อ่านข่าวก่อนนะ
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทหาร ทภ.2 ปล่อยตัว “สุภรณ์” แรมโบ้อีสานแล้ว หลังถูกคุมตัวนาน 6 วัน เจ้าตัวประกาศยุติบทบาททางการเมืองโดยสิ้นเชิงและ ลาออกจากพรรค พท.พร้อมยุบ อพปช. ห้ามนำไปแอบอ้าง วอนทุกคนเลิกเคลื่อนไหว หยุดใช้กองกำลัง และความรุนแรง หันหน้ามาร่วมมือ จนท .เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ ( 29 พ.ค.) ที่บริเวณประตูทางเข้าหน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 ได้ปล่อยตัว นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง และประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) หลังถูกควบคุมตัวอยู่ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งนานรวม 6 วัน
โดยมี นางสุ้น อัตถาวงศ์ อายุ 82 ปี มารดา พร้อมด้วย นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ พี่ชายและญาติพี่น้องของนายสุภรณ์ มารอรับกลับบ้านที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เมื่อเจอหน้ามารดา นายสุภรณ์ ได้ก้มลงกราบเท้าพร้อมโผเข้ากอดและหอมแก้มด้วยความคิดถึง พร้อมมีน้ำตาคลอเบ้าพูดเสียงสั่นเครือ
นายสุภรณ์ กล่าวว่า "ดีใจมากที่ถูกปล่อยตัว ทั้งนี้เมื่อบ้านเมืองเกิดวิกฤตอะไรที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้เราต้องให้ความร่วมมือ และสิ่งใดที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทำให้สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นเราควรจะหยุด ไม่ควรคิดที่จะไปทำให้คนไทยมาห้ำหั่นหรือปะทะกันเอง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ดี มาถึงวันนี้เมื่อได้คิดไตร่ตรองดีแล้วจึงตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นประธาน อพปช.และยุบ อพปช.ไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมขอวิงวอนให้พี่น้องสมาชิก อพปช.ได้ให้ความร่วมมือในการทำให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปด้วยดีและให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการที่จะเข้าไปสู่ขบวนการที่จะได้มีการเลือกตั้งต่อไปในอนาคต สำคัญที่สุดคืออย่าใช้ความรุนแรง หากใครเอาชื่อตนและ อพปช.ไปอ้างเพื่อสร้างความรุนแรง ถือว่า เป็นความผิดส่วนตัว"
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า "จากวันนี้ไปจะขอยุติบทบาททางการเมืองและจะเอาเวลาที่เหลือมาดูแลครอบครัว ดูแลแม่อายุ 82 ปี ขอทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี เป็นพ่อที่ดีให้กับลูกกับครอบครัว และจะทำหน้าที่ในการเป็นสามัญชนคนธรรมดาทำมาหากินตามปกติ โดยไม่คิดก้าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองอีกต่อไป และจะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.)ด้วย
จากประสบการณ์ทางการเมือง กว่า 30 ปีที่ผ่านมาตนเห็นการเมืองไม่ได้เกิดความสามัคคีปรองดองกัน หากการเล่นการเมืองจะต้องเข้าไปขัดแย้ง สร้างความแตกแยกต่างฝ่ายต่างไม่มีข้อยุติและเกิดปัญหาวุ่นวายในบ้านเมือง ตนคิดว่าหยุดเล่นดีกว่า เล่นไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นี่คือข้อเท็จจริง และ พรุ่งนี้(30 พ.ค.) จะไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) ใน 10.00 น. เพื่อประกาศต่อหน้าย่าโมในการขอยุติบทบาททางการเมือง"
"ฉะนั้นจึงขอบอกกล่าวไปถึงพี่น้องประชาชนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่หรือมีกองกำลังอะไรก็ตาม ขอให้ยุติการเคลื่อนไหว ยุติการใช้กองกำลัง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ขอให้ทุกคนเสียสละ ออกมาช่วยกันทำให้บรรยากาศในบ้านเมืองเดินไปได้ด้วยการให้มีการเลือกตั้งเร็วที่สุด” นายสุภรณ์ กล่าว
http://astv.mobi/A2fZvYO
--------------------------
เหตุผลเบื้องลึกที่ แรมโบ้อีสาน ประกาศเลิกเล่นการเมือง
เรื่องนี้ง่ายมากครับ ถ้าจำกันได้ หม่อมอุ๋ย ปรีดายาธร ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ คสช. เคยพูดไว้ในรายการ คิดยกกำลังสอง ก่อนการรัฐประหารไว้ว่า เป็นห่วงเรื่องการจัดตั้งกองกำลังฝึกอาวุธของเสื้อแดง หม่อมอุ๋ยถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและรุนแรงที่สุด เพราะการที่คนระดับรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปจัดตั้งกองกำลังฝึกอาวุธนับพันคน โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตฝ่ายกองทัพซึ่งดูแลด้านความมั่นคงโดยตรงก่อน ถือว่า นี่คือเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบแห่งชาติ
***
ซึ่งความผิดเรื่องการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธโดไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีโทษรุนแรงพอควร ประกอบกับมีกระแสขอแบ่งประเทศ เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องที่อันตรายต่อความมั่นคงของชาติอย่างมาก ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 114
มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
ซึ่ง คสช. ได้ประกาศไว้แล้วว่า ความผิดอาญาตามมาตรา 114 นี้ ต้องไปขึ้นศาลทหารเท่านั้น ซึ่งศาลทหารในภาวะประกาศกฎอัยการศึก หรือที่เรียกว่า ศาลทหารในภาวะไม่ปกติ จะไม่มีการอุทธรณ์ และฎีกา
ถ้าศาลทหารตัดสินอย่างไร ก็โดนโทษแบบนั้นทันที!!
แถมศาลทหาร ไม่มีการประกันตัวออกไปสู้คดีด้วย ก็เพราะเป็นศาลชั้นเดียว ตัดสินปุ๊บ คดีปิดเลย
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ก็คงกลัวเจอโทษตามความผิดอาญามาตรา 114 นั่นแหละ ติดคุกหัวโตเอาง่าย ๆ แถมพวกพรรคเพื่อไทยแต่ละตัวก็ชิ่งหนีเอาตัวรอดกันหมด ใครจะมาช่วย
ทหารก็คงกันตัวแรมโบ้อีสานไว้เป็นพยานปากสำคัญ จนนำไปสู่การจับคุม กลุ่ม อพปช. ที่ขอนแก่น ที่กำลังวางแผนก่อการร้ายตามแผนขอนแก่นโมเดล นั่นแหละ
แรมโบ้อีสาน คงรีบสารภาพนหมดเปลือก เพื่อเอาตัวรอด แลกกับอิสรภาพ
และทหารมีการข้อเสนอแลกกับอิสรภาพว่า เพื่อความปรองดองและความสงบในชาติ ถ้าแรมโบ้อีสานไม่อยากติดคุกทหารตัวโต จากข้อหาในความผิดตามอาญามาตรา114 ก็ควรเลิกเล่นการเมือง และเลิกยุ่งกับกลุ่มเสื้อแดงซะ
แรมโบ้อีสานตอนนี้ใจเหลือเท่ามด ไม่ว่าทหารเสนอทางเลือกอะไรที่จะให้รอด ก็คงคว้าหมดแหละครับ
ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมแรมโบ้อีสาน ผู้จัดตั้งกองกำลังอาสาปกป้องประชาธิปไตย ถึงได้ถอดใจง่าย ๆ แบบนี้
เรื่องก็มีเช่นนี้แล 555555555
-----------------------
ล่าสุด แรมโบ้อีสาน ได้ไปสาบานต่อหน้าย่าโมแล้วว่า จะไม่เล่นการเมืองอีก