วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

คดีสรยุทธกับความโง่ของคนมาตรฐานจริยธรรมต่ำ







หลังจากคดีไร่ส้มโกงค่าโฆษณา อสมท. และสรยุทธ ก็มีส่วนพัวพันในกรณีติดสินบนเจ้าหน้าที่ อสมท. ที่เอื้อผลประโยชน์ในทางที่ผิดให้นั้น

ซึ่งตอนนี้ศาลชั้นต้นก็ได้พิพากษาแล้วว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา มีความผิดจริง และได้รับโทษจำคุกถึง 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญานั้น

ก็เกิดกระแสสังคมตามมา ทั้งฝ่ายที่ต้องการให้สรยุทธหยุดทำหน้าที่พิธีกรเล่าข่าว และพืธีกรในรายการเจาะข่าวเด่น

แต่ก็มีคนอีกพวกที่กระโดดออกมาปกป้องสรยุทธ โดยอ้างว่า สรยุทธยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะคดียังไม่สิ้นสุด จึงไม่จำเป็นต้องหยุดดำเนินรายการ

ใครที่อ้างด้วยเหตุผลนี้เท่ากับ ไม่ได้รู้เรื่องกระบวนการยุติธรรมเลย

เพราะคำพิพากษาของศาลชั้นต้นถือว่ามีผลบังคับใช้แล้วและมีผลในทันที ซึ่งถ้าสรยุทธไม่ประกันตัวด้วยวงเงิน 2 ล้านบาทเพื่อออกไปสู้คดีต่อ ก็คือ ต้องติดคุก!!

จากคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในตอนนี้ต้องถือว่า สรยุทธมีความผิดจริง

ตราบใดที่สรยุทธยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองไม่ผิด จนศาลชั้นต่อไปเปลี่ยนคำพิพากษาใหม่

ณ เวลานี้ยังต้องถือว่า สรยุทธกระทำความผิดจริง!!

และถ้าเป็นคนในประเทศที่เจริญแล้วและมีมาตรฐานด้านจริยธรรมสูง คนที่เป็นบุคคลสาธารณะโดยเฉพาะเป็นสื่อสารมวลชน ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง

อย่างกรณีตัวอย่างที่ผมเคยยกตัวอย่างในบทความ 2 บทความ เช่น กรณีอดีตประธานสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิค ที่โดนศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกในข้อหาเลี่ยงภาษี เขาตัดสินใจรับโทษจำคุกทันทีโดยไม่ยื่นอุทธรณ์คดีอีก และลาออกจากประธานสโมสรบาเยิร์นมิวนิคทันที

นี่แหละครับ สปิริตและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมของคนในประเทศที่เจริญแล้ว

คลิกอ่าน สปิริตประธานสโมสรบาเยิร์นมิวนิค

หรืออีกกรณีคือ พิธีกรอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ คังโฮดง ถูกกรมสรรพากรปรับภาษีย้อนหลังโทษฐานหลีกเลี่ยงภาษี แม้จะไม่ถึงกับต้องคดีจนติดคุกก็ตาม แต่คังโฮดงก็สำนึกในความผิดตนเอง แล้วประกาศขอหยุดทำหน้าที่เป็นพิธีกรเอง เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีครึ่ง พร้อมก้มหัวขอโทษประชาชนทั้งประเทศ

หรือในประเทศญี่ปุ่น มีรัฐมนตรีหญิงของญี่ปุ่นในรัฐบาลของนายชินโสะ อาเบะ คือ นางยูโกะ โอบุชิ
และเป็นอดีตลูกสาวอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น นายเคโช โอยุชิด้วย  เธอถูกแจ้งข้อหาใช้เงินของพรรคไปซื้อเสียง แค่มีข้อกล่าวหาเท่านั้น เธอลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีเพื่อขอไปสู้คดีทันที

ที่ผมยกตัวอย่างมา นี่คือ มาตรฐานจริยธรรมของประเทศที่เจริญแล้ว

----------------------

มาตรการลงโทษทางสังคมควรน่ากลัวยิ่งกว่ากฎหมาย

ในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น มาตรการลงโทษทางสังคมเป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่ากฎหมายเสียอีก

เพราะหากใครทำผิดศีลธรรม จะอับอายไปถึงครอบครัวและวงศ์ตระกูลกันเลยทีเดียว หลายกรณีถึงขั้นต้องย้ายบ้านหนีกันเลย

แต่อีกหลายกรณี คนกระทำผิดก็ถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายเลยเพื่อแสดงให้เห็นว่า ตนเองได้สำนึกในความผิดนั้นแล้วจริง ๆ และได้กระทำการลงโทษตัวเอง ก็เพื่อให้สังคมให้อภัยและหายโกรธ และไม่ไปลงโทษกับครอบครัวของเขาอีก

ซึ่งวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของสองประเทศนี้มักจะเป็นแบบนี้ อย่างในกรณีประเทศเกาหลีใต้ ก็เช่น กรณีอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายโน มู-ฮย็อน ได้ฆ่าตัวตาย เพราะเหตุที่คนในครอบครัวของตนเข้าไปพัวพันข้อหาคอร์รัปชัน

ด้วยมาตรการลงโทษทางสังคมนี่แหละ ที่ทำให้คนญี่ปุ่นและคนเกาหลีใต้ ถึงไม่กล้าทำผิดศีลธรรม หรือละเมิดจริยธรรมกันง่าย ๆ เพราะเขากลัวมาตรการลงโทษทางสังคมยิ่งกว่าบทลงโทษทางกฎหมายเสียอีกครับ

ส่วนในกรณีคดีของสรยุทธเอง หลายคนเข้าใจประเด็นคลาดเคลื่อน เพราะที่มีคนเรียกร้องให้สรยุทธหยุดดำเนินรายการทางทีวีทางสื่อหลัก ย้ำ! ทีวีสื่อหลัก 

ไม่ใช่ห้ามสรยุทธประกอบอาชีพ แต่ขอแค่ให้เขาหยุดดำเนินรายการเล่าข่าว ในฐานะสื่อสารมวลชนเล่าข่าวหน้าจอทีวีเท่านั้น แต่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ก็ยังเป็นของสรยุทธอยู่ และยังทำรายการต่อไปได้

เพราะอาชีพสื่อเป็นอาชีพที่ต้องคอยตรวจสอบคนอื่นด้วยข่าว จึงต้องมีมาตรฐานด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงกว่าอาชีพทั่วไป เพราะสื่อมีหน้าที่ตรวจสอบการโกงของคนอื่น ๆ แต่สื่อกลับมาโกงเสียเอง แล้วประชาชนจะเชื่อถือสื่อได้อย่างไร

แล้วเมื่อไหร่ที่สรยุทธได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ตนเองไม่ผิด จนศาลชั้นต่อไปได้พิพากษาเปลี่ยนคำตัดสิน เขาก็กลับมาทำรายการต่อไปได้เหมือนเดิม และจะได้รับการยกย่องจากสังคมมากยิ่งขึ้นด้วยที่เขากล้าแสดงสปิริต

ตอนนี้ที่สังคมบางส่วนเรียกร้อง ก็เพราะอยากให้คนดังอย่างสรยุทธ ช่วยสร้างบรรทัดฐานที่ดีต่อสังคมและยกมาตรฐานของวิชาชีพสื่อไทยด้วย

แต่เผอิญมาตรฐานจริยธรรมของสังคมไทยกำลังตกต่ำ เพราะเมื่อยังมีคนมาตรฐานจริยธรรมต่ำออกมาสนับสนุนให้สรยุทธดำเนินรายการหน้าจอทีวีได้ต่อไป

ก็คงยากที่จะทำให้คนอย่างสรยุทธ ที่คงมีมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมต่ำเช่นกันจะยอมทำตามคำเรียกร้องของอีกฝ่าย

เมื่อวันก่อนผมฟังวิทยุ ได้มีคนส่ง คห. มาที่ 101 fm.

เขาใช้คำว่า "ความดีบังตา" หมายถึง คนชั่วที่อยากจะกอบโกยนานๆ ก็ต้องทำความดีบังหน้าไว้ด้วย เพื่อต่อไปความดีนั้นจะได้บังตาคน ไม่ให้เห็นกงจักรที่ซ่อนอยู่

ก็เหมือนคดีสรยุทธที่ยังมีคนปกป้องเขา



--------------------

กรณีหมอพรทิพย์ ประกาศไม่ออกรายการของสรยุทธ เพราะสรยุทธผิดจรรยาบรรณสื่อ

ก็มีหลายคนออกมาด่าคุณหญิงหมอว่า หมอเองก็ผิดพลาดในกรณีนายห้างทอง แล้วก็พาลด่าคุณหญิงหมอว่า ไม่สมควรออกมาแสดงความเห็นในกรณีสรยุทธนั้น

ผมว่า คนที่ด่าคุณหญิงหมอพรทิพย์กำลังแยกแยะประเด็นไม่ถูกนะ เพราะกรณีคุณหญิงหมอ คือ ความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ เพราะคนเราวินิจฉัยอาจผิดพลาดกันได้ ซึ่งนายนพดล ธรรมวัฒนะ ก็กำลังฟ้องร้องเพื่อให้คุณหญิงหมอชดใช้ค่าเสียหายอยู่

แต่กรณีสรยุทธคือ เจตนาโกงหรือคอร์รัปชันต่อหน่วยงานของรัฐ 

เพราะเรื่องการโกงและคอร์รัปชันต่อรัฐ เป็นการกระทำผิดด้านศีลธรรมและจริยธรรม ซึ่งสังคมไทยจะต้องแอนตี้ให้หนัก เพราะประเทศไทยไม่เจริญเหตุเพราะปัญหาคอร์รัปชันนี่แหละสำคัญที่สุด

-------

ส่วนตรรกะที่มีคนอ้างคดีสนธิลิ้มล้มละลาย ผมได้อธิบายไปแล้วว่า แตกต่างจากคดีสรยุทธไร่ส้มอย่างไร ในบทความเรื่อง ความแตกต่างคดีสนธิลิ้มล้มละลายกับคดีสรยุทธไร่ส้ม คลิกอ่าน 

แล้วสนธิ ถ้ายังจัดรายการทีวีอยู่รึเปล่า ก็แทบไม่มีใครรู้ ผมเองก็ไม่รู้เพราะไม่เคยสนใจดู แต่มันก็สถานีทีวีของสนธิลิ้มเอง ที่เช่าสัญญาณดาวเทียมของฮ่องกง ไม่ได้ใช้ช่องที่เป็นสัมปทานของรัฐ มันเป็นสถานีเฉพาะกลุ่มจริง ๆ ไม่ใช่สื่อหลัก !!

ส่วนคดีทางการเมืองของสนธิ ก็เหมือนคดีการเมืองของจตุพร พรหมพันธ์ นั่นแหละที่ว่า ทำไมถึงไม่มีใครห้ามสนธิลิ้มและจตุพรทำรายการทีวีต่อ คิดสิคิด !!

ดังนั้นถ้าใครอยากจะเรียกร้องให้สนธิหยุดจัดรายการทีวี (ยังมีอยู่รึเปล่าผมก็ไม่รู้) เชิญตามสบาย ผมไม่ห้ามเลย แต่ต้องเล่นจตุพรด้วยนะ

ฉะนั้น พวกที่เชียร์สรยุทธอย่าอ้างแค่ตรรกะตื้น ๆ ควรพิจารณาในรายละเอียดของกฎหมายในแต่ละคดีด้วย

ส่วนกรณี กนก ที่ฝ่ายเชียร์สรยุทธชอบยกมาอ้าง ผมเคยเขียนในเฟสไว้ตามนี้



-----------------------

สุดท้ายขอฝากถึงพลเอกประยุทธ

ขอฝากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สำหรับกรณีคดีสรยุทธ ไร่ส้ม ด้วยว่า

ลุงตู่ช่วยดูไอ้พวกหน่วยงานราชการ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่ยังเสร่อไปลงโฆษณากับรายการของสรยุทธอีก

คือ ถ้าบริษัทห้างร้านทั่วไปยังอยากจะลงโฆษณาต่อไป มันก็เรื่องของเขา
แต่กรณีหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเอง ถ้ายังไปลงโฆษณากับรายการของสรยุทธอีกก็บัดซบแล้วครับ เช่น การประปานครหลวง เป็นต้นที่ยังเสร่ออยู่

ผมว่า ลุงตู่ช่วยเรียกผู้บริหารหน่วยงานเหล่านี้มา(ตบกระบาลแล้ว)ปรับทัศนคติหน่อยก็ดี

คือสรยุทธ เขาโกง เขาคอร์รัปชันต่อหน่วยงานของรัฐนะครับ (ตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นซึ่งถือว่ามีผลแล้ว) แต่เสือกยังมีหน่วยงานของรัฐไปลงโฆษณากับเขาอีก

ผมว่า เรื่องนี้ถ้าลุงตู่ยังปล่อยไว้อีก ลุงตู่เองก็ไม่ได้เรื่องล่ะครับ

------------------

คำทื่อท้ายบทความ

ถ้าในสังคมมีคนโกงมาก ก็ย่อมมีพวกปกป้องคนโกงมาก
คนที่ปกป้องคนโกง ก็ย่อมมีสันดานโกงเช่นกัน / ใหม่เมืองเอก



อัพเดท​ข่าวล่าสุด

3 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 16.30 น.

สรยุทธได้ประกาศยุติบทบาทหน้าจอแล้วอย่างไม่มีกำหนดแล้ว

คือ ถ้าไม่ถูกกระแสสังคมกดดัน ก็คงยังจะทู่ซี๊ทำรายการหน้าจอต่อไป

ถ้าแสดงสปิริตหยุดทันที ตั้งแต่หลังคำพิพากษา คุณก็จะจากไปอย่างสง่างามกว่านี้นะ คุณสรยุทธ

แล้วเมื่อผมดูจากสกู๊ปข่าวไทยพีบีเอสเมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา ได้รายงานว่า สาเหตุหลักที่สรยุทธจำใจต้องหยุดจัดรายการ ก็เพราะบรรดาโฆษณาของหน่วยงานทั้งของรัฐและของเอกชนเริ่มไม่ต่อสัญญาโฆษณากับทั้งบริษัทไร่ส้มและช่อง 3

สกู๊ปข่าวไทยพีบีเอส กับเหตุผลที่สรยุทธประกาศหยุดจัดรายการ


สรุปก็คือ สรยุทธต้องจำใจหยุด หาได้มีสปิริตและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมไม่

คลิกอ่าน ถามหาจริยธรรมที่สูญเปล่าจากนายก่อศักดิ์ ซีพีออลล์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^