เป็นข่าวดังแบบไม่ซีเรียส แต่คนแถลงค่อนข้างซีเรียสนิดหน่อย เมื่อนายกฯ ประยุทธ์ ปะทะคารมกับมนุษย์ป้ายุวดี เจ้าแม่นักข่าวประจำทำเนียบอีกครั้ง
ซึ่งบทความก่อนผมเคยเขียนไปแล้วว่า นางยุวดี นักข่าวบางกอกโพสต์ เงียบเป็นเป่าสากในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะอะไร
คลิกอ่าน บิ๊กตู่ ปะทะ มนุษย์ป้ายุวดี นักข่าวปากมากแต่อมสากยุคยิ่งลักษณ์
นี่ล่าสุด มนุษย์ป้ายุวดี ก็อาศัยที่เป็นผู้อาวุโสกว่า ซักถามนายกฯ ประยุทธ์ให้เกิดอารมณ์เสียขึ้นอีกครั้ง ซึ่งภายหลังก่อนจบการแถลง นายกฯก็ยกมือไหว้ขอโทษมนุษย์ป้ายุวดีไป
ประเด็นนายกฯประยุทธ์ ปะทะคารมกับมนุษย์ป้ายุวดี ผมเห็นว่า เป็นธรรมดา ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่
เพราะตอนนี้ไม่ใช่ยุคตอแหลประชาธิปไตย ที่นายกฯ เอาแต่อ่านโพย แล้วนักข่าวก็ห้ามถามเกินกว่าที่เตี๊ยมกันไว้ก่อนในยุครัฐบาลที่แล้ว เพราะถ้าถามอะไรที่เกินกว่าที่สมองนายกฯ ตอบได้ นายกฯจะรีบชิ่งทันที
แน่นอน คนที่เกลียด คสช. ก็ย่อมมีเรื่องให้ด่านายกฯประยุทธ์ เป็นธรรมดา อันนี้ผมว่า แฟร์ ๆ ทุกคนมีสิทธิเลือกที่รักมักที่ชัง มีสิทธิจะด่า
แต่เราต้องไม่ลืมว่า ท่านประยุทธ์ เคยเป็นนายทหารใหญ่ ยังติดนิสัยการออกคำสั่งกับลูกน้องฝ่ายเดียว ท่านยังไม่ชินกับการตอบโต้กับสื่อเท่ากับพวกนักการเมืองอาชีพ ดังนั้น ท่านจึงต้องบอกตัวเองเสมอว่า ท่านต้องฝึกตัวเอง ต้องระงับอารมณ์
ทีนี้ลองวางอคติแล้วลองพิจารณาสิ่งที่ท่านประยุทธ์ ต้องการสื่อในวันนี้
เช่นในนาทีที่ 2.07 ท่านประยุทธ์พูดว่า
"...วาระนี้ไม่ใช่วาระปกติ เป็นวาระที่ยึดอำนาจมา ไม่มีใครอยากมาทำงานกับผม ผมบอกท่านเลย ไม่มีหรอก ตราบใดถ้าเวลาปรกติ กับเวลาที่มันเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ !!
คนที่เป็นรัฐมนตรีเขายังไม่อยากมากับผมเลย เพราะผมยึดอำนาจเขามา เข้าใจรึเปล่า แล้วก็เป็นปีเดียว เขาก็บอกปีเดียว เขาก็ต้องทิ้งตรงโน้นตรงนี้มา...ขอทำงานข้างนอกดีกว่า"
เห็นไหมครับ ท่านประยุทธ์ ท่านเองก็ตระหนักเสมอว่า ท่านไม่ได้มาอย่างสง่างาม ท่านมาเพราะยึดอำนาจเข้ามา
ท่านประยุทธ์ไปเชิญคนมาทำงาน ไปเชิญคนมาเป็นรัฐมนตรี ก็มีแต่คนปฏิเสธท่านว่าไม่อยากมา บอกว่า ขอทำงานข้างนอกดีกว่า
ซึ่งผมเชื่อว่า คงมีคนหลายคนปฏิเสธไม่มาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ แต่ไม่ได้เป็นข่าวให้พวกเรารู้
ผมถามคุณผู้อ่านว่า ถ้าคุณไปขอร้องใครให้มาช่วย แล้วโดนเขาตอบปฏิเสธมาหลาย ๆ คน คุณผู้อ่านจะรู้สึกอย่างไร ?
นี่แหละครับ ปัญหาที่หนักใจของท่านประยุทธ์ เพราะท่านก็รู้ว่า การเข้ามาแบบนี้ก็ย่อมมีคนด่า แต่ถ้าไม่เข้ามา ประเทศก็อาจจะถึงวิกฤติฆ่ากันจนเป็นสงครามกลางเมือง
ท่านจึงจำเป็นต้องยึดอำนาจ ท่านต้องการให้ประเทศสงบสุบ หยุดฆ่ากัน เลยต้องเข้ามา เข้ามาก็มีแต่คนด่า ไม่มีใครอยากเข้ามาหรอก
ท่านประยุทธ์ ถึงได้ย้อนถามนักข่าวทำนองว่า "ใครทำได้ก็เข้ามา"
นี่แหละการขึ้นมาแบกรับปัญหาของประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างรุนแรงของประเทศ ผมเชื่อว่า ใจจริงท่านประยุทธ์ไม่ได้อยากเข้ามายึดอำนาจหรอก
เพราะการยึดอำนาจเข้ามา คือต้องมีคนเกลียดแน่นอน โดยเฉพาะพวกคลั่งประชาธิปไตยมากกว่ารักชาติบ้านเมือง
สำหรับผม ถือเห็นว่า ท่านประยุทธ์ ไม่ได้เข้ามาเพื่ออำนาจตัวเอง แต่ท่านเข้ามาเพราะยอมเสียสละต่างหาก ที่ต้องเข้ามาให้คนโง่ ๆ คลั่งประชาธิปไตยแบบควาย ๆ มันด่าท่าน
--------------
ก่อนจบบทความ ผมอยากจะบอกคุณผู้อ่านที่รักประชาธิปไตยทั้งหลายว่า
ตอนนี้ไม่ใช่บ้านเมืองในภาวะปรกติ แต่เป็นภาวะเผด็จการ มันจะให้ไปเหมือนยุคประชาธิปไตยเบ่งบานย่อมเป็นไปไม่ได้ เราต้องเข้าใจเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
ในเมื่อประชาธิปไตยมันมาถึงทางตัน ตามที่พวกเราก็รู้กันดีว่าเพราะอะไร จนต้องมาเป็นเผด็จการในวันนี้
ขอให้เราดูประเทศอียิปต์เป็นตัวอย่าง ที่เขาผ่านช่วงสงครามกลางเมืองมาได้อย่างไร จนวันนี้อียิปต์ก็มีการเลือกตั้งตามวิถีประชาธิปไตยที่ถูกต้องไปแล้ว
แต่สถานการณ์ประเทศไทยเราดีกว่าอียิปต์เยอะ เพราะที่อียิปต์เขาฆ่ากันตายนับพันคน และเกิดสงครามกลางเมืองหลายครั้ง จนการท่องเที่ยวอียิปต์แทบพัง จนเป็นข่าวดังมากเมื่อปีที่แล้วคงจำกันได้ ถึงขนาดนักศึกษาไทยต้องอพยพหนีออกจากอียิปต์
แต่อียิปต์เขาก็ผ่านมาได้ เพราะคนอียิปต์ยอมให้มีรัฐบาลเผด็จการชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในประเทศ
จำไว้ ประชาธิปไตย มันไม่สำคัญเท่าประเทศชาติหรอกครับ
คำทื่อ
"รัฐบาลเผด็จการมันไม่ดีหรอก ไม่มีใครชอบ กูก็ไม่ชอบ แต่ก็ต้องทน เพราะรัฐบาลประชาธิปไตยของพวกมึงเสือกเหี้ยเอง"
555/@akecity
คลิกอ่าน เมื่อมนุษย์ป้า ยุวดี ธัญญศิริ เผยสันดานธาตุแท้แดงแจ๋
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^