คิดตื้นไป ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่ ยิ่งขูดรีดคนจน !!

ขึ้นภาษีเหล้า บุหรี่ นี่คือวิธีคิดแบบง่ายๆ เด็กประถมก็คิดได้ว่า ของแพงทำให้คนซื้อน้อยลง?

แต่ความจริง ในช่วง10ปี ที่ผ่านมา รัฐเพิ่มการจัดเก็บภาษีเหล้า บุหรี่มาหลายครั้งแล้ว จากบุหรี่ไทยเมื่อ10ปีก่อน ซองละ 35 บาท ขึ้นพรวดเดียวเป็น55-60 บาทเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว จนมาวันนี้ก็ร่วมๆ 70บาทเข้าไปแล้ว

ถามว่าขึ้นมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อัตราคนสูบ ลดลงหรือไม่?

ราคาเหล้าขาวเมื่อ10ปีก่อน 50บาท ต่อมาขึ้นพรวดเดียวเกือบร้อยกว่าบาท ถามว่า 10ปีที่ผ่านมา คนไทยสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าลดลงบ้างมั้ย?

คำตอบคือ อัตราการบริโภคเหล้า บุหรี่ กลับไม่ลดลงเลย 

ผมไม่ได้คัดค้านการขึ้นราคาของพวกนี้ แต่มันคิดง่ายเกินไปสำหรับคนที่อาสามาบริหารประเทศครับ มันง่ายไปครับ คนจะมาเป็นรัฐบาลต้องคิดให้ลึกและรอบคอบกว่านี้

อย่างเช่น ยาบ้าจากเม็ดละ50บาท กลายมาเป็นเม็ดละ300บาท ถามว่า ยาเสพติดลงลดหรือไม่? จริงมะ ??

แน่จริง รัฐบาลปู ขึ้นราคาสินค้าพวกแบรนด์เนมให้100% เลย แล้วดูซิว่า พวกไฮโซอย่างปู อย่างอั้ม อย่างเอ ศุภชัย จะเลิกซื้อแอร์เมส มั้ย?

ที่ผ่านมา คนที่ติดเหล้าจริงๆ ส่วนใหญ่ก็คือคนจน และที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็ไม่เลิกเหล้า เลิกบุหรี่แม้จะขึ้นราคาไปมากแค่ไหนก็ตาม

แต่คนติดเหล้า จะไปเบียดเบียนลูกเมียมากขึ้นแทน แต่แทนที่จะขึ้นราคาแค่เหล้า บุหรี่ ซึ่งคนจนๆ ที่เขาไม่มีปัญญาแก้ไขทุกข์ เขาทุกข์เขาก็กินเหล้าเหมือนเดิม เหล้ายิ่งแพงก็ยิ่งทกข์ก็ยิ่งดื่มหนัก

บริษัทเบียร์เหล้า ไม่ได้ขายเหล้าลดลงแต่อย่างใด แต่กลับเพิ่มราคาขึ้นตามภาษีในแบบที่บริษัทเหล้าเบียร์กลับกำไรมากขึ้น !! นี่คือความจริง ที่หลายคนไม่รู้

นโยบายนี้จะทำร้ายครอบครัวคนจนมากกว่าครับ เพราะคนติดเหล้ามันจะเบียดเบียนครอบครัวเพิ่มขึ้น ซึ่งแทนที่รัฐจะเพิ่มภาษีของฟุ่มเฟือยบ้าง กลับไม่ไปเพิ่มก่อน

เพราะคนรวยที่ติดแบรนด์เนม ยังไงเขาก็ไม่เดือดร้อน ต่อให้กระเป๋าแอร์เมสใบละ 20 ล้าน ผมเชื่อเหลือเกินว่า เศรษฐีบ้าแบรนด์เนมก็ต้องซื้อของพวกนี้อยู่ดี

และจริงๆ แล้วคนรวยนี่แหล่ะ ถ้าจะเลิกได้ คนรวยจะคิดเลิกบ้าแบรนด์เนมได้ก่อนคนจนเลิกเหล้าครับ

เคยมีคนท้ารัฐว่า แน่จริงรัฐเลิกขายเหล้า บุหรี่ หรือห้ามขายเหล้า บุหรี่ ไปเลย

ผมอธิบายว่า เลิกขายหรือห้ามขายไม่ได้ครับ เพราะปัญหาจะหนักกว่าเดิม คือจะเป็นเหมือนยาบ้าเลย คือกลายเป็นธุรกิจใต้ดิน ซึ่งจะยิ่งอันตรายเพิ่มขึ้นครับ

ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อสักเกือบ 80 -90 ปีที่แล้ว เคยมีนโยบายห้ามขายเหล้า เหล้ากลายเป็นของผิดกฎหมาย เหล้ากลายเป็นธุรกิจใต้ดินจริง ๆ คือ พวกมาเฟียมีการทำชั้นใต้ดินทั่วเมืองเพื่อขายเหล้าโดยเฉพาะ นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า ธุรกิจใต้ดิน ครับ

ซึ่งยิ่งสร้างกำไรและความร่ำรวยให้พวกมาเฟียเพิ่มขึ้น โดยตำรวจก็กินส่วยจากพวกมาเฟียอีกต่อ คนจนเลยต้องซื้อเหล้าแพงกว่าเดิมหนักยิ่งขึ้น

คลิกที่รูปเพื่ออ่านเรื่องกฎหมายห้ามขายเหล้าในสหรัฐฯ



คงเพราะรัฐบาลคิดว่า ถึงยังไงก็รัฐก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากอบายมุขพวกนี้ปีละ 10,000 ล้านบาท

แน่นอน ในช่วงแรกอาจมีการบริโภคบุหรี่ เหล้า ลดลง แต่นั่นก็จะเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ธุรกิจบาร์ ผับ ในไทย มีมากมายก่ายกองและไม่เคยลดลง

นั่นเพราะรัฐเอาเงินไปถลุงกับประชานิยม ก็เลยต้องหาทางกู้ หาทางขูดรีดทางอื่น ๆ เพิ่มขึ้น

แต่ที่แน่ ๆ รัฐบาลนี้ มันจะไม่ขูดรีดอะไรที่กระทบกลุ่มธุรกิจของตัวเอง จริงมะ?




--------------------------

คนไทยดื่มเหล้ามากที่สุดอันดับ5 ของโลก

คนไทยมี65 ล้านคน สถิตินี้ผ่านมาหลายปี และไม่เคยลดลง นั่นเพราะนโยบายของทุกรัฐบาลไทยมันล้มเหลวมาตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน เช่น ทั้งครอบครัว การศึกษา และสังคม

ผู้คนมุ่งแค่หาเงินเป็นหลัก เพราะเงินคือปัจจัยสำคัญที่สุดในยุคนี้ไปแล้ว หลายคนล้มเหลวจากการหาเงินก็เครียด ยิ่งจน ยิ่งเครียด ยิ่งดื่ม พ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมเลี้ยงลูก เพราะต้องเสียเวลาไปกับการหาเงิน

โดยเฉพาะ การศึกษาไทยไม่สามารถช่วยให้เด็กไทย เยาวชนไทยจำนวนมาก โตขึ้นมาเลิกสนใจบุหรี่และเหล้าได้ ขนาดนักศึกษาไทยยังดื่มเหล้ากันเยอะมาก จริงหรือไม่?


---------------------

นโยบายคนจนหมดไป เริ่มขึ้นแล้ว

เพราะนักการเมืองที่เอื้อประโยชน์นายทุน เขารู้ว่า ยังไงๆ คนจนก็ไม่เลิกกินเหล้าง่ายๆ  ต้องรัฐได้เงินภาษีบาปเพิ่มขึ้นแน่ ๆ ครับ

นโยบายคนจนหมดไปเริ่มแล้ว คือพ่อตับแข็งตาย ลูกเมียอดตาย

มหาเศรษฐีของไทย ก็รวยจากธุรกิจน้ำเมาหลายตระกูล ถามว่า เศรษฐีเหล่านี้เคยจนลงมั้ย ?

ตอนนี้ข่าวแจ้งว่า ตะเข็บชายแดนเริ่มคึกคึก เพราะกองทัพมดนำสินค้าหนีภาษีเข้าประเทศชอบใจนโยบายนี้มาก

------------------------

เก็บจากข่าวเก่า 

27 ก.ค. 55 ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า

“หากดูจากข้อมูลศูนย์วิจัยปัญหาสุราประมาณการได้ว่า ประชากรไทยอายุ 15-59 ปี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 17 ล้านคน ในจำนวนนี้มีปัญหาการติดสุราถึง 3 ล้านคน และยังติดอันดับต้นๆ ที่ประชาชนในประเทศดื่มแอลกอฮอล์ของเอเชีย

ที่สำคัญกว่า คือ เยาวชนกำลังกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ปีละกว่า 250,000 คน และอายุต่ำลงเรื่อยๆ สร้างปัญหากับสังคม ทั้งอุบัติเหตุ อาชญากรรม ตังครรภ์ก่อนวัยอันควร ติดเชื้อเอดส์ ฯลฯ ขณะที่คนไทยต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละ 2 แสนล้านบาท ในขณะที่บริษัทน้ำเมาก็ท้าทายและทำทุกวิถีทางเพื่อเลี่ยงกฎหมายในการทำการตลาด”


20 เม.ษ. 55 นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า

"สถานการณ์การดื่มเหล้าของคนไทยขณะนี้น่าห่วงมาก สถิติเพิ่มขึ้น 30 เท่าตัวในรอบ 40 ปี ในปี 2550 มีผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายเหล้าทั่วประเทศกว่า 530,000 ร้าน เฉลี่ย 1 ร้านเหล้าต่อประชากร 120 คน "

-------------------------

ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่มากขึ้น นึกว่าจะเอาไปเพิ่มค่ารักษาพยาบาลคนไทยต่อหัวเพิ่มขึ้น แต่เปล่าเลย

รัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับตัดงบหลักประกันสุขภาพของคนไทยต่อหัวให้ลดลง


คลิกอ่าน นโยบายยิ่งลักษณ์ เอื้อคนรวย ซ้ำเติมคนจน