในการทำหน้าที่เป็นผู้นำ ระเบียบวินัยภายในป้อมบัญชาการของกลุ่มเสื้อแดงก็ดูจะหย่อนยานลงไป มีการดื่มเหล้ากันอย่างไม่อั้น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ฮึกเหิม เกิดความโกรธแค้นชิงชังได้ง่าย และก่อนหน้านี้ มีนักรบโรนินคนหนึ่ง นำปืนไรเฟิล TAR-21 ที่ผลิตจากอิสราเอลและยึดเอาไปจากกองทัพเมื่อเดือนเมษายนออกไปยิงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพลำหนึ่งที่มาบินอยู่เหนือที่ชุมนุม

Competing personalities vied for dominance among the disordered Ronin, but the bearded man who spoke little was calling the shots for now. "Do you know who is in charge here?" he said. "It's me."

มีนักรบโรนินหลายๆ คนพยายามเบ่งบารมีเพื่อช่วงชิงฐานะความเป็นลูกพี่ใหญ่ในหมู่กองกำลังนี้ที่ ตกอยู่ในสภาพสับสนไร้ระเบียบ แต่ชายไว้เคราผู้แทบไม่พูดอะไรเลยคือผู้ที่กำลังมีบทบาทเป็นผู้สั่งการใน เวลานี้ “พวกคุณรู้ไหมใครเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่” เขากล่าว “ผมไง”


At least until another unnamed commandant he described as second to Khattiya arrived to assume command and investigate why journalists were with the gunmen.

อย่างน้อยที่สุดก็จะเป็นเช่นนั้นไปจนกระทั่งเมื่อมีผู้บังคับบัญชา ที่ไม่มีการระบุชื่ออีกคนหนึ่ง โดยเขาบอกว่าเป็นมือรองจาก พล.ต.ขัตติยะ จะเดินทางมาถึงและรับมอบอำนาจบังคับบัญชาไป รวมทั้งมาสอบถามด้วยว่าทำไมถึงมีพวกนักข่าวเข้ามาปะปนอยู่กับกลุ่มถืออาวุธ เหล่านี้

''Not Terrorists Not Violent; Only Peaceful and Democracy,'' read a banner hanging outside the barrier of jumbled tires. Inside, it was an open secret who the gunmen were; no less secret were the perimeter bombs, connected by dirty gray cables, designed to inflict heavy casualties on any advancing government army soldiers.

“ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช้ความรุนแรง มีแต่สันติภาพและประชาธิปไตย” เป็นข้อความในแผ่นป้ายที่แขวนเอาไว้ด้านนอกของแนวเครื่องกีดขวางซึ่งทำจาก ยางรถที่กองสุมอย่างไม่เป็นระเบียบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้คนที่อยู่ข้างในแล้ว มันเป็นความลับที่ทราบกันไปทั่วอยู่แล้วว่ากลุ่มคนถืออาวุธเหล่านี้เป็นใคร เช่นเดียวกับที่ไม่ใช่ความลับอะไรเลยในเรื่องมีระเบิดจำนวนหนึ่งวางเอาไว้ ตามแนวเครื่องกีดขวาง และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยสายไฟสีทึมๆ สกปรก พร้อมที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงแก่ทหารในกองทัพรัฐบาลที่จะยก กำลังบุกเข้ามา

Some of the men held their firearms tightly concealed under jackets. Just after sunset, oblong packages wrapped in black plastic were carried into tents in Lumpini Park from elsewhere in the camp. Running at a crouch, we were moved to a different tent nearer the memorial statue of Thai King Rama VI. The Ronin moved between tents often in this way to avoid detection from government snipers.

ชายกลุ่มนี้บางคนใส่เสื้อแจ๊กเกตเพื่อช่วยอำพรางอาวุธปืนที่พวกเขาพก พาติดตัวให้มิดชิด ทันทีที่ดวงอาทิตย์ตกดิน หีบห่อรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ห่อคลุมด้วยผ้าพลาสติกสีดำ ก็ถูกขนเข้ามาในเต็นท์ต่างๆ ในบริเวณสวนลุมพินี หีบห่อเหล่านี้มาจากที่ไหนก็ไม่ทราบภายในเขตพื้นที่ชุมนุมประท้วงนี้ พวกเราถูกบอกให้ออกวิ่งโดยก้มศีรษะให้ต่ำๆ โยกย้ายไปอยู่ที่เต็นท์อีกเต็นท์หนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ยิ่งขึ้นกับพระบรมราชานุ สาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นักรบโรนินจะมีการเคลื่อนย้ายระหว่างเต็นท์ต่างๆ อยู่บ่อยครั้งเช่นนี้แหละ เพื่อไม่ให้มือซุ่มยิงของฝ่ายรัฐบาลติดตามร่องรอยได้

Twenty-seven men crouched in darkness inside the tent. Newspapers covered any illuminated displays from radios or other electronics, and we were asked to turn off our cell phones. One gunman suggested army snipers would kill them all at first light if they had the chance.

โรนินทั้ง 27 คนยังต้องนอนหมอบราบกับพื้น และใช้หนังสือพิมพ์หุ้มอุปกรณ์ทุกอย่างที่สามารถสะท้อนแสงได้ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุสื่อสารหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ ขณะที่เราสองคนถูกขอร้องให้ปิดโทรศัพท์มือถือ โดยมือปืนในกลุ่มโรนินคนหนึ่ง บอกว่ากลุ่มซุ่มยิงของรัฐบาลพร้อมจะลงมือทันทีที่มีโอกาส

''Don't worry; safe. Thai-style,'' their combat medic said to us in English, gesturing to layers of tarps obscuring the ground from potential snipers where we were camped with them.

"ไม่ต้องกลัว ปลอดภัย แบบไทยๆ" นักรบในกลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นเสนารักษ์บอกกับเราเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งทำท่าทางบอกให้รู้ว่ามีผืนผ้าใบผืนใหญ่ปกคลุมช่วยพรางจุดยิงของเหล่ามือปืนซุ่มยิงได้เป็นอย่างดี

Fewer than half were paramilitaries, the rest regular black-shirts providing support and catering to the gunmen's needs. Some ran errands, others fetched water, coffee and M-150 energy drinks. The Ronin were structured like a military unit, complete with a radioman and the combat medic. They apparently had had training in explosives and munitions, which they put to use in handling plastic explosives and planting bombs for remote-detonation along the camp's edge.

กลุ่มคนเหล่านี้มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เป็นกองกำลังกึ่งทหาร พวกเสื้อดำธรรมดาที่เหลือเป็นพวกที่ทำหน้าที่สนับสนุนและจัดหาจัดเตรียมสิ่ง ต่างๆ ที่พวกถืออาวุธต้องการ บางคนทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน คนอื่นๆ จัดหาน้ำ, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม-150 นักรบโรนินเหล่านี้จัดโครงสร้างเหมือนเป็นทหารหน่วยหนึ่งโดยมีทั้งพลวิทยุ สื่อสารและพลพยาบาลครบครัน พวกเขาดูน่าจะผ่านการฝึกอบรมเรื่องการใช้วัตถุระเบิดและอาวุธยุทโธปกรณ์ ต่างๆ มาแล้ว ดังเห็นได้จากการที่พวกเขามีความรู้ในการจัดการกับระเบิดพลาสติก ตลอดจนมีความสามารถที่จะวางระเบิดเอาไว้รอบๆ แนวที่ตั้งในแบบที่สามารถจุดชนวนระเบิดจากที่ไกลออกไปได้

Despite media speculation that the Ronin were comprised of former anti-communist commandos, most of the men we met were much too young, looking to be in their early 20s. Many had been paratroopers and one said he came from the navy. Most originated from the same upcountry, rice-basket provinces the majority of red shirts called home. Several said they were still active-duty soldiers.

ถึงแม้มีสื่อมวลชนบางรายคาดเดาว่า นักรบโรนินเหล่านี้ประกอบไปด้วยอดีตทหารคอมมานโดที่เคยทำหน้าที่สู้รบกับพวก คอมมิวนิสต์ ทว่าสมาชิกกองกำลังที่เราพบเห็น ส่วนใหญ่ต่างยังอ่อนวัยเกินกว่าจะอยู่ในรุ่นอายุขนาดนั้นได้ โดยพวกเขาดูจะยังอยู่ในวัย 20 ต้นๆ กันเท่านั้น จำนวนมากทีเดียวเคยเป็นพลร่มมาก่อน มีคนหนึ่งบอกว่าเขาเคยอยู่กองทัพเรือ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามีรกรากภูมิลำเนาจากพื้นที่ชนบทเดียวกัน เป็นพวกจังหวัดซึ่งเป็นบ้านเกิดของคนเสื้อแดงส่วนข้างมาก หลายๆ คนทีเดียวกล่าวว่าพวกเขายังเป็นทหารประจำการอยู่

Eventually a call came in from a UDD guard. The army had succeeded in securing a location near Pratunam, the intersection bounding the northern extent of the red-occupied commercial district, and was pushing hard against protesters. They needed help.

ในที่สุดก็มีเสียงวิทยุเรียกเข้ามาจากการ์ดของ นปช.ผู้หนึ่ง กองทัพกำลังประสบความสำเร็จในการเข้าประจำที่มั่นแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับสี่แยกประตูน้ำ อันเป็นสี่แยกที่ตั้งอยู่ตรงแนวขอบด้านเหนือของย่านการค้าที่พวกเสื้อแดงยึด ครองอยู่ ทหารยังกำลังผลักดันผู้ประท้วงตรงบริเวณนั้น พวกเขาจึงต้องการความช่วยเหลือ

M16 and AR-15 rifles slid free from concealment under plastic or inside their clothing. In less than 10 minutes, the gunmen loaded ammunition into clips and locked them into place.

ปืนไรเฟิลสังหารทั้งแบบเอ็ม16 และ เออาร์-15 ถูกนำออกมาจากที่ซุกซ่อนในสภาพที่ห่อด้วยผ้าพลาสติก บางกระบอกก็ถูกนำออกมาจากภายในชุดเครื่องแต่งกายของพวกเขาเอง ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ก็บรรจุกระสุนเข้าไปแมกกาซีน และเสียบแมกกาซีนเข้าที่จนเสร็จเรียบร้อย

Ammunition was running low, they said. Each fighter was given no more than 30 rounds to carry. Although we didn't see any M79 grenade launchers, the Ronin discussed a bulky sack of grenades they were carrying.

อย่างไรก็ตาม นักรบกลุ่มนี้ยอมรับว่า ตอนนี้กระสุนเหลือน้อยเต็มที และแต่ละคนมีกระสุนติดตัวไปปฏิบัติภารกิจคนละไม่ถึง 30 นัด และแม้ว่าเราจะไม่เห็นเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 แต่กลุ่มนักรบโรนิน ก็คุยกันเรื่องกระสอบหรือถุงใส่ระเบิดอันใหญ่เทอะทะที่พวกเขาแบกติดตัว

Just after 9 pm, the dozen fighters rose and scurried silently into the night to sow another round of mayhem.

เมื่อเวลาเคลื่อนผ่านเลย 3 ทุ่มไปนิดเดียว นักรบทั้ง 12 คนก็พากันลุกขึ้นและรีบเร่งออกไปอย่างเงียบๆ เพื่อเข้าสู่ความมืดมิดของรัตติกาล กระทำหน้าที่ในการสร้างความบาดเจ็บล้มตายและในการหว่านเพาะความปั่นป่วน วุ่นวายอีกวาระหนึ่ง

For the next nine hours, bursts of intense gunfire erupted from areas around the red-zone perimeter. first from the direction of Pratunam, later from points along Rama IV Road.

ระยะเวลา 9 ชั่วโมงถัดจากนั้น เสียงยิงปืนแผดก้องปะทุขึ้นจากพื้นที่ต่างๆ รอบๆ อาณาบริเวณของเขตเสื้อแดง แรกทีเดียวจากทิศทางของสี่แยกประตูน้ำ ต่อมาก็จากจุดต่างๆ ตามแนวถนนพระราม 4

Their tactics were consistent with those of trained guerrillas and snipers, letting off brief fusillades of gunfire before repositioning. They terrorized regular Thai army soldiers throughout the night, winding them up and denying them sleep.

ยุทธวิธีที่เหล่าโรนินนำมาใช้ในการทำสงครามครั้งนี้ สอดคล้องกับยุทธวิธีของกลุ่มกองโจรและกลุ่มมือปืนซุ่มยิง กล่าวคือระดมยิงช่วงสั้นๆ ก่อนจะเคลื่อนย้ายตำแหน่ง และนักรบเหล่านี้ก็ใช้ยุทธวิธีนี้ข่มขวัญทหารของกองทัพทั้งคืนจนไม่เป็นอันหลับอันนอน

At 6 am on May 16, they swaggered back into the camp under covering fire from homemade rockets to the cheers of the assembled reds. Visibly weary but beaming triumphant smiles, the men shouldered the night's spoils - body armor, riot shields, batons, helmets, flashlights and other gear taken from Thai security forces - some of which they handed out as gifts.

เมื่อถึงเวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 16 พฤษภาคม พวกเขาก็เดินอาดๆ กลับเข้ามาในที่มั่น โดยได้รับการยิงคุ้มกันจากบั้งไฟยักษ์ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนเสื้อแดงที่มารวมตัวกัน นักรบเหล่านี้ซึ่งมีท่าทางเหนื่อยอ่อยอย่างเห็นชัดทว่าประดับรอยยิ้มของผู้ พิชิต ต่างขนต่างแบกข้าวของที่ช่วงชิงเอามาได้ในคืนนั้น เป็นต้นว่า เสื้อเกราะ, โล่ปราบจลาจล, ไม้กระบอง, หมวกเหล็ก, ไฟฉาย, และสิ่งของอื่นๆ ที่ได้มาจากกองกำลังความมั่นคงของไทย บางชิ้นพวกเขาก็แจกจ่ายให้แก่ผู้ที่มารุมล้อมในฐานะเป็นของที่ระลึก

If the battle for Bangkok was largely a hearts-and-minds campaign for public support, the Ronin's actions undermined the nonviolent ethos espoused by the UDD.

ถ้าหากสมรภูมิช่วงชิงกรุงเทพฯคราวนี้ ให้ความสำคัญกับการรณรงค์เอาชนะหัวจิตหัวใจ เพื่อให้ได้รับความสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว การกระทำของพวกโรนินก็คือการทำลายจิตวิญญาณอหิงสาไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่ง นปช.อ้างว่าเป็นหลักการในการดำเนินการต่อสู้ของพวกเขา

They described their purpose as ''protecting'' the demonstrators and standing as a force-equalizer against Thai security forces. They perceived themselves as ''black angels'' watching over the unarmed farmers and families who comprised the red shirt rank and file.

นักรบโรนินพูดถึงจุดประสงค์ของพวกเขาว่า เพื่อ “พิทักษ์คุ้มครอง” ผู้ชุมนุมประท้วง และเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็น กองกำลังซึ่งจะทำให้ฝ่ายเสื้อแดงมีความทัดเทียมกับกองกำลังความมั่นคงของไทย พวกเขามองตัวเองเป็น “เทวดาองค์ดำ” ซึ่งกำลังระแวดระวังภัยให้แก่พวกเกษตรกรและครอบครัวที่ปราศจากอาวุธ อันประกอบขึ้นเป็นผู้คนพลพรรคส่วนใหญ่ของฝ่ายเสื้อแดง

Kenneth Todd Ruiz is a freelance journalist living in Bangkok and blogging at reporterinexile.com. Olivier Sarbil is a Bangkok-based photojournalist whose images of recent events in Thailand are online at OlivierSarbil.com.

http://www.atimes.com/atimes/Southeast_Asia/LE29Ae02.html


------------------------------


ไม่ใช่แค่เอเชียไทม์เท่านั้น ที่เคยลงว่า นักรบชุดดำคือพวกเสื้อแดง

แต่ยังมีไฟแนนเชียลไทม์ ก็เคยลงข่าวว่าชายชุดดำเป็นพวกเสื้อแดงเช่นกัน

คลิกที่รูปเพื่อไปอ่านต้นฉบับ

ถ้าไปไม่ถึงต้นฉบับ ให้พิมพ์ประโยคนี้ที่กูเกิ้ล Black shirts’ on front line in Thai clashes


และหลังจากไฟแนนเชียลไทม์ลงแล้ว ไทยรัฐก็นำข่าวนี้มาเสนอ ดังนี้


http://imgur.com/3V7l4TZ

ด้วยเหตุที่เสธ.แดง คือผู้กุมความลับของนักรบชุดดำ ถ้าความจริงเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกจากปากเสธ.แดงเอง หากเมื่อเสธ.แดงถูกจับล่ะก็

ฝ่ายเสื้อแดงของทรราชทักษิณ จะไม่มีทางชนะ และไม่สามารถกล่าวหาว่าทหารฆ่าประชาชนได้

หรืออาจจะเพราะเสธ.แดง อาจไม่เห็นด้วยกับวิธีการการฆ่าประชาชนเพื่อใส่ร้ายทหารของทรราชก็ได้

ด้วยเหตุนี้ เสธ.แดง จึงต้องถูกสั่งเก็บ เพียงเพื่อให้ทรราชใช้หลอกผู้คนที่โง่ๆ ให้งมงายต่อไป จนมันได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง!!


คลิกอ่าน ข่าวมติชน ใครสไนเปอร์ ใครเผา ใครห้ามนักข่าวถ่ายรูป






วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รวมฮากับปูสะตอ ว.5 และบทแผ่เมตตาให้แม้ว





รูปแรก ปูสะดิ้งโชว์เพลง





รูป2 สะตอเรียกพี่ !!







รูป 3 เมนูเด็ด ตับย่างโฟร์ซีซั่น











--------------------------------


บทแผ่เมตตาให้แม้วจรจัด

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



คลิกอ่าน การหาเสียงแบบซื้อเสียงของพรรคเพื่อทุย




วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การหาเสียงแบบซื้อเสียงของพรรคเพื่อทุย!!





การที่พรรคเพื่อทุยหาเสียงว่าจะให้เงินเท่านั้นเท่านี้ ถ้าได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ความจริงเป็นเรื่องผิดกฎหมายเลือกตั้งนะครับ

เช่นหาสียงจะให้ค่าแรงขั้นต่ำ300บาท การหาเสียงแบบนี้ ผิดนะครับ เพราะการหาเสียงจะระบุเป็นตัวเงินตรงๆแบบนี้ไม่ได้

จะให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อายุเท่านี้จะได้คนละกี่บาท อันนี้ก็ถือว่าผิดครับ

หรือหาเสียงว่าจะแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนคนละเครื่อง อันนี้ก็ผิดครับ

ถือว่าเป็นการซื้อเสียงด้วยนโยบาย เช่น ผู้สมัครสส.หาเสียงว่า ถ้าเลือกผมแล้ว ผมจะมาสร้างสะพานให้ ในหลักกฎหมายที่ผ่านมา เคยเอาผิดว่าซื้อเสียงครับ

นั่นคือ สัญญาว่าจะให้!! 


(จริงๆมีวิธีพูดหาเสียงที่ไม่ผิดกฎหมายก็ได้ แต่คนไทยไม่ชอบ เพราะคนไทยชอบรับรู้ว่าจะแจกอะไร จะได้อะไรมาเลย นี่จึงเป็นประชาธิปไตยแบบไร้องค์ความรู้พื้นฐานด้านประชาธิปไตยที่ถูกต้อง)

พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 มาตรา 53 ที่กำหนดว่า

“ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

(1) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นตัวเงินได้ แก่ผู้ใด

(2) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม แก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถาบันการศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด”

ประเทศไทยกฎหมายเป็นแค่กระดาษเท่านั้น

---------------

และที่เป็ดเหลิมชอบอ้างว่า พรรคเพื่อทุยได้เสียงข้างมาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่เลือก แล้วจะมาอ้างทำทุกอย่างได้นั้น ก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้องทั้งหมดซะทีเดียว

เพราะประชาชนจำนวนมากที่เลือกพรรคเพื่อทุย ก็เพราะเห็นแก่อามิสจากนโยบายแจก ของพรรคเพื่อทุยต่างหาก

เพราะคนในประเทศนี้ มักชอบเรียกร้องขอของฟรีจากงบประมาณประเทศชาติ โดยที่ไม่ยอมทำหน้าที่พลเมืองที่ดีเช่น ละเมิดกฎหมายเป็นว่าเล่น ไร้ระเบียบวินัย เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม


-----------------------------

คนแก่ก็โดนหลอก เพราะจนวันนี้ คนแก่ก็ยังไม่ได้เงินตามที่ปูแหลเอาไว้





คลิก ปูแจงเฟซบุ๊ก ว.5 ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน จริงเร้อ?




วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ปูแจงเฟซบุ๊กว.5โฟร์ซีซั่นไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน จริงรึ!?






วันนี้ผมขอรวบรวมข่าวมาให้อ่านเล่นกัน ถ้าไม่เอียงกะเท่เร่แบบพวกนิยมหญ้าแพรก ก็คงพอเดาออกว่า ใครแหล?

หลังจากปูไปโฟร์ซีซั่น จนดังโฉ่ไปทั่วประเทศ รองโฆษกรัฐบาลชื่อนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ไม่ใช่สิ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ก็ออกมาแจงแทนนายกว่า ที่ปูไปโฟร์ซีซั่น เป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศ??

เฟซบุ้ครองโฆษกนายอนุสรณ์



ต่อมาหลังจากเสี่ยแสนศิริ ออกมายอมรับว่าไปพบนายกปูที่โฟร์ซีซั่นจริง แล้วก็ตามมาด้วยข่าวมติชน ลงว่า นายกไปคุยเรื่องราคาประเมินที่ดินใหม่ปี55 และผังเมืองใหม่ กับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ตามข่าวนี้

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



ซึ่งทำให้เกิดเสียงครหาว่า นายกไปตกลงอะไรเกี่ยวกับความลับทางราชการที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หรือไม่? มีผลกระทบอะไรเกี่ยวกับการโอนที่ดิน หรือทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินตามราคาประเมินใหม่หรือไม่?

หรือว่า ไปรับงานใครมาว่าจะไม่กำหนดพื้นที่รับน้ำท่วมบนที่ดินของใครซื้อกักตุนไว้หรือไม่?

หรือว่ามีใครขอให้เลื่อนการประกาศราคาประเมินออกไปรึเปล่า? หรือให้ข่าววงในเรื่องราคาที่ดินเพื่อให้ใครไปกว้านซือที่ดินรึเปล่า?

นายก ไม่ตอบคำถามให้เคลียร์แต่วันแรก ว่าไปคุยอะไร เพื่อประชาชนอย่างไร ทำไมให้นักข่าวติดตาม ทั้งๆที่ ยิ่งควรให้นักข่าวติดตามเพื่อความโปร่งใส

และแล้วเมื่อวันที่22 ก.พ.55 ก็มีข่าวที่กระทรวงการคลังประกาศเลื่อนประกาศการประเมินราคาที่ดินใหม่ออกไปอีก6เดือน อ้างเพราะน้ำท่วม และจะช่วยให้ประชาชนประหยัดจากภาระค่าธรรมเนียมในการทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน?? (ช่วยประหยัดให้กลุ่มอสังหาด้วยรึเปล่า?)

คลิกที่รูปเพื่อขยาย



และวันที่23 ก.พ. 55 นี่แหล่ะ นายกปูก็โดดประชุมสภาญัตติพิจารณาร่างแก้ไขรธน.ในช่วงบ่าย ทั้งๆที่ไม่ได้มีภารกิจที่ใดอีก เพื่อมาโฟสเฟซบุ๊กชี้แจงเรื่องว.5

คลิกที่รูปเพื่ออ่านคำชี้แจงทั้งหมดของนายก


http://imgur.com/72XAvrq




ล่าสุดวันที่23ก.พ.55 นายกก็ใช้ให้โฆษกพรรคเพื่อทุยเด็ดเพ่พร้อมพัง ผู้เคยซ้อมเมียเป็นประจำจนเป็นข่าว ไปแจ้งความเอาเรื่องพรรคปชป.เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีผู้หญิงอย่างนายกยิ่งลักษณ์

ซึ่งความจริงแล้ว ผมอยากฝากป้ายอะไรบางอย่างให้ท่านนายกตามนี้

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!



--------------------------

ท้ายสุด ผมขอนำคำพูดของแกนนำกลุ่มกรีน ผู้ซึ่งยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อตรวจสอบจริยธรรมของนายกยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวไว้ว่า

“ถ้าเป็นการหารือเพื่อประโยชน์กับประเทศชาติจริง ก็ควรหารือกันในที่เปิดเผย มีวาระที่ชัดเจนและมีผลสรุปของการประชุมให้สังคมได้รับรู้ รวมทั้งนักธุรกิจอสังหาฯ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ทำไมจึงเลือกหารือเฉพาะกลุ่มที่ตัวเองสนิทสนม และสามารถสั่งการได้ด้วยใช่หรือไม่ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของนายกิตติรัตน์จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ส่อให้เห็นถึงการแอบเอื้อให้เอกชนได้ประโยชน์ 
และอาจเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนในกระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะของรัฐ เปิดช่องให้มีการให้ข้อมูลภายในไปแสวงหาประโยชน์ เอื้อประโยชน์กับพวกพ้อง ถือเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมอย่างรุนแรง จึงขอให้ผู้ตรวจการเร่งดำเนินการตรวจสอบจริยธรรม และหากพบว่ามีปัญหาดังกล่าวจริงก็ให้ดำเนินการยื่นถอดถอนทันทีเพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง” นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ตัวแทนกลุ่มกรีน



คลิกอ่าน รัฐบุรุษพลเอกเปรม แค่ก้าวย่างก็สยบแก้ไขมาตรา112


-->

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รัฐบุรุษพลเอกเปรม แค่ย่างก้าวก็สยบแก้ไขมาตรา112





บทนี้ต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว

หลายคนอาจสงสัยถามว่า ทำไมพลเอกเปรม ถึงยอมตอบรับคำเชิญไปร่วมงานเลี้ยงศปภ. ตามคำเชิญของนางสาวปูเด้ง ณ.โฟร์ซีซั่น?

ตามความคิดของผม ผมขอตอบว่า

เพราะพลเอกเปรม ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แห่งบ้านเมือง แม้ท่านจะโดนพวกไพร่ไฮยีน่าและฝูงวรนุส รุมด่าท่านในตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม

แต่พลเอกเปรม ท่านก็ไม่เคยใส่ใจ เพราะมันคนละชั้นกันอยู่แล้ว ราชสีห์คงมิใส่ใจเสียงเห่าหอนของบรรดาหมารับใช้ทรราช

เมื่อนกแก้วกล้าเชิญ พลเอกเปรมท่านก็ไปในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ไปเพราะจิตเมตตา

-------------------------------

แค่ก้าวย่างสยบแก้ไขมาตรา112 ลงได้ทันที

ก่อนที่จะมีงานเลี้ยงศปภ. พรรคเพื่อไทยประกาศว่า จะไม่แตะต้องมาตรา112 เด็ดขาด

ผมคิดว่า หรือนี่อาจเสมือนเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย ที่ก้มกราบเท้าเรียนเชิญรัฐบุรุษอาวุโสอย่างพลเอกเปรมอีกทาง เพื่อให้พลเอกเปรมตอบรับคำเชิญไปร่วมงานเลี้ยง

หากเป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า พลเอกเปรมได้เสียสละตัวเองเพื่อสยบเรื่องแก้ไขมาตรา112 ช่วยปกป้องสถาบันฯ เพียงแค่ท่านก้าวย่างเข้าทำเนียบนกแก้วเท่านั้น

นี่แหล่ะ เขาเรียกบารมีของรัฐบุรุษแห่งประเทศไทย

เพราะพวกนิติราษฎร์ร้องแร่แห่กระเชิงมาเป็นเดือนๆ สุดท้ายก็แพ้พ่ายแค่รอยท็อปบู๊ตเก่าๆ ของมหาราชสีห์ รัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

------------------------------



พลเอกเปรม ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญของพลเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

เคยเห็นไหมพวกไพร่ทั้งหลาย?? 555


คลิกอ่าน ผลงานอมตะของรมช.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ



-->

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เสื้อแดงมติชนยิ่งแก้แทนเรื่องว.5 ก็ยิ่งซ้ำเติมปู





(บทความนี้ต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว)

ตอนนี้ พวกเสื้อแดง พยายามหาเหตุผลช่วยแก้ตัวแทนนายกเรื่องว.5 4ฤดู

ตอนนี้มามุขใหม่ คือนายกแอบไปพบนักธุรกิจผู้ร่วมงาน ก้าวต่อไป sme ไทยปี2555 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์จัด

ตามรูปนี้ของพวกฟายแดง!!

http://imgur.com/19rhgVd,sYqBNbJ

และอย่างที่ในบทความที่แล้ว ที่ผมนำรายงานของนักข่าวติดตามนายกมานำเสนอก็คือ

วันที่8กุมภาพันธ์ นายกแจ้งว่าไม่ให้นักข่าวติดตาม เพราะอ้างว่าไปเรื่องธุระส่วนตัว นักข่าวก็เลยไม่ตามไปทำข่าว

ซึ่งถ้านายกอยากจะไปร่วมงานสัมมนานี้ หรือไปพบนักธุรกิจที่เข้าร่วมสัมนางานนี้จริงๆ ยิ่งควรให้นักข่าวตามไปด้วย เพื่อความโปร่งใสว่าไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือแอบตกลงผลประโยชน์เอื้อธุรกิจพวกพ้อง

ที่สำคัญ นายเศรษฐาไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานนี้ เพราะเศรษฐายอมรับว่าแค่แวะพบนายก ก่อนที่ตัวเองจะไปงานเปิดโครงการของแสนสิริที่สยามพารากอน

ล่าสุดก็ให้มติชน เสนอข่าวอ้างแหล่งข่าวธุรกิจที่ไหนมาก็ไม่รู้ว่า นายกไปพบนักธุรกิจตามรายชื่อในข่าว แล้วทำไมนายกิตติรัตน์และนักธุรกิจพวกนั้นถึงไม่กล้าออกมาชี้แจงเองว่าได้ร่วมประชุมกับปู ตามข่าวนี้

เผย "ปู" นัดพบกลุ่มนักธุรกิจอสังหาฯ ที่ชั้น 7 โฟร์ซีซั่นส์ มี "กิตติรัตน์" ร่วมหารือด้วย

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



ซึ่งการไปหารือเรื่องราคาประเมินที่ดินใหม่และผังเมืองใหม่นี่ แอบเอาข่าววงในราชการอะไรไปให้พวกพ้องหรือไม่ เพื่อการกว้านซื้อหรือเพื่อการโอนที่ดินอะไรก่อนประกาศใหม่หรือไม่? แค่นี้ก็เริ่มเห็นความไม่โปร่งใสแล้ว

ว่าทำไมต้องไปเจรจาเรื่องนี้กัน ฮั้วผลประโยชน์ระหว่างข้อมูลความลับของราชการที่ยังไม่เปิดเผยต่อพวกพ้องเอกชนหรือไม่? มีการตกลงอะไรลับๆ ในเรื่องราคาประเมินที่ดินใหม่หรือไม่?

แอบไปถกเรื่องพื้นที่ฟลัดเวย์ใหม่ ตามผังเมืองใหม่ที่กำลังจะออกอยู่หรือไม่? 

เพราะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พวกนี้ ก็คือพวกนายทุนที่กว้านซื้อกักตุนที่ดินทั่วประเทศ นายกหาทางหลบพื้นที่แก้มลิงเพื่อไม่ให้โดนที่ดินของธุรกิจพวกพ้องหรือไม่? ก่อนออกทัวร์นกแก้ว!!

อย่างแสนสิริ ก็มีที่ดินในแนวฟลัดเวย์เดิมเขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง หลายแห่ง 

แถมล่าสุด รัฐบาลปู ย้ายแนวฟลัดเวย์เดิมออกมานอกคลอง13 เลี่ยงพื้นที่แนวฟลัดเวย์เดิมตามพระราชโองการของรัชกาลที่5แล้วด้วย คุณสรยุทธรายงานไปแล้ว ว่าใช้งบสร้างแนวฟลัดเวย์ใหม่4.5หมื่นล้านบาท (ทั้งๆที่พวกธุรกิจอสังหาเหล่านี้คือพวกที่ทำผิดกฎหมายฟลัดเวย์เก่าทั้งนั้น)

และที่สำคัญที่สุดคือ แล้วไปเกี่ยวกับการบริหารชาติเพื่อประชาชนส่วนใหญ่อย่างไร ตามที่รองโฆษกนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาดอ้าง!!


แนะนำอ่าน แฉกลุ่มที่ดินใด บุกรุกฟลัดเวย์!!

-------------------------

อย่าเอาเพศหญิงมาปกป้องการตรวจสอบความจริง

เห็นพวกเสื้อแดงที่บอร์ดสนุก เอาเพศแม่มาปกป้องนายก ผมเลยเข้าไปตอบสักหน่อยตามนี้ว่า

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



อยากบอกนายกระเทยแดงว่า สังคมอยากรู้ว่านายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแอบไปหานักธุรกิจอสังหาทรัพย์ทำไม ในเวลาราชการ ในช่วงประชุมสภา? แล้วไม่ให้นักข่าวติดตาม มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่?

ถ้ายิ่งลักษณ์ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีของไทย เธออยากจะไปหาผู้ชายสักกี่คนก็เรื่องของเธอ!!

ถ้ายิ่งลักษณ์ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีของไทย เธออยากไปหาผู้ชายเวลาใดก็ได้ มันก็เรื่องของเธอ!!


-->

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

simsimi เฉลยแล้ว ภารกิจว.5 คืออะไร?





ก่อนอื่น มาดูจากรายงานข่าวจากนักข่าวที่ติดตามนายกก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ก.พ.นั้น เริ่มจากเวลา 08.30 น. เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า
จนกระทั่งถึงเวลา 13.30 น.นายกฯ ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่วนตัว ไม่มีการแจ้งว่าเดินทางไปที่ไหน เพื่อไม่ให้คณะสื่อมวลชนติดตาม รวมทั้งไม่ใช้ทีมรักษาความปลอดภัยล่วงหน้า
จนกระทั่งในเวลา 16.00 น.นายกฯได้เดินทางเข้ามารัฐสภาเพื่อเซ็นชื่อ ก่อนที่จะกลับมาประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กอ.รมน.ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 16.30 น. ต่อ จนกระทั่งเวลา 18.30 น. เสร็จสิ้นภารกิจ เดินทางกลับไปยังบ้านพัก


------------------------


เสี่ยแสนสิริ ออกมายอมรับว่า ได้พบนายกปูที่ชั้น7 โฟร์ซีซั่นจริง

ตามข่าวนี้

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



ซึ่งชั้น7 โรงแรมโฟร์ซีซั่น ก็มีห้องเอ๊กเซกคลูทีฟ executive จริงๆ (ว่าแต่ไปห้องนี้จริงๆ เหรอ?)

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



ไทกร พลสุวรรณ แกนนำอีสานกู้ชาติ(ใครวะ) ไม่จบเรื่องว.5ง่ายๆ
เขาได้โพสในfacebook เรื่องนี้ว่าไง หว่า?




เมื่อความจริงยังไม่เคลียร์ จากปากนายกเองว่า มันเรื่องสำคัญอะไรกันนักกันหนา ที่ถึงขนาดต้องโดดประชุมสภา เพื่อไปพบนักธุรกิจที่ดินคนนั้น มันเรื่องอะไร?

เมื่อนายกไม่ตอบ งั้นไปถามsimsimi ดีกว่า 555





"ปูเพลียค่ะ"


คลิกอ่าน ยิ่งลักษณ์ตัดพ้อเรื่องเพศใน facebook




วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ยิ่งลักษณ์ตัดพ้อเรื่องเพศใน facebook ?





ข้อความจาก Yingluck faebook



18 ก.พ.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสข้อความผ่าน เฟสบุ๊ค Yingluck Shinawatra

อยากให้สังคมไทยให้เกียรติซึ่งกันและกันโดยไม่คำนึงถึงเพศ สีผิว หรือถิ่นกำเนิดตลอดจนการเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์


อีกทั้ง ที่เศร้าใจกว่านั้นคื อการที่คนไทยด้วยกันดูถูกดูแคลนกันเองเพื่อความได้เปรียบในเรื่องทางเพศ การงานหรือแม้แต้ประโยชน์ของตนเองและทางการเมือง 

ขอความร่วมมือและความเข้าใจในบทบาทของสตรี สตรีไทยต้องได้รับเกียรติและศักดิ์ศรีของตนคืนมา 

------------------------

เอ่อ.. ท่านนายกครับ

ถ้าเป็นเรื่อง4seasons มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศเลยนะครับ สังคมไทยแค่ต้องการรู้ว่า นายกรัฐมนตรีไทยไปทำอะไรที่โรงแรม พบใคร เรื่องอะไร ในเวลาราชการช่วงมีการประชุมสภา?

สังคมไทยตัองการรู้ นายกก็ตอบมา เท่านั้นก็จบ!!

ยิ่งมาบอกทีหลังว่า ไปเกี่ยวกับเรื่องบริหารประเทศ ต้องยิ่งอธิบายให้ประชาชนรับรู้ครับ ว่าเกี่ยวกับประชาชนตรงไหน?

พอไม่ตอบ แถมตอนแรกโกหกว่าไม่ได้ไป ตอนหลังมายอมรับว่าไปจริง แล้วให้ลิ่วล้อออกมาปกป้องคนละที2ที ข้อมูลเปลี่ยนไปเรื่อย ยิ่งปกป้องปกปิด มันยิ่งไม่โปร่งใสครับ

การทำหน้าที่ของการเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องไม่มีคำว่าเพศครับ

เรียกร้องกันนี่ครับว่า ผู้หญิงทำงานได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย ศักดิ์ศรีในการทำงาน อย่านำคำว่า เพศ มาเป็นเรื่องปิดกั้น ถูกต้องไหมครับ

ถ้าคุณไม่พร้อมจะตอบคำถามกับสังคมในทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมือง

คุณก็ไม่เหมาะมาอาสารับใช้ประชาชนครับ เป็นนายกรัฐมนตรีต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ครับ


ที่สำคัญ ยิ่งรู้ตัว่าเป็นเพศหญิง ก็ยิ่งต้องชี้แจงให้ชัดเจนยิ่งกว่าเพศชายด้วยซ้ำ!!


คห.ดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้  (คลิกที่รูปเพื่อขยาย)





คลิกอ่าน เสื้อแดง-มติชนยิ่งแก้แทน ยิ่งซ้ำเติมปู!!



-->

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ร่วมโหวตบุลคลสารเลวแห่งปีกับพานทองแท้





ทีแรกว่า จะเขียนเรื่อง มหาอำมาตย์ราชสีห์บุกรังฝูงวรนุส แต่บังเอิญกลับเจอประเด็นฮอตกว่า จึงจำต้องนำเรื่องนี้มาเขียนก่อน

นั่นก็คือ facebook ของนายโอ๊ค พานทองแท้ ณ. แคทองท้วย ได้ประกาศให้เหล่าบรรดาพวกคลั่งประชาธิปไตยฟายๆ ไปโหวตบุคคลแห่งปี ตามรูปนี้




ซึ่งที่จริง ควรจะเป็นการโหวตบุคคลสารเลวแห่งปี 

หรือโหวตบุคคลวรนุสแห่งปี หรือโหวตบุคคลบัดซบแห่งปีมากกว่านะ

และพอผมได้รับรู้ข่าว ก็เลยขอไปร่วมโหวตบุคคลจังรัยแห่งปีในเพจสารเลว นี้แบบเบาะๆ สักหน่อย ตามนี้




แต่ประเด็นร้อน มันอยู่ตรงที่ แต่ละคนในรูปล้วนแต่เป็นพวกสารเลวทั้งนั้น (ยกเว้นคุณตันเพียงคนเดียว) แถมในรูปยังมีคำว่า มาตรา112กดหัว อยู่ในรูปอีก

นั่นจึงเท่ากับบ่งบอก ว่า e oak พานทองแท้ ณ. แคทองท้วย มันเป็นพวกเดียวกับนิติราษฎร์ และพวกหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นี่เอง

แล้วที่พ่อมัน อาหญิงของมัน บอกไม่แตะ 112 นั้น จึงเป็นแค่คำสะตอ แหล ชัดๆ เพราะความจริงมันเป็นแผนแบ่งกันตี

ก็มีคนเข้าไปด่าเพจมันในเรื่องนี้เยอะ แต่ผมว่า เข้าไปด่ามันก็เท่านั้นแหล่ะ

ผมเลยไม่เข้าไปด่า แค่เข้าไปเขียนแบบฮาๆ แซวอาหญิงของมันสักหน่อยเท่านั้นก็พอ

พวกเสลดแดง ด่าไปก็มันสำนึกหรอก ทั้งด้าน ทั้งหนา มันเอาอยู่ค่า!!

เพราะขึ้นชื่อว่าคนชั่วสุดๆ แม้พระมาโปรดมันก็ไม่สำนึก แม้ยมบาลมารับ มันดันนึกว่า นักบุญมาโปรด!!


----------------------------------------


เก็บตก ว.5 ชั้น7 4 ซีซั่น ?

ก็บอกแล้วไง ว่าไปโรงแรมไปพบใครคนหนึ่ง ด้วยเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว ที่ไม่อาจเปิดเผยได้
เวลาที่คนเราคันมากๆ มันก็ต้องเกาใช่มะ ใครจะไปทนได้ เช่นเกิดคันหูขึ้นมา จะทำยังไงดีล่ะ อุตส่าห์เอาสำลีมาปั่นก็ไม่หาย มันคันอยู่ข้างใน ขนลุกทุกที
มันคันจนทนไม่ไหว บางครั้งไอ้ตรงที่คันจะเกาเองมันก็ไม่หาย เกาเองไม่ถึง เข้าใจกันบ้างสิ!!
คนเรามันจะคัน มันเลือกเวลาได้ไหม หา!! ก็มันเกิดคันในเวลาราชการนี่หว่า?? 555



-----------------------

สส.รังสิมาโชว์ จนเหล่าลิ่วล้อปูรีบสันหลังหวะเป็นแถบๆ





แค่คุณรังสิมาถามว่า นายกไปทำอะไรที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นในเวลาราชการ ในขณะที่กำลังมีการประชุมสภา ทำไมถามไม่ได้?

นี่หรือประชาธิปไตยของเสื้อแดง? แค่ถามว่านายกไปไหน ไปทำอะไรในเวลาราชการก็ไม่ได้ กลายเป็นเรื่องต้องห้าม!!

คุณรังสิมาพูดว่า "ดิชั้นไม่ได้พูดคนเดียว หรือไปอยู่ตัวต่อตัวที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ดิชั้นไม่ทำ"

ตรงจุดนี้ รังสิมาเธอพูดถึงตัวเธอเอง ไม่ได้พูดถึงตัวนายกสักหน่อย ลิ่วล้อดันสันหลังหวะกันเอง 555

ประชาธิปไตยแบบฟายๆ ถามว่านายกไปทำอะไรในช่วงมีประชุมสภาก็ไม่ได้ ยิ่งปิดก็ยิ่งพิรุธ!!

(วัวสันหลังหวะ หมายถึง จะไปกลัวอะไรถ้าไม่ได้ทำผิด คนที่มีความผิดติดตัวทำให้มีความหวาดระแวง)


คลิกอ่าน ขำกลิ้งเสื้อแดงแบนปัญญาเรณู2




วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ขำกลิ้งเมื่อเสื้อแดงแบนปัญญาเรณู2 !!





มล่ะขำกลิ้งแนวคิดเห่ยๆของพวกเสื้อแดงจริงๆ โดยเฉพาะเว็บบล็อคแดงไทยอีนิวส์ ซึ่งคาดว่าเจ้าของบล็อคมันชื่อ นิวส์ เลยตั้งชื่อบล็อคว่า อีนิวส์ (555) (ไม่ใช่newsที่แปลว่าข่าวหรอก)

ไอ้เว็บบล็อคแดงไทยอีนิวส์เนี่ย มันพยายามปลุกระดมให้พวกเสื้อแดงหน้าโง่ให้แบนสินค้าโน้น สินค้านี้ เช่นแบนมาม่า แบนธนาคารกรุงเทพฯ แบนสินค้าทุกชนิดที่สนับสนุนอำมาตย์!!



สุดท้ายไทยอีนิวส์และเสื้อแดง อุดมการณ์มันก็สุนัขแม้วไม่รับประทาน

แน่จริงทำไมเสื้อแดงไม่แบนยิ่งลักษณ์ด้วยหว่า?

เพราะเจ๊ปู ณ.4ซีซั่น น้องสาวทรราชทักษิณดันเจือกซูฮกท่านอภิมหาอำมาตย์รัฐบุรุษเปรมซะแล้ว 555




(เรื่องพณ.ท่านรัฐบุรุษพลเอกเปรม กับนายกปู ไว้บทความตอนหน้าว่ากันอีกที)

---------------------------------

เรื่องที่เสื้อแดงแบนไม่กินมาม่า แต่ยังdakยำยำ ไวไวเหมือนเดิม เพราะไร้สารอาหารบำรุงสมองเหมือนกันนั้น เป็นสิ่งที่พวกแดงชอบ!!

ต่อมาไทยอีนิวส์ (อย่าลืม!!เจ้าของบล็อคชื่อนิวส์) ก็ลงข่าวว่า มาม่ากำไรฮวบ40% ซึ่งสร้างความกระดี๊กระด๊าดีใจประหนึ่ง แมลงวันได้กลิ่นอุนจิ เชื่อว่าเสื้อแดงได้แบนมาม่าสำเร็จแล้ว แดงครื้นเครงกันเองในกะลา


ซึ่งพวกแดงที่พัฒนาขึ้นมาบ้างแล้วก็มักเป็นพวกอ่านหนังสือวันละไม่เกิน5บรรทัด ซึ่งในเนื้อหาข่าวที่มาม่า กำไรลดฮวบนั้น แต่ถ้าเราอ่านเนื้อหาข่าวอย่างละเอียดดีๆ

ข่าวได้บอกแล้วว่า มาม่ากำไรลดลง แต่ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น ?

นางรวงทอง ธนรังสีกุล ผู้จัดการฝ่ายบัญชีของมาม่า ได้ทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กำไรเฉพาะกิจการลดลง 41.31% กำไรงบรวมลดลง 41.62% โดยมีสาเหตุดังนี้

1.รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 9.29% โดยเพิ่มจากส่วนของงบการเงินเฉพาะกิจการ 8.75%
2.ต้นทุนขายต่อยอดขายจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.82%
3.ต้นทุนที่สูงขึ้นเป็นผลจากราคาวัตถุดิบหลักของบริษัทฯสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น แป้งสาลี น้ำมันปาล์ม ราคาสูงขึ้น 3%และ126%ตามลำดับ

นั่นแสดงว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่กำไรลดลง!!

ก็เพราะ มาม่าตรึงราคาขายไว้ แม้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้น นี่แสดงว่า มาม่าเขาเห็นใจผู้บริโภคจึงไม่ขึ้นราคา และถ้าเสื้อแดงมันแบนมาม่าสำเร็จจริงๆ ทำไมยอดขายมาม่ากลับเพิ่มขึ้นล่ะ?

ฉะนั้น พวกเสื้อแดงมันครื้นเครงกันในกะลาจริงๆ 555

เรื่องมาม่า ผมเคยตั้งกระทู้ที่สนุก ชื่อกระทู้ ชื่นชมมาม่าตรึงราคาเพื่อคนไทย ตามลิงค์นี้ครับ http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3533844

-----------------------

เสื้อแดงแบนปัญญาเรณู2 ?

ส่วนรายได้ปัญญาเรณู2

สัปดาห์ที่2 อยู่ที่อันดับ 3 : ปัญญา เรณู 2 รายรับ 4 วัน 4.4 ล้านบาท รายรับรวม 17.1 ล้านบาท

ขนาดคุณตัน อิชิตัน ยังชมว่าเรื่องนี้ดี จนซื้อบัตรแจกเด็กนักเรียน200ใบไปแล้ว คนอย่างคุณตัน ฉลาดแค่ไหนใครก็รู้ ส่วนเสื้อแดงโง่แค่ไหนใครๆก็รู้?

---------------------

ล่าสุดปัญญาเรณู2 ได้ทุนคืนแล้วจ้า !!

ล่าสุดคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง และผู้กำกับภาพยนตร์ เดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ ตนเองได้เดินทางมาเพื่อร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งให้คงไว้ซึ่งมาตรา 112

ส่วนที่มีกระแสคนเสื้อแดงต่อต้านภาพยนตร์เรื่องปัญญาเรณู ภาค 2 ที่ตนเองกำกับนั้น ตนเองไม่ใส่ใจ เพราะตั้งแต่ภาพยนตร์เข้าฉาย ก็ได้ทุนคืนแล้ว และเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนไม่มากที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งตนเองก็ไม่อยากได้เงินของคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว และนอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกมากที่ต้องการไปดูภาพยนต์เรื่องนี้ ทั้งนี้ การที่ตนเองออกมาร่วมชุมนุม ตนไม่กลัวว่าจะมีผลกระทบกับตนเองแต่อย่างใด


------------------------

ถามหน่อยไทยอีนิวส์เอ๋ย

หนังปัญญาเรณูภาคแรก ขาดทุนเจ๊ง ตอนนั้นเสื้อแดงมันแบนกันรึยัง? ได้รายได้แค่12ล้านบาทเท่านั้น

แล้วทำไมเมื่อเสื้อแดงแบนปัญญาเรูณ2 หนังกลับรายได้เพิ่มขึ้น?

เสื้อแดงมันแบนภาษาหอกอะไรหว่า รายได้เขากลับเพิ่มขึ้น!!

เสื้อแดงมันแบนมาม่าภาษาหอกอะไรหว่า ยอดขายมาม่าเพิ่มขึ้น!!

ฉะนั้นเรื่องที่เสื้อแดงแบนโน่นแบนนี่ แล้วเขาจะเจ๊งน่ะ ไม่มีหรอก?

สินค้าไหน เรื่องไหนเขาเจ๊ง มันก็ไม่เกี่ยวกับเสื้อแดงหรอกว่ะ

ดูซิ ผีอีเม้ยดังจะตาย ละครของพงษ์พัฒน์ คนที่ไล่พวกไม่รักพ่อให้ออกจากบ้านพ่อไปซะ ก็ได้รางวัลมากมาย เสื้อแดงหายโง่รึยัง 555!!




คลิกอ่าน แอนตี้ป๋าเทพ อ๊อฟ ตั้ว ตรรกะโง่ๆ ของเสื้อแดง




วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เอกยุทธ vs ยิ่งลักษณ์ !?





รหัสว.5 ชั้น7 4seasons ที่กำลังฮอตฮิตในเวลานี้

จากคู่กรณีทั้งสองคือ

เอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ออกมาแฉ หลังจากโดนต่อย!!

นายกยิ่งลักษณ์ ที่โดดประชุมสภา แอบมาประชุมลับเฉพาะส่วนตั๊วส่วนตัวที่โฟร์ซีซั่น




มุขแบบการ์ตูน

"คราวนี้ เธอเอาอยู่ จริงๆ"

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!








มุขแบบตัวจริง

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!




คห.ดีๆจากเว็บผจก.



ต้องคอยจับตาต่อไปว่า ทักษิณอาจจะปล่อยกลยุทธ สร้างข่าวร้อน เพื่อกลบข่าวคาว ของน้องสาวหรือไม่?



คลิกอ่าน ภารกิจลับว.5โฟร์ซีซั่นของยิ่งลักษณ์คืออะไร?





วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ภารกิจลับว.5โฟร์ซีซั่นของยิ่งลักษณ์คืออะไร?





นายกยิ่งลักษณ์ ยอมรับแล้วว่า ได้ไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นจริงๆ

ที่ยิ่งลักษณ์ออกมายอมรับ ก็เพราะโดนจับได้ ไม่ใช่เต็มใจยอมรับ

โดยให้รองโฆษกที่ชื่อเหมือนสามีนอกทะเบียน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ออกมาชี้แจงแทนประหนึ่งเป็นผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ว่าท่านนายกได้ไปปฎิบัติการภารกิจว.5ที่โรงแรม4ซีซั่น บนสวรรค์ชั้น7 (555)

รหัสว.5 แปลว่าภารกิจลับ(เฉพาะ) แต่สุดท้ายลับเฉพาะ มันเกิดไม่ลับซะแล้ว เพราะดันมีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้เคยออกปากวอนตีนตบเพราะดันไปกระแนะกระแหนยิ่งลักษณ์ (แต่ดันกระทบสาวเหนือไปด้วย จนเป็นประเด็นร้อนมาแล้ว) มาพบเจอนายกโดยมิได้นัดหมาย

คนที่ไม่ควรไปเจอ ก็ดันไปเจอยิ่งลักษณ์เข้า

เมื่อเอกยุทธ ไปเจอยิ่งลักษณ์ ความเลยแตก!! เอาไม่อยู่!! ยิ่งลักษณ์เลยวูบวาบ สุดท้ายเอกยุทธเลยโดนต่อยไปตามระเบียบสำนักนายกนกแก้วไปแทน

ทีนี้นายเอกยุทธ ยังแถลงว่า พบเห็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ซึ่งเป็นแดงตัวเอี้ยเลยนะคนนี้

เป็นไปได้ไหมว่าเมื่อแดงตัวเอี้ยถกภารกิจลับเฉพาะกับแดงตัวแม่ สุดท้ายเลือดเลยกระฉูดที่ปากนายเอกยุทธแทน 555

ปูถกกับนักธุรกิจ นักธุรกิจถกปู ต่างคนต่างถกแบบลับเฉพาะ!!


-------------------------------


เฉลย ภารกิจว.5 ที่ว่าคืออะไร?

คำตอบน่าจะเป็นภารกิจเอาอยู่สู้น้ำท่วมปี2 ละมั้ง 555

นั่นคือวางแผนแก้ปัญหาน้ำแตก เอ้ยน้ำท่วม ด้วยแผนเอาอยู่ปี2 ก็จะถกเรื่องน้ำ เลยไปถกที่โรงแรม4ฤดู ก็เหมาะสมดีแล้ว ^^

น้ำท่วมไม่เป็นอุปสรรคในการเอาอยู่!! (ว.5 ย่อมาจาก ไม่ว่างฮ่า!!)


ปล.ภารกิจอะไรวะ ที่ต้องแอบไปประชุมในเวลาราชการโดยที่ไม่มีนักข่าวติดตามไปด้วย?
สมองอย่างยิ่งลักษณ์เคยคิดอะไรเองเป็น??
เพราะถ้าคิดเรื่องโครงการ ทำไมไม่มีรองนายกฯหรือคนในรัฐบาลตามไปด้วยสักคน เพราะทีถามปัญหาบ้านเมืองทีไร ยิ่งลักษณ์โยนไปให้คนอื่นทั้งปี







คลิกอ่าน ยิ่งลักษณ์ ตัดพ้อเรื่องเพศในfacebook!!

-->

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ประโยคเต็มๆ ที่ปลัดป๋อตะโกนในละครคู่เดือด





ประโยคดังประโยคนี้ มาจากการตะโกนซ้ำๆของปลัดดำ พระเอกละครคู่เดือด ที่แสดงโดยคุณป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ (นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมรางวัลคมชัดลึกอวอร์ดล่าสุดจากละครคู่เดือด)

หลายคนอาจไม่รู้ว่า สิ่งที่ปลัดดำตะโกนซ้ำๆ ในละคร เป็นแค่เพียงคำพูดประโยคสั้นๆ คร่าวๆเท่านั้น

"หน้าที่ของข้าราชการฯ คือต้องรับใช้ประชาชนฯ"

ให้สังเกตเครื่องหมายไปยาลน้อย ข้างหลังตำว่าข้าราชการฯ และประชาชนฯ ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า ความจริงต้องมีไปยาลน้อยอยู่หลังทั้ง2คำนี้

และประโยคเต็มๆ ที่ละไว้ด้วยเครื่องหมายไปยาลน้อยนั้น ก็คือ

"หน้าที่ของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือต้องรับใช้ประชาชนผู้จงรักภักดี!!"

ซึ่งแปลง่ายๆ ว่า ข้าราชการของในหลวง มีหน้าที่รับใช้ประชาชนผู้จงรักภักดี หากมันผู้ใดไม่จงรักภักดีสถาบันกษัตริย์ มันย่อมไม่ใช่พลเมืองไทยที่ดีตามรัฐธรรมนูญทุกฉบับได้ระบุไว้

อย่างเช่น

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแรกพ.ศ.2475 เขียนไว้ใน

มาตรา3 พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

มาตรา11 พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง





จำไว้นะครับ ประเทศไทย คือ ราชอาณาจักรไทย หรือแผ่นดินแห่งราชา

ข้าราชการไทย เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นข้าราชการของในหลวง ข้าราชการของพระเจ้าแผ่นดิน (ข้าฯแผ่นดิน)

ข้าราชการของในหลวง ต้องมีหน้าที่รับใช้ประชาชนของในหลวง





ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องปกป้องในหลวง


------------------------------

มีคนถามผมว่า ทำไมหลังปีพ.ศ.2549 จึงมีคนทำผิดมาตรา112 มากขึ้น?

คำตอบก็คือ เพราะคนชั่วมีมากขึ้น คนอกตัญญูแผ่นดินมีมากขึ้น สังคมไทยเสื่อมทรามลงนั่นเอง

ในเมื่อสังคมไทยเสื่อมลง มีคนทำชั่วมากขึ้น กฎหมายต้องเข้มแข็งขึ้น เข้มงวดขึ้น จึงจะถูกต้อง

ไม่ใช่คนทำชั่วมากขึ้น คนไร้ศีลธรรมมากขึ้น กลับมีคนคิดพยายามหาทางลดโทษให้เบาลง บ้ารึเปล่า?


คลิกอ่าน แนวคิดที่ถูกต้องในเรื่องมาตรา112



-->

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หน้าปกastv ปะทะหน้าปกมติชน




เมื่อastv สุดสัปดาห์ ขึ้นหน้าปกคุณบิณฑ์บันลิอฤทธิ์ ปกป้องสถาบัน

ต่อมาสื่อที่เงินซื้อได้ อย่างมติชน ก็ต้องโต้ตอบกลับ.. เพื่อปกป้องพวกกระบือแดง เชื่อว่าหลายคนคงเห็นหน้าปกมติชนฉบับวันที่ 20-26มกราคม2555 กันแล้ว




แต่หน้าปกมติชนฉบันนั้นที่ถูกต้องควรเป็นแบบนี้มากกว่า 555!!

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!


ทำไมสื่อมติชน ถึงเป็นสื่อซื้อได้? 

ก็เพราะเมื่อก่อน ตอนที่อั้ยเหลี่ยมจรจัดยังมีอำนาจ แฟนๆมติชนหลายคนที่เคยอ่านในช่วงนั้น หลายคนบอกว่าที่เขาเริ่มต่อต้านอั้ยเหลี่ยมก็เพราะอ่านมติชนนี่แหล่ะ

แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า มติชนกลับหันมารับใช้อั้ยเหลี่ยมซะแล้ว


------------------------

ทักษิณ = Dr.Evil




พอดีผมเจอฝรั่งเขาเขียนเปรียบเทียบทักษิณชั่วเหมือนดร.evil ในหนังออสตินพาวเวอร์

Thaksin Thailand's Dr. Evil

Thaksin now seems to be behaving just like the 'Austin Powers' movie villain Dr. Evil as he seeks to exact his revenge on Thailand from his secret lair!

ทักษิณสันดานมันชั่วเหมือนตัวละครที่ชื่อดร.Evil ผู้ซึ่งหาหนทางแก้แค้นทำลายประเทศไทย จากที่ซ่อนนอกประเทศของมัน


คลิกอ่าน น้องsimsimi กลับมาแล้ว พูดไทยได้เหมือนเดิม

-->