เห็นมีหลายประเทศออกมาประกาศอยากจะรับชาวโรฮิงญาอพยพไปอยู่ด้วย เพราะเห็นใจและด้วยหลักมนุษยธรรม
ซึ่งถ้าประเทศไหนใครอยากเลี้ยงดูโรฮิงญาไว้ ผมก็ขอยินดีด้วย
อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ บอกว่า สามารถรับได้ประมาณ 3 พันคน ในขณะที่เอกวาดอร์ บอกว่า พร้อมจะรับชาวโรฮิงญา แต่ยังไม่ได้บอกว่า จะรับจำนวนเท่าไหร่
โดยประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ราฟาเอล คอร์เรอา ได้ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า
"โลกนี้ฟั่นเฟือน มันแสดงความเพิกเฉยต่อชีวิตมนุษย์ที่ต้องลอยลำอยู่ในเรือ และกำลังจะตายเพราะความหิวโหย โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จอดเรือ" ประธานาธิบดีเอกวาดอร์กล่าวในรายการแถลงประจำสัปดาห์ เขากล่าวด้วยว่า "หากปัญหานี้ยังดำเนินต่อไป เราจะให้ความสนับสนุนทุกอย่างทั้งเสบียงอาหาร รวมทั้งประชาคมแห่งรัฐละติมอเมริกาและแคริบเบียน (CELAC) จะต้อนรับผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ด้วย เพื่อทำให้โศกนาฏกรรมที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้รับการบรรเทา"
และล่าสุด ประเทศยากจนในอาฟริกาตะวันตก อย่างประเทศแกมเบีย ได้ประกาศว่า พร้อมรับชาวโรฮิงญามาอยู่ที่แกมเบียแบบไม่จำกัดจำนวน คือ รับหมด
โดยรัฐบาลแกมเบีย บอกว่า นี่ถือเป็นหน้าที่ ๆ ของทุกคนที่ต้องช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมด้วยกัน
ซึ่งข้อมูลคร่าว ๆ ของแกมเบีย คือ เป็นประเทศที่เล็กในสุดในทวีปอาฟริกา โดยประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 90 นับถือศาสนาอิสลาม และประชากรส่วนใหญ่มีฐานะยากจน
แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะเป็นประเทศยากจน แต่กลับเป็นประเทศในอาฟริกาประเทศแรกที่ประกาศจะรับชาวโรฮิงญาไปอยู่ด้วย
คือ ผมมองว่า แกมเบียแม้จะใจกว้าง แต่สุดท้ายก็คือ แกมเบียก็ต้องขอเงินอุดหนุนจาก UNHCR แน่นอน เพราะลำพังฐานะของประเทศก็คงรับเลี้ยงโรฮิงญาไม่ไหวหรอก
ยิ่งถ้าโรฮิงญาเกิดอพยพมาเป็นพันเป็นหมื่นคน ถ้าค่าอาหารตกมื้อละ 2.5 ดอลล่าร์ คงเป็นรายจ่ายต่อวันที่ไม่น้อยเลย แล้วถ้าประเทศแกมเบียเกิดมีนักการเมืองโกงกินล่ะก็ ซวยครับ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ ถึงแกมเบียอยากจะรับ แต่
ที่จริงยุโรปกำลังเจอปัญหาผู้อพยพจากอาฟริกาอพยพมายุโรป
ก็ในเมื่อคนอาฟริกาอพยพไปยุโรป ก็น่าจะดีถ้าจะให้พวกโรฮิงญามาอยู่อาฟริกาแทน
แล้วถ้าสมมุติว่า โรฮิงญาเกิดยอมอพยพไปอยู่แกมเบียกันจริง ๆ ซึ่งชนเผ่านี้มีลูกดกมาก ๆ ทำให้คาดกันว่า อาจไม่เกิน 20 ปี แกมเบียอาจต้องเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่เป็น โรฮิงญาแลนด์ !!
----------------
ส่วนมาเลเซีย กับ อินโดนีเซีย ที่ยอมรับโรฮิงญาขึ้นฝั่งแล้วนั้น โดยทั้งสองประเทศได้ประกาศร่วมกันว่า จะรับโรฮิงญาแค่ 7 พันคนเท่านั้นเท่าที่ยังเหลืออยู่ในทะเล แล้วจะไม่รับเพิ่มมากกว่านี้ และไม่รวมพวกที่จะอพยพออกมาใหม่ โดยจะจัดตั้งศูนย์ผู้อพยพชั่วคราวไว้แค่ 1 ปีเท่านั้น ย้ำว่าแค่ 1 ปีเท่านั้น ซึ่งจะต้องส่งคนพวกนี้กลับให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี โดยจะเป็นประเทศต้นทางหรือประเทศที่ 3 ก็แล้วแต่
ส่วนออสเตรเลีย ที่มักอ้างสิทธิมนุษยชนบังหน้าตอนพยายามขอให้อินโดนีเซียอย่าประหารนักโทษยาเสพติดชาวออสเตรเลีย กลับแสดงท่าทีชัดเจนว่า ไม่ต้องการรับโรฮิงญาเข้าประเทศออสเตรเลียแน่นอน
เพราะออสเตรเลียไม่ยอมรับการอพยพทางเรือของผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะถ้ารับ ก็ยิ่งจะเพิ่มปัญหามากขึ้นไม่รู้จบ
เป็นไงล่ะ ออสเตรเลียประเทศมีพื้นที่ ๆ ยังไม่มีคนไปอยู่ มีพื้นที่ ๆ ยังไม่ได้ใช้อีกจำนวนมากกว่าเนื้อที่ประเทศไทยนับสิบ ๆ เท่า แถมรวยกว่าไทยหลายเท่า เขายังไม่อยากรับโรฮิงญาเลย
ทั้ง ๆ ที่ ชาวโรฮิงญาบอกว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศที่พวกเขาอยากไปอยู่มากที่สุด
ส่วนประเทศไทย มีชัยภูมิประเทศที่ต้องแบกรับผู้ลี้ภัยจากหลาย ๆ ประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะตอนนี้ไทยเรายังมีค่ายอพยพผู้ลี้ภัยจากพม่าหลายค่าย ซึ่งตั้งมานานแล้วนับ 30 ปี ก็ยังต้องแบกรับภาระนี้ต่อไป
ส่วนชาวโรฮิงญาในประเทศไทยก็มีไม่น้อย จนขนาดตั้งสมาคมโรฮิงญาในประเทศไทยได้
----------------
เมื่อ 2 วันก่อน ผมได้ดูสกู๊ปข่าวช่อง 9 ได้ไปสัมภาษณ์ชาวโรฮิงญาที่อาศัยในไทยมาเกือบ 30 ปี ที่อยู่ไทยได้
เพราะ UNHCR ออกบัตรผู้ลี้ภัยให้ เขาเลยได้ทำมาหากินในกรุงเทพฯได้
ส่วนละแวกบ้านเขา ก็มีโรฮิงญามาทำงานหากินในกรุงเทพฯ หลายคน โดยมากคือ ขายโรตี ก็พวกที่เดินเข็นขายที่เรา ๆ เห็นนั่นแหละ คือถ้าไม่ใช่ชาวโรฮิงญา ก็จะเป็นชาวบังคลาเทศ
ผมจะเล่าให้ฟัง คือ ตอนแรกแขกจะขี่จักรยานขายถั่วก่อน ต่อมาพัฒนาเป็นขายโรตี พอเริ่มมีเงินออม ก็เริ่มออกเงินกู้ให้คนไทยกู้ แล้วพอเริ่มมีฐานะก็พยายามหาเมียคนไทยสักคน สุดท้ายก็จะอยู่ในไทยได้ตลอดชีวิต
ถ้าใครอยากให้แขกบังคลาเทศ และโรฮิงญา แห่เข้ามาอยู่ในไทยมาก ๆ ก็ช่วยอุดหนุนกันเข้าไปครับ แขกขี่จักรยานขายถั่ว แขกเข็นรถขายโรตี (ลองนึกสิว่า เวลาพวกนี้ฉี่จะล้างมือก่อนทำโรตีไหม)
แล้วแขกพวกนี้พอมาอยู่ไทยไม่นานก็รวยจนเป็นเจ้าหนี้คนไทยได้ ส่วนคนไทยส่วนใหญ่ที่ยากจน เพราะคิดจะรอแต่ให้ไอ้หน้าเหลี่ยมมาช่วยเหลือออกนโยบายประชานิยมให้
-----------------
ล่าสุด หลังจากเรือโรฮิงญาขึ้นฝั่งอินโดนีเซียแล้ว
รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้อพยพบนเรือส่วนใหญ่ไม่ใช่โรฮิงญาในพม่า แต่เป็นคนบังคลาเทศซะ 70 % ที่พยายามหลบหนีเข้าเมืองเพื่อหางานทำ และ อาศัยอ้างเป็นโรฮิงญาเพื่อหวังได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติให้ไปอยู่ในประเทศที่ดีกว่า
เป็นไงล่ะ ที่บางคนทำดราม่าสงสารโรฮิงญาน่ะ กลายเป็นสงสารบังคลาเทศแทนแล้วนะจ๊ะ
บทความนี้สะท้อนปัญหาได้ตรงไปตรงมามากครับ
ตอบลบ