วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

เหตุผลที่หนังสือ..คิดอย่างยิ่งลักษณ์ ขายดี






สัปดาห์หนังสือแห่งชาติในปี 2558 นี้ เครือมติชิน มีหนังสือขายดีที่สุดคือ



คือ ที่คนเขาซื้อไปเพื่อจะได้เอาไปสอนลูกหลานได้ว่า อย่าเอาเยี่ยงอย่างยิ่งลักษณ์ เพราะถ้าใครขืนคิดอย่างยิ่งลักษณ์ล่ะก็ ซวย !!













ส่วนหนังสือเล่มต่อไปของยิ่งลักษณ์ที่จะวางแผงในอีกไม่นานนี้ คาดกันว่าอาจจะชื่อ "หนีคุกอย่างไรให้สนุกกับยิ่งลักษณ์" หรือไม่ก็อาจจะชื่อ "ประสบการณ์คุกครั้งแรกของยิ่งลักษณ์" อย่างใดอย่างหนึ่งขอรับ 55555


http://imgur.com/4Ax1toB,GtjYQMV,j4VIhvT,PkCit8d,plwY9Hj#3





-----------------

ล่าสุดสำนักข่าวทีนิวส์ได้รายงานว่า หนังสือคิดอย่างยิ่งลักษณ์ ขายไม่ออก รอตีกลับ

วันที่ 2 เม.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียล เพจผู้ใช้นามว่า "นโรตม์ ปกป้องแผ่นดิน" ได้แชร์ภาพหนังสือชื่อ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" ของเครือมติชน กองเต็มพื้นที่ล้นทะลักในสำนักพิมพ์

 ทางเพจยังอ้างว่า "หนังสือดังกล่าว ขายไม่ออก พร้อมตีกลับ" ??????



คลิกอ่าน เมื่อยิ่งลักษณ์ เจอ ไซ กังนัมสไตล์



วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

นายกฯ ประยุทธ์ พลาดที่ไปตำหนิ ฐาปนีย์







พลเอกประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณี รายงานข่าว 3 มิติ ของฐาปนีย์ เอียดศรีไชย เรื่อง ลูกเรือประมงไทยไปเร่ร่อนจรจัดอยู่ที่อินโดนีเซีย โดยนายกฯ ประยุทธ์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า

"ได้ดำเนินการมาโดยตลอด ที่ผ่านมาก็ได้ช่วยเหลือไปแล้ว ที่เกาะอัมบน 26 คน และขออย่านำไปขยายความ โดยเฉพาะสื่อ ก่อนการนำเสนอต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประเทศ ทำให้เกิดปัญหา รวมถึงความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยทำ แต่วันนี้รัฐบาลนี้กำลังแก้ทุกอย่าง แต่ถามว่าเรือมี 4-5 ลำ ใช้ชื่อเดียวกันได้หรือไม่ รัฐบาลนี้กำลังขึ้นทะเบียนเรือ ติดจีพีเอส จับปลาที่ไหนมาต้องแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่จับมา

ให้ผมทำทุกอย่างให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วก็ไล่ผมไป มันได้ที่ไหน ก็เจรจามาตลอด พูดคุยกันอยู่ ทำไมจะเกิดเหตุไหม ถ้าตีข่าวนี้ออกไปปัญหาการค้ามนุษย์ ไอยูยู ถ้าเขาไม่ซื้อปลา 2 แสนกว่าล้านตัน พวกที่ตีข่าวคุณรับผิดชอบกันนะ คนไทยทั้งประเทศเสียหาย ผมบอกไว้เลยฐปณีย์ มาหาเจ้าหน้าที่ด้วย ไปพูดอยู่ข้างนอก มันได้อะไรขึ้นมา ถ้าผมทำไม่ได้ เพราะฐปณีย์เสนอข่าว ที่ทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ไม่ยอมรับอะไรสักอย่างจะเอาแต่สิทธิเสรีภาพ จะเข้าประเทศนู้นประเทศนี้โดยไม่มีใบอนุญาต"

------------------

คนตกเรือ หมายถึง ลูกเรือที่ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ต่างประเทศ แบบไม่มีเอกสารประจำตัวทางราชการ กลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตน

ทันทีที่ผมได้ข่าวว่านายกฯ ตำหนิฐาปนีย์ ผมก็รีบโพสในเพจของผมทันทีเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมาตามนี้


คือผมบอกตามตรง เรื่องนี้ท่านนายกฯ พลาดหนักครับ เพราะแทนที่จะกล่าวชมฐาปนีย์ และพูดสนับสนุนไปเลยว่า สื่อไทยทำได้ดี รัฐบาลยินดีช่วยเหลือให้การสนับสนุนสื่ออย่างเต็มที่ และดีแล้วที่สื่อตีแผ่เรื่องนี้ออกมา เพื่อให้คนไทยที่อาจโดนหลอกไปทำงานอีกในอนาคต จะได้รู้ทัน จะได้ฉลาดขึ้นจะได้ไม่โดนหลอกไปทำงานประมงแบบนี้อีก ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามแก้ไขปัญหานี้มาตลอด

แต่ท่านนายกฯ เอาแต่อารมณ์จนเกินไป แทนที่จะเรียกคะแนนจากการรายงานข่าวนี้ได้ เพราะพอสื่อไปรายงาน ก็ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน และทางการอินโดนีเซียก็เร่งให้ความร่วมมือ ที่จะช่วยเหลือคนไทยทั้งหมดกลับประเทศ จะได้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาล คสช. มีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหานี้

แต่พอท่านตำหนิฐาปนีย์ เท่ากับสิ่งที่รัฐบาล คสช. อ้างว่าพยายามแก้ไขอยู่ กลายเป็นเสียภาพลักษณ์ทันที เพราะถ้ารัฐบาลได้ช่วยเหลือคนไทยจริง ก็ต้องยิ่งประชาสัมพันธ์

งานนี้ขอบอกว่า พลเอกประยุทธ์ ใช้อารมณ์นำหน้ามากเกินไป ก็จะเริ่มกลายเป็นผู้นำที่ลุแก่อำนาจ ซึ่งจะเสียคะแนนนิยมไปเปล่า ๆ ขอบอกครับ แทนที่จะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส แต่ท่านกลับทำลายโอกาสไปซะดื้อ ๆ

เพราะอียูเขาจับตาเรื่องนี้เป็นพิเศษนานแล้ว แต่ท่านนายกฯ กลับไปตำหนินักข่าวที่ไปทำข่าวในเรื่องนี้ ก็เท่ากับท่านพยายามปกปิดความจริงที่ควรตีแผ่ด้วยฝ่ายเราเอง

การที่สื่อเราตีแผ่เอง เท่ากับเราใส่ใจปัญหานี้จริง ๆ ไม่ใช่ปล่อยให้สื่อต่างประเทศไปทำสกู๊ป เพราะพวกนี้บางทีก็ขยายความจนเกินความจริง

ผมเองได้ดูสกู๊ปข่าวนี้ บอกเลยว่า เป็นสกู๊ปที่ดีและถือว่า เป็นเรื่องที่สื่อสมควรทำ

สิ่งที่รัฐบาลไทยสมควรทำคือ ให้การสนับสนุนการเสนอข่าวของฐาปนีย์ให้เต็มที่ แปรวิกฤติเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลไปเลย

ถ้าฐาปนีย์กลับมา ถ้าจะเรียก ก็คือต้องเรียกไปชม ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล

----------------

ล่าสุดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ในวันที่ 27 มีนาคม 2558 นายกฯ ประยุทธ์ก็ได้เปลี่ยนท่าที มาเป็นขอบคุณการทำหน้าที่ของสื่อแล้ว

และฐาปนีย์ก็ยังรายงานข่าวจากอินโดนีเซียได้เหมือนเดิม ไม่ได้มีการถูกสั่งห้ามแต่อย่างใด แถมภาครัฐทุกหน่วยงานก็ให้ความร่วมมือกับสื่อในการทำหน้าที่ช่วยคนไทยกลับบ้านจนเป็นข่าวไปแล้ว

ฝากให้ฐาปนีย์ ช่วยรายงานข่าวเรื่องนี้หน่อย!! 555 (คลิกที่รูปเพื่อขยาย)


คลิกอ่าน ทหารซ้อมผู้ต้องหาบึ้มศาลจริงหรือ ?


วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

แนะวิธีช่วยยิ่งลักษณ์หลุดคดีจำนำข้าว






วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดียิ่งลักษณ์ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ปอ.มาตรา 157 ในโครงการจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาทแล้ว

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เลยโพสเฟสบุ๊คแถลงการณ์ตอแหลทันทีตามนี้



"ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องดิฉันในคดีเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวในวันนี้นั้น

ตลอดระยะเวลาที่ดิฉันปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น ดิฉันทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รับใช้พี่น้องประชาชนตามที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยอุดมการณ์ที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วนถูกต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ข้อกฎหมาย ตลอดจนกฎระเบียบ ข้อบังคับ ของทางราชการทุกประการ และต้องการเห็นประเทศชาติเจริญก้าวหน้า ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไร่ชาวนาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด

ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่า คดีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่กล่าวหาดิฉันนี้ ถือเป็นคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำนโยบายเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ อันเป็นนโยบายที่ประชาชนได้มอบหมายความไว้วางใจตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยให้ดิฉันมาดำเนินการ และเมื่อมีการเสนอนโยบายดังกล่าวต่อประชาชนและเกิดเป็น “ฉันทามติ” ของประชาชนที่ต้องการให้ “กลไกตลาด” เป็นธรรม สะท้อนความเป็นจริงและยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนา เพราะที่ผ่านมาชาวนาเป็นผู้ผลิตไม่สามารถกำหนดราคาผลผลิตของตนเองในตลาดได้ การกำหนดราคาตกอยู่ในมือของผู้ซื้อโดยสิ้นเชิง คดีนี้จึงเป็นคดีที่จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การเมือง ตลอดจนเกษตรกรและประชาชนอย่างกว้างขวาง ทั้งยังมีผลต่อบรรทัดฐานและการตัดสินใจในการจัดทำนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชนในอนาคต

ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตต่อเรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะ “หลักนิติธรรม” ที่พึงต้องปฏิบัติต่อบุคคลที่ถูกกล่าวหาเพื่ออำนวยความยุติธรรมนั้น ได้ขาดหายไปในคดีที่เกี่ยวกับตัวดิฉัน เห็นได้จากรายงานและสำนวนคดีพร้อมความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เองก็ระบุอย่างชัดเจนว่า “ไม่มีพยานหลักฐานว่าดิฉันกระทำการทุจริตหรือสมยอมให้ผู้ใดทุจริต” แต่ก็มีการชี้มูลความผิดกับดิฉัน และก่อนหน้าที่อัยการสูงสุดจะฟ้องคดี อัยการสูงสุดได้ชี้ข้อไม่สมบูรณ์ของคดีนี้หลายเรื่องตามที่เป็นข่าวทราบกันโดยทั่วไป และต่อมาทั้งที่ทางอัยการยังไม่ได้มีการสืบพยานหลักฐานให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะฟ้องคดีนี้ แต่กลับมีการเร่งรีบที่จะส่งฟ้อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นไปตามกระบวนการปกติที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา

อย่างไรก็ดี แม้เมื่อศาลฎีกาฯ มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้ ดิฉันมั่นใจในความบริสุทธิ์และเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่จะนำมาพิสูจน์ความจริงต่อศาลตามขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคดีของศาลตามที่กฎหมายกำหนดว่า ดิฉันมิได้กระทำความผิดใดๆทั้งสิ้น

ดิฉันเพียงหวังว่าในการพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาฯ ดิฉันจะมีสิทธิที่จะเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง และมีโอกาสเสนอข้อเท็จจริง ข้อโต้แย้ง และพยานหลักฐานของดิฉันในการต่อสู้คดีอย่างเพียงพอ

ที่สำคัญดิฉันขอให้มีการพิจารณาอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม ปราศจากอคติใดๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดิฉันเห็นว่า ดิฉันยังไม่ได้รับสิทธิในกระบวนการยุติธรรมในชั้นที่ถูกกล่าวหา และมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองที่จะทำลายดิฉันเข้ามาแทรกซ้อนโดยตลอด

สุดท้ายนี้ ดิฉันขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้โปรดยุติการวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ หยุดกดดันหรือชี้นำเพื่อประโยชน์ทางการเมือง จนกว่ากระบวนการพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ จะเสร็จสิ้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกลับคืนสู่สังคมไทยต่อไป"

ยิ่งลักษณ์ โพส

--------------------

สิ่งที่ยิ่งลักษณ์ตอแหลข้างบนนั้น คงมีแต่พวกเสื้อแดงเท่านั้นที่จะเชื่อแบบโง่ ๆ

ผมเน้นข้อความตอแหลของยิ่งลักษณ์ไว้ เชื่อว่า คุณผู้อ่านที่รักประเทศจริง ๆ ย่อมคิดได้ว่า เธอตอแหลอย่างไร

ย้ำว่า คดีที่ศาลประทับรับฟ้องนี้ ไม่ใช่คดีเกี่ยวกับทุจริตเกี่ยวกับโกง แต่เป็นคดีทุจริตต่อหน้าที่ เป็นความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศมหาศาล 

แนะวิธีช่วยยิ่งลักษณ์พ้นคดีจำนำข้าว

1. ยิ่งลักษณ์ไปฆ่าตัวตายซะ คดีอาญาก็ต้องถูกปิดไปแน่นอน เพราะผู้ต้องหาตายไปแล้ว ส่วนคดีแพ่งที่กระทรวงการคลังฟ้องร้องเอาผิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 6 แสนล้านบาท ถึงฆ่าตัวตายไปก็ยังไม่จบ เพราะถึงตายไป ก็ยังตามไปยึดทรัพย์ของคนตายมาชดใช้ให้แผ่นดินได้ต่อไป

ส่วนรัฐมนตรีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่น ๆ ในรัฐบาลก็มีส่วนร่วมรับผิดชอบความเสียหายด้วยลดหลั่นกันไปตามความเกี่ยวข้อง ตามที่รธน.ทุกฉบับ  จะเขียนไว้ว่า ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน



2. หนีคดีแบบทักษิณไปเลย เมื่อผู้ต้องหาหนีคดีก่อนศาลจะเริ่มไต่สวนจนจบ  ก็จะถูกจำหน่ายคดีออกจากระบบชั่วคราว จะได้เป็นผีเร่ร่อนเป็นเพื่อนทักษิณไง มีความสุขดีออก!!


3. หาเงินมาใช้หนี้จำนำข้าว 6 แสนล้านบาทคืนรัฐบาลไทยสิ เพราะเงินที่จ่ายไปโครงการจำนำข้าวส่วนใหญ่เป็นเงินกู้นอกงบประมาณทั้งสิ้น

พูดง่าย ๆ ก็คือ กู้เงินอนาคตมาจ่ายให้ชาวนามาตลอด จนหนี้บานปลาย

ถ้าหาเงินมาชดใช้ให้รัฐบาลไทยได้ อย่างน้อยสัก 80 % ของมูลค่าที่เสียหาย ย่อมช่วยให้โทษหนักย่อมเป็นเบา คดีอาญาที่ว่าต้องติดคุกก็อาจได้รับความเมตตาจากศาลให้แค่รอลงอาญาต่อไป

แต่ที่แน่ ๆ แค่ค่าเช่าโกดังเอกชนฝากข้าวที่ยังต้องจ่ายเดือนละ 2 พันกว่าล้านบาทมาจนวันนี้ ก็แย่แล้ว

ขนาดตระกูลชินวัตร โดย อีโอ๊คที่ชอบโอ้อวดเหลือเกินว่า โครงการนี้ช่วยเหลือชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก (ลืมตาในโลงน่ะสิ) แต่พวกมันก็ไม่เคยช่วยจ่ายค่าเช่าโกดังเลยแม้แต่สลึงเดียว

----------------

ตีแรด ต้องตีที่หาง

หมายเหตุ คดีทุจริตขายข้าวจีทูจีในโครงการจำนำข้าว ซึ่ง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกรวม 21 คน โดนอัยการสูงสุดส่งฟ้องศาลแล้ว รวมทั้งโดนฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านด้วย

หากศาลรับฟ้อง แล้วนายบุญทรง ซัดทอดความผิดไปที่ยิ่งลักษณ์ด้วย ก็จะซวยตามไปด้วยเช่นกัน

ผมขอแนะนำศาลเลยนะว่า ไม่ต้องเร่งรีบในคดียิ่งลักษณ์ แต่ให้เร่งดำเนินคดีนายบุญทรงหนัก ๆ แทน แล้วขี้ข้าจะรีบคายความลับซัดทอดไปถึงยิ่งลักษณ์เอง



---------------------

ยิ่งลักษณ์เก่งกว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย

รถไฟไทย กำเนิดมา 125 ปี แต่เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้ชื่อ การรถไฟแห่งประเทศไทยมา 64 ปี มีหนี้สินทั้งสิ้นแสนกว่าล้านบาท

แต่ก็สู้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้ บริหารประเทศแค่ 2 ปีกว่า ๆ สร้างหนี้จากโครงการจำนำข้าวได้มากกว่า 6 แสนล้านบาท (ยังไม่รวมความฉิบหายจากการเอาอยู่ในอุทกภัยใหญ่ปี2554)

นี่ถ้าไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ ทำไม่ได้จริง ๆ นะนี่ เก่งจริง ๆ ไอ้เรื่องฉิบหาย !!

5555/@akecity

หน้าตาบอกบุญไม่รับทั้งคู่!!


คลิกอ่าน จับโกหกยิ่งลักษณ์แก้ตัวกลาง สนช.


วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

สมศักดิ์เจียม ขี้ตู่ให้ปรีดีเป็นพวกล้มเจ้าและเป็นคอมมิวนิสต์






โพสล่าสุดของหงอกเจียม สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ในเฟสบุ๊ควันที่ 7 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ใครอยากอ่านไปอ่านเองที่นี่

คลิกอ่านหงอกเจียมมโนปรีดีล้มเจ้าและเป็นคอมมิวนิสต์


หน้า 1 บางกอกโพสต์ ปี 2505 ที่หงอกเจียมใช้เป็นรูปประกอบ ซึ่งถ้าไม่หลงเชื่อหงอกเจียม ใคร ๆ ก็รู้ว่า ยุคเผด็จการสมัยนั้นแทรกแซงสื่อได้ แต่หงอกเจียมก็จะเอามาอ้าง

เนื้อหาส่วนใหญ่ที่หงอกเจียมโพส ก็ยังเป็นรูปแบบเดิม ๆ ของหงอกเจียม คือ มโนยกเอาตรรกะที่ตนเองเชื่อ หรือได้ฟังต่อ ๆ มา แล้วมโนผูกเรื่องให้เข้ากับแนวคิดล้มเจ้าของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ถ้าอ่านดี ๆ ก็เหมือนงานเขียนของหงอกเจียมทั่วไปคือ ตัดแปะเรื่องโน้นเรื่องนี้ตามความเชื่อของตนเป็นพื้นฐาน

อย่างโพสของหงอกเจีบมอย่างที่ผมแปะลิงค์ด้านบนนั้น เนื้อหาไม่มีอะไรมาก หงอกเจียมพยายามจะหาเหตุผล และการอ้างว่าฟังมาอีกต่อ เพื่อปะติดปะต่อว่า ปรีดีคิดล้มเจ้า และปรีดีก็เป็นคอมมิวนิสต์ รวมถึงการอ้างเรื่องปรีดีลี้ภัยไปจีนแดง 

เอ่อ ตกลงไอ้พวกเห็บหมัดเกาะธรรมศาสตร์อย่างมึงและนิติราษฎร์ คิดจะเลิกชูปรีดีเป็นฮีโร่ประชาธิปไตยแล้วเหรอ ไอ้หงอก ??

ถ้าใครเคยอ่านเว็บไซต์ ปรีดี พูนศุข และเว็บไซต์สถาบันปรีดี ซึ่งเป็นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของปรีดี จะเห็นว่า ทุกเนื้อหาของทั้งสองเว็บไซต์ยืนยันว่า ปรีดีมีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ไทยเสมอมา

(ซึ่งผมแนะนำอยากให้คุณผู้อ่านไปอ่านที่ทั้งสองเว็บไซต์นี้ เพื่อศึกษางานของปรีดีโดยตรงจะดีกว่าฟังจากนักวิชาการเลว ๆ อย่างสมศักดิ์เจียม)

แต่เหตุเพราะการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองในยุคนั้น ที่ทำให้ปรีดีถูกใส่ร้ายในคดีรัชกาลที่ 8 รวมถึงใส่ร้ายว่าปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์

ทั้ง ๆ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองที่ปรีดีก่อตั้ง ก็ก่อตั้งเพื่อธรรมาธิปไตยนำประชาธิปไตย

แผนงานนโยบายและรากฐานการปกครองหลายอย่างที่ปรีดีวางโครงร่างและทำขึ้นในสมัยที่เขายังมีอำนาจ ก็ทำเพื่อวางรากฐานประชาธิปไตยไทยทั้งสิ้น

แม้ปรีดีจะลี้ภัยไปจีน ในพ.ศ. 2491 ก็ลี้ภัยไปในช่วงที่จีนยังเป็นประชาธิปไตย นำโดยพรรคก๊กมินตั๋ง

จนเมื่อจีนกลายเป็นคอมมิวนิสต์ในปีต่อมา ก็ไม่ได้แปลว่า ปรีดีต้องเป็นคอมมิวนิสต์ไปด้วย เพราะคนเป็นนักประชาธิปไตย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ยังมีหัวใจประชาธิปไตยเสมอ

ที่สำคัญคอมมิวนิสต์จีนแดง จะไม่ถูกกับคอมมิวนิสต์รัสเซียและคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งมีบทบาทมากในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)

เพราะที่สุดแล้วพรรคคอมมิวนิสค์ไทยต้องพังสลายลง ก็เพราะได้จีนแดงนี่แหละที่แอบช่วยเหลือไทย


ปรีดี กับประธานเหมา ใน พ.ศ. 2508

จำไว้นะครับ พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลไทยแบบลับๆ มาโดยตลอด ก่อนที่จีนแดงจะเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไทยในปี พ.ศ. 2518 ด้วยซ้ำ

เช่น ท่านโจวเอินไหล นายกรัฐมนตรีของจีนแดง เคยรับเด็กชายไทยและเด็กหญิงไทยเป็นบุตรบุญธรรม (รัฐบาลจอมพลป.แอบมีไมตรีกับจีนแดง) ซึ่งปัจจุบันก็คือ นายวรรณไว พัธโนทัย และ สิรินทร์ พัธโนทัย เพื่อแสดงความมิตรกับรัฐบาลไทยแบบลับ ๆ ในยุคที่สหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทมากในอินโดจีน

คลิกอ่าน วรรณไว พัธโนทัย เล่าความสัมพัมธ์ลับ ไทย จีน 

สังเกตไหมครับ ทุกวันนี้รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนยังให้ความเคารพราชวงศ์ไทยอย่างมาก



ปรีดี โจวเอินไหล

--------------------

แน่นอน เพราะปรีดีเรียนจบฝรั่งเศส ในเวลาต่อมาเขาก็ได้ขอลี้ภัยจากจีนแดงเพื่อไปอยู่ฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2513 จนกระทั่งเสียชีวิต

ซึ่งสำหรับปรีดีนั้น เชื่อว่าเขาคงนิยมประชาธิปไตยในแบบรัฐสวัสดิการกึ่งสังคมนิยม (แนวฝรั่งเศส) 

แต่ปรีดีเองก็ยังมีความรู้จริงในประวัติศาสตร์ไทยอย่างดีอีกด้วย จึงทำให้ปรีดี คือผู้ที่ชักนำให้คณะราษฎร์ยังคงรักษาไว้ซึ่งระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขสืบมาจนถึงปัจจุบัน

------------

เอาเป็นว่า บทความนี้ ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า ไอ้หงอกสมศักดิ์เจียมหรือไอ้คอมมิวนิสต์ตกยุค อกหักเพราะล้มเจ้าในยุค พคท. ไม่สำเร็จ ที่ตอนนี้มันพยายามทำเนียนแอบอ้างประชาธิปไตยบังหน้า มันกำลังพยายามดึงเอาปรีดีไปเป็นฝ่ายมันให้มากขึ้น

เหมือนที่ผมบอกในหลาย ๆ บทความว่า ทุกวันนี้พวกล้มเจ้าและคอมมิวนิสต์ตกยุคพยายามแอบอ้างประชาธิปไตย และดึงเอารัฐบุรุษปรีดีไปเป็นฝ่ายตน เพื่อหวังสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตนเองมากขึ้น

เพราะปรีดีคือผู้ถูกกระทำทางการเมือง พวกล้มเจ้ามันเลยพยายามจะยึดโยงอาศัยประโยชน์จากการดึงปรีดีเป็นพวก

ดังนั้นผมถึงย้ำในหลายที่เสมอว่า อย่าผลักท่านปรีดีไปเป็นพวกล้มเจ้าตามที่พวกล้มเจ้ามันต้องการ !!

สำหรับปรีดี พนมยงค์ ผมว่า เป็นปราชญ์และรู้จริงในระบอบการปกครองทุกแบบ คือ ท่านมีหัวใจประชาธิปไตยที่แท้จริง จึงไม่ได้รังเกียจระบอบใด ๆ เลย

เพราะผู้ที่เป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง จะใจกว้างและเข้าใจสถานการณ์ในแต่ละประเทศว่า แต่ละประเทศย่อมมีความเหมาะสมกับรูปแบบการปกครองที่แตกต่างกันไป 

ผู้ที่เป็นนักประชาธิปไตยจริง ๆ จะไม่รังเกียจคอมมิวนิสต์ที่แท้จริง ไม่รังเกียจสังคมนิยม รวมถึงไม่รังเกียจเผด็จการ (เหมือนอย่างเช่นที่ อาจารย์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ก็เคยทำงานให้จอมพลสฤษดิ์ มาก่อน)

ดังจะเห็นว่า แม้แต่ลุงโฮจิมินท์ ก็ยังมีมิตรภาพอันดีกับนายปรีดี เพราะนายปรีดีเคยให้ความช่วยเหลือเมื่อครั้งลุงโฮ หลบภัยมาพำนักในเมืองไทยช่วงหนึ่ง



http://imgur.com/YIAfj7f,3344zeP#1

คงมีแต่พวกล้มเจ้าและคอมมิวนิสต์ไทยตกยุคนั่นแหละ ที่ใจแคบ และปลิ้นปล้อนหลอกลวงแอบอ้างประชาธิปไตยบังหน้า เพื่อรับใช้นายทุนการเมือง และมหาอำนาจที่ไม่นิยมระบบกษัตริย์ไทย (เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขัดขวางผลประโยชน์ของนายทุนการเมืองและชาติมหาอำนาจเลวๆ ที่จ้องหากินในแผ่นดินไทย)

ถามว่า ทำไมพวกล้มเจ้าถึงแอบรับใช้พวกนายทุนการเมือง และมหาอำนาจบางชาติ?

คำตอบคือ พวกนายทุนการเมืองเวลามันโกงกิน ทำประเทศชาติตกต่ำ ทำประชาชนยากจน พวกนายทุนการเมืองมันก็จะใช้พวกล้มเจ้าให้คอยใส่ร้ายสถาบันกษัตริย์ไปทุกเรื่อง เพื่อเบี่ยงเบนความชั่วของนักการเมืองและนายทุนการเมือง เพื่อให้ประชาชนโง่ ๆ หลงผิด ให้คิดโทษไปที่สถาบันกษัตริย์แทน

อย่างเช่น สร้างวาทกรรมเรื่องอำมาตย์ สร้างวาทกรรมแบ่งชนชั้นเช่นไพร่แดง เป็นต้น

ถามว่า ทุกวันนี้สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล มันได้เงินจากไหนใช้สอยล่ะ ??


แนะนำอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

คลิกอ่าน สมศักดิ์เจียม โชว์โง่กฏหมาย กบฏ และรัฐประหาร

คลิกอ่าน คดีสวรรคตรัชกาลที่ 8 ในมุมมอง akecity

คลิกอ่าน ถ้าคณะราษฎรเลว ก็อย่าด่าแค่ปรีดีคนเดียว