วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รัฐประหาร = ข่มขืน จริงหรือ ?







ตรรกะของนักวิชาการและอาจารย์มหาลัย เลว ๆ คนนึง ซึ่งผมไม่อยากเอ่ยชื่อมันให้เป็นเสนียดปาก เพราะไอ้นักวิชาการคนนี้มันพวกสายล้มเจ้า

ไอ้นักวิชาการสันดานเลวคนนี้ มันบอกว่า รัฐประหาร = ข่มขืน แล้วทำไมไม่มีคนไทยออกมารู้สึกเดือดร้อนเหมือนที่ไอ้เกมไอ้หื่นที่ข่มขืนเด็กอายุ 13 บนรถไฟ

---------------

รัฐประหาร = ข่มขืน จริงหรือ ?

ก่อนอื่นต้องบอกไม่มีระบอบใด ๆ ที่ไม่มีข้อเสีย คนที่ชอบระบอบไหน ก็จะบอกว่า ระบอบที่ตนเองชอบนั้นดีที่สุด มีข้อเสียน้อยที่สุด

แต่ทุกระบอบจะดีได้ ก็ต้องได้คนที่นำไปใช้มีธรรมาภิบาลในการปกครองด้วย ฉะนั้นระบอบจึงไม่สำคัญเท่ากับคน

เปรียบเสมือน เรามีเครื่องดนตรีอย่างดี แต่ถ้าได้คนเล่นดนตรีไม่เก่งมาเล่น เครื่องดนตรีที่ดีก็ไม่สามารถสร้างความไพเราะได้สมกับการเป็นเครื่องดนตรีชั้นดีได้

เฉกเช่น ถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แล้วอาศัยเสียงข้างมากในสภาออกกฎหมายเลว ๆ รัฐบาลนั้นมันก็เลว

ถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง โกงกิน เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวพวกพ้องมากกว่าทำเพื่อประชาชน รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งมันก็เหี้ยได้เช่นกัน

กลับมาที่คำว่า รัฐประหาร = ข่มขืน ?

ถ้าการรัฐประหารใดไปกระทำการล้มรัฐบาลที่ดี รัฐบาลที่มีธรรมาภิบา่ลในการปกครองประเทศ รัฐบาลที่ไม่โกงกิน รัฐบาลที่ไม่ส่งเสริมความรุนแรง ให้ล้มลงไป

ถ้ามีรัฐบาลที่ดีแบบนั้น ก็มองได้ว่า รัฐประหารนั้นๆ กำลังกระทำการข่มขืนใจประชาชนได้

แต่ถ้ารัฐประหารนั้น เข้ามาเพื่อปราบรัฐบาลที่เป็นรัฐบาลมิจฉาทิฐิ กระทำการปล่อยปละละเลยให้มีคนเลวจาบจ้วงเบื้องสูง รัฐบาลที่ส่งเสริมความถ่อยให้เกิดขึ้นในประชาชน รัฐบาลที่ชอบใช้อบายมุขมอมเมาประชาชน รัฐบาลที่โกงชาติทำความเสียหายให้แก่ชาติหลายแสนล้าน รัฐบาลที่หนุนหลังพวกโจรก่อการร้ายใช้อาวุธมาสังหารผู้บริสุทธิ์อย่างเลิอดเย็นได้ รัฐบาลที่ไม่คิดจะเอาผิดกลุ่มคนที่คิดแบ่งแยกแผ่นดินให้แตกแยก รัฐบาลที่กำลังนำพาให้ประชาชนก่อสงครามกลางเมือง

การรัฐประหารที่เข้ามาล้มรัฐบาลเลว ๆ แบบนั้น ก็ต้องถือว่าเป็น พระเอกขี่ม้าขาว ที่มาช่วยคืนความสงบให้ประเทศ


ส่วนไอ้นักวิชาการเลว ๆ ตัวนั้น มันมีความคิดอยากเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นสาธารณรัฐมานานแล้ว มันจึงไม่สนใจที่จะเอาผิดพวกนักการเมืองเหี้ย ๆ ที่มาจากการเลือกตั้ง

เพราะเจตนาสูงสุดของมัน คือ ต้องการให้นักการเมืองเหี้ย ๆ ครองอำนาจเพื่อทำให้คนไทยเกิดวามแตกแยกมากขึ้น เพื่อให้พวกล้มเจ้ามีกำลังแข็งแกร่งมากขึ้นในการเกาะอาศัยฐานเสียงของนักการเมืองเหี้ย ๆ เพื่อเป้าหมายล้มสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทย


ถ้ารัฐประหาร คสช. คือการข่มขืน ก็เป็นการข่มขืนใจไอ้พวกเหี้ย ข่มขืนใจไอ้พวกล้มเจ้า ข่มขืนใจไอ้พวกคิดชั่วหนักแผ่นดินเท่านั้น

คนเราอย่ามองอะไรแค่ผิวเผิน ไม่งั้นจะตกเป็นเหยื่อไอ้พวกนักวิชาการชั่ว ๆ ได้โดยง่าย

ถ้าดูเฉพาะผลงานที่ผ่านมาของ คสช. ก็ยังถือว่า สอบผ่าน บ้านเมืองดีขึ้นเยอะ

แต่ก็นั่นแหละ เมื่อขึ้นชื่อว่ารัฐประหาร ก็ต้องดูกันยาว ๆ

ผมเองก็ยังไม่ขอไว้ใจ คสช. ไปทั้งหมดหรอก เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา รัฐประหารในไทยแทบหาดีไม่ได้เลย ส่วนดีมีน้อยมาก

แต่ที่แน่ ๆ คสช. ก็ได้หยุดพวกก่อการร้ายกลางเมือง หยุดสงครามกลางเมือง และยึดอาวุธสงครามได้มากมาย

ลองคิดดู ถ้าไม่มี คสช. ผมว่าป่านนี้บ้านเมืองเราเละกว่านี้ คนตายมากกว่านี้ อาจพังมากกว่านี้จนยากที่จะเยียวยาไปแล้ว

ไม่มีระบอบใด ๆ ในโลกนี้จะดีได้ หากผู้ใช้ระบอบนั้นๆ มันเลว ไร้ธรรมาภิบาล

อย่าหลงเชื่อ นักวิชาการเหี้ย ๆ คนนั้น เพราะตัวมันมีแนวคิดสังคมนิยมจากที่ผมศึกษาความคิดมันมา แต่มันชอบแอบอ้างประชาธิปไตยบังหน้า เพราะมันรู้ดีว่าคนไทยจำนวนมากยังไม่รู้จักประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร

ผมอยากเตือนสติคนไทยทุกคนว่า อย่าไปหลงกับคำว่าประชาธิปไตย หรือการเลือกตั้ง มากจนเกินไป เพราะถ้าคุณยึดติด คุณจะไม่มีทางหลุดจากกรอบความคิดเดิม ๆ ในการรู้ทันความชั่วของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งได้เลย

เชื่อผม !!

-------------

รัฐประหารของ คสช. หมายถึง ประหารรัฐบาลชั่วโคตรโกง

แต่ถ้ารัฐประหาร ชั่วเสียเอง ก็หมายถึง เลวเสียยิ่งกว่าเลว

การที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งมันชั่ว ก็คือ ประชาชนถูกข่มขืนโดยญาติสนิทของตัวเอง 

แต่ถ้าคณะรัฐประหารทำชั่ว ก็คือ ประชาชนโดนข่มขืนโดยคนที่ไม่รู้จัก

ถามว่า การข่มขืนแบบไหนจะเจ็บปวดกว่ากัน ?? 



คลิกอ่าน ความโง่ของพวกล้มเจ้า เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^