วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตรรกะโง่ ๆ สมศักดิ์เจียม กรณีกลอนขู่ปธน.สหรัฐอเมริกา






จากกรณีที่พวกล้มเจ้าอยากจะแก้มาตรา112 นั้น แล้วก็มีอีทูตอเมริกาออกมาสะเออะแส่เรื่องกฏหมายไทยนั้น ก็มีฝ่ายจงรักภักดีออกมาอ้างว่า ทีแค่นายจอห์นนี่ สเปนเซอร์ แต่งกลอนเหยียดผิวและจินตนาการเห็นประธานาธิบดีถูกยิงตายเพียงแค่นี้ ศาลอเมริกาถึงกับจับเข้าคุกขังเกือบ3ปี?

พอมีคนอ้างในเรื่องนี้ ไอ้สมศักดิ์ เจียม นักวิชาการลูกเอเลี่ยน ก็ออกมาตอบโต้คืน

ผมเลยขอเอาตรรกะของไอ้สมศักดิ์ เจียมมาดูสักหน่อยว่า เป็นยังไง

แต่ก่อนอื่นไปดูกลอนของนายจอห์นนี่ ก่อนครับ

นี่คือนายจอห์นนี่ สเปนเซอร์ ที่ถูกศาลอเมริกาตัดสินจำคุกเกือบ 3 ปี ข้อหาเหยียดผิวและข่มขู่คุกคาม ปธน.โอบามา ของสหรัฐอเมริกา


ขอยกบทความจากมติชน มาประกอบก่อนนะครับ ตามนี้

ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2553 ศาลเมืองหลุยส์วิลล์ มลรัฐเคนตักกี สหรัฐอเมริกา ได้พิพากษาลงโทษจำคุก "จอห์นนี่ โลแกน สเปนเซอร์" หนุ่มวัย 28 ปี เป็นเวลา 33 เดือน และต้องถูกคุมประพฤติหลังพ้นโทษจำคุกอีกเป็นเวลา 3 ปี ด้วยข้อหาแต่งบทกวี 16 บรรทัด ข่มขู่เอาชีวิต "บารัก โอบามา" โดยมีเนื้อหาบรรยายถึงเหตุการณ์การใช้ปืนสไนเปอร์ปลิดชีวิตประธานาธิบดีสหรัฐ

บทกวีของสเปนเซอร์มีชื่อว่า "สไนเปอร์" เขาเคยนำมันไปโพสต์ในเว็บไซต์ NewSaxon.org ของกลุ่ม white supremacist ซึ่งเป็นกลุ่มนาซีใหม่เมื่อปี 2550 และถูกโพสต์ซ้ำอีกครั้งในปี 2552 หลังจากนายโอบามาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว

ก่อนที่หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ จะสามารถจับกุมตัวสเปนเซอร์ได้เมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผลคำพิพากษาของคดีนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกหรือไม่?

โดยฝ่ายที่ปกป้องสเปนเซอร์ให้เหตุผลว่า ข้อความในบทกวีของหนุ่มคนนี้เป็นเพียงแค่การแสดงความไม่พอใจเท่านั้น 


ขณะที่ฝ่ายอัยการระบุว่าข้อความที่ว่า "คนผิวดำต้องตาย" (DIE negro DIE) นั้น เพียงพอแล้วที่จะยกเลิกการให้เสรีภาพในการแสดงความเห็นแก่สเปนเซอร์

บทกวี "THE SNIPER" โดย Johnny Spencer (ถอดความโดย มติชนออนไลน์)

"As the tyrant enters his cross hairs the breath he takes is deep
เมื่อทรราชย์เดินเข้ามาในเป้า เขาสูดลมหายใจลึกๆ ลงปอด

His focus is square on the target as he begins to release
ขณะกำลังเริ่มต้นภารกิจปลดปล่อย จุดโฟกัสของเขาคือพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสบนร่างเป้าหมาย

A patriot for his people he knows this shot will cost his life
ในฐานะผู้รักปิตุภูมิที่ทำเพื่อประชาชน เขารู้ว่ากระสุนนัดนี้อาจจะต้องแลกมาด้วยชีวิตของตนเอง

But for his race and their existence it is a small sacrifice
แต่เพื่อเผ่าพันธุ์ของเขาและการดำรงอยู่ของสิ่งสูงส่งนั้น นี่เป็นเพียงการเสียสละอันเล็กน้อย

The bullet that he has chambered is one of the purest pride
ลูกกระสุนที่เขาบรรจุไว้ในกระบอกปืนคือหนึ่งในเกียรติยศความภาคภูมิใจอันบริสุทธิ์

And the inspiration on the casing reads DIE negro DIE
และแรงบันดาลใจจากปลอกกระสุนก็อ่านออกมาเป็นถ้อยคำได้ว่า "ตาย นิโกรต้องตาย"

He breathes out as he pulls the trigger releasing all his hate
เขาปล่อยลมหายใจออกจากร่าง แล้วเหนี่ยวไกปืนเพื่อปลอดปล่อยความเกลียดชังทั้งหมดของตัวเอง

And a smile appears upon his face as he seals that monkey′s fate.
และรอยยิ้มก็บังเกิดบนใบหน้าเขา เมื่อตนเองเป็นผู้ปลิดชีวิตของลิงตัวนั้น

The bullet screams toward its mark bringing with it death
ลูกกระสุนพุ่งกรีดเป้าหมาย นำไปสู่ความตายของมัน

And where there was once a face there is nothing left
ส่วนที่เคยเป็นใบหน้า กลับไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่

Two blood covered agents stare in horror and dismay
สองเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งร่างเต็มไปด้วยเลือด จ้องมองภาพสยองขวัญอย่างตกตะลึง

Looking down toward the ground where their president now lay
มองไปยังพื้นด้านล่าง ร่างของประธานาธิบดีกำลังนอนทอดกายอยู่

Now the screams of one old negro broad pierces thru the air
เสียงกรีดร้องของนิโกรแก่ๆ กำลังดังแทรกผ่านอากาศธาตุ

Setting off panic from every eyewitness that was there
พยานผู้เห็นเหตุการณ์ทุกคน ณ ที่แห่งนั้น เริ่มตื่นตกใจ

And among all the confusion the hero calmly slips away
และท่ามกลางความสับสนต่างๆ นานา วีรบุรุษก็จากมาอย่างเงียบๆ

Laughing for he knows there will be another negro holiday”
เขาหัวเราะเมื่อได้รู้ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งวันนักขัตฤกษ์ของพวกนิโกร

---------------------

มุมมองakecity กับคดีกลอนฆ่าประธานาธิบดี

จากข้อมูลที่มติชนนำเสนอ จะเห็นได้ว่า กลอนบทนี้เคยถูกโพสต์ครั้งแรกเมื่อปี 2550 มาแล้ว ซึ่งไม่เป็นคดีความแต่อย่างใด

แต่เมื่อเอามาโพสต์อีกครั้งในปี 2552 หลังจากที่นายโอบามาได้เป็น ปธน. ผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกาแล้ว

กลอนของนายจอห์นนี่ สเปนเซอร์ กลับกลายเป็นคดีร้ายแรง ถึงขั้นตีความว่า ขู่ฆ่า หรือมีการอยากฆ่าประธานาธิบดี ไปซะนั่น!!

แบบนี้ อเมริกา 2มาตรฐานหรือไม่? 

ทำไมกลอนบทนี้ไม่เป็นคดีความตั้งแต่ปี 2550 เล่า แค่เอากลอนเก่ามาโพสต์ใหม่ คนแต่งเลยซวย เพราะสหรัฐอเมริกาดันมีประธานาธิบดีเป็นคนผิวสีอย่างนั้นหรือ?

ส่วนอัยการสหรัฐ ก็แสดงความเห็นส่วนตัวแบบเว่อร์มาก ๆ บอกออกมาได้ว่า แค่ข้อความที่ว่า "คนผิวสีต้องตาย" แค่นี้ก็สมควรติดคุกแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้กฎหมายอเมริกาก็อ่อนไหวเปราะบางยิ่งกว่ากฎหมายบ้านเราเสียอีก

เพราะแค่เขียนกลอน ซึ่งอาจรุนแรงในความคิดเรื่องเหยียดผิว แต่ก็ไม่ได้ฆ่าใครจริง ๆ และบทความนี้ก็ไม่ได้เจาะจงด้วยว่าหมายถึง โอบามา

เพราะกลอนนี้ถูกเขียนมาก่อนที่โอบามาจะเป็นประธานาธิบดีเสียอีก เป็นแค่บทกลอนของคนหัวรุนแรงเพี้ยนๆ ซึ่งอาจถึงขั้นโรคจิต ศาลอเมริกายังเอาถึงติดคุกเลยนะครับ แถมติดเต็มที่ และไม่มีสิทธิมาขอพระราชทานอภัยโทษได้แบบบ้านเราเสียด้วย

ผมว่า ทางการอเมริกาน่าจะพาคนเขียนกลอนไปหาจิตแพทย์เพื่อรักษา น่าจะดีกว่า ส่งเขาเข้าคุกนะ ว่าไง?

แต่เอาล่ะ กฏหมายบ้านเขาเราก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องของเขา เราก็ต้องให้ความเคารพกฏหมายบ้านเขา

แต่ที่ผมชี้ให้ดู เพื่อจะเห็นได้ว่า กฏหมายสหรัฐอเมริกาน่ะเขาแรงกว่าของไทยเสียอีก เช่น ถ้ามีคนไทยเขียนกลอนอยากฆ่าพวกเสื้อแดงที่เผาบ้านเผาเมือง หรือประกาศแบบอาเจ๊ห้างเซ็นเตอร์วัน ที่ตะโกนว่า

"ฆ่าล้างบางตระกูลชินวัตร"

ถ้าเป็นแบบนี้ ประเทศไทยไม่เอามาติดคุกหรอกครับ เพราะที่เจ๊แกพูดมันคือเรื่องสมควรด้วยเหตุด้วยผล จริงมะ? ^^



---------------------

มาดูตรรกะของไอ้สมศักดิ์ เจียม กับกรณีกลอนเหยียดผิวนี้ 

กรณีจำคุก 3 ปี เรื่องขู่เอาชีวิตโอบาม่านั้น มันมีกฎหมายอันหนึ่ง เรียกว่า มาตรา 871 ใน US Code Title 18, Part I, Chapter 41 ตัวบทของกฎหมายที่ว่า มีดังนี้
http://www.law.cornell.edu/uscode/usc_sec_18_00000871----000-.html

สรุปคือ ใครขู่ฆ่า หรือ ขู่จะลักพาตัว ปธน. หรือ รอง ปธน. หรือ ปธน.ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้ง (President-elect) มีโทษปรับ (ไม่ได้ระบุอัตรา) หรือ จำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ทีนี้นี่คือ ความผิดฐาน ขู่ฆ่า (หรือลักพาตัว หรือทำร้ายร่างกาย) นะครับ ไม่ใช่ความผิดหมิ่นประมาท แบบกรณี 112 บ้านเรา

(แล้วจริงๆ ความผิดนี้ เขาถือเป็น class D felony คือ ความผิดชั้นต่ำสุด ไม่ใช่ความผิดระดับความมั่นคง เหมือน 112 ของบ้านเรา)

อันที่จริง กรณีที่พูดถึงนี้ มีหลายคน ก็ไม่พอใจคำตัดสินนะ (คนทำผิด เขียนกลอนชื่อ "สไนเปอร์" พิมพ์ครั้งแรกปี 2007 และพิมพ์ซ้ำ 2009 ขู่จะยิง ปธน.) โดยเห็นว่า การเขียนกลอนแบบนี้ ไม่น่าจะจัดอยู่ในความผิดเรื่อง ขู่ฆ่า แต่ควรถือเป็น free speech ซึ่งไม่มีความผิด

บางคนก็ยกตัวอย่างงานเขียนประเภทเดียวกันที่คนทำกัน ซึ่งมีจริง หรือ กระทั่งเร็วๆ นี้ มีคนเปิด fb ให้คนมาออกเสียงว่า โอบาม่า ควรถูกลอบสังหารหรือไม่ ให้เลือกตอบ yes, no, maybe ก็มีคนไปลงกันเป็นร้อยๆ แต่ตอนหลัง fb ปิดไป และมีการสอบสวนกันเหมือนกัน (เพราะมันมีความผิดมาตราที่ว่าอยู่) แต่ก็ไม่เห็นมีข่าวดำเนินคดีอะไร .. พูดง่ายๆ คือ แม้แต่มาตราที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อ หรือบ่อย

รายละเอียดตรรกะสมศักดิ์ ไปอ่านได้ที่ http://prachatai.com/journal/2011/12/38372

-----------------------

akecity วิเคราะห์ตรรกะไอ้สมศักดิ์ เจียม

ที่สมศักดิ์ เจียม มันว่าไว้ก็ถูกของมัน เพราะคดีกลอนของนายจอห์นนี่ ศาลมองว่า เป็นการขู่ ปธน. และศาลก็เอาผิดนายจอห์นนี่จากเรื่องฐานขู่ ฆ่า ลักพาตัว ไม่ใช่ความผิดต่อความมั่นคงประเทศ

และมุมมองสมศักดิ์ ยังบอกเองว่า ความจริงคดีกลอนนี้ก็ไม่น่าจะเป็นคดีด้วยซ้ำ แต่ดันเป็นคดีเอาผิดถึงติดคุก!!

สมศักดิ์เอ๋ย การที่สมศักดิ์บอกว่า เอาคดีนี้มาเทียบกับมาตรา 112 ไม่ได้ เพราะคดีนายจอห์นนี่เป็นแค่คดีข่มขู่ฆ่า ไม่ใช่เป็นคดีกระทบที่ความมั่นคงเหมือนของไทยนั้น

แต่ความจริงตรรกะสมศักดิ์เองก็เพี้ยน ก็สมศักดิ์ยังบอกเองเลยว่า คนทำfb เรื่องเกี่ยวกับควรสังหารโอบามาหรือไม่ แต่กลับไม่เป็นคดี !!??

แล้วทำไมแค่กลอนของนายจอห์นี่ ที่เขียนมาก่อนที่ โอบามา จะมาเป็นปธน.เสียอีก ศาลอเมริกาจึงเอาถึงติดคุกเลยล่ะ แบบนี้ไม่เรียกว่า ศาลอเมริกาเอาผิดเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือไม?

เพราะสมศักดิ์เจียม ได้เขียนว่า 

"พูดถึงนี้ มีหลายคน ก็ไม่พอใจคำตัดสินนะ (คนทำผิด เขียนกลอนชื่อ "สไนเปอร์" พิมพ์ครั้งแรกปี 2007 และพิมพ์ซ้ำ 2009 ขู่จะยิง ปธน.) โดยเป็นว่า การเขียนกลอนแบบนี้ ไม่น่าจะจัดอยู่ในความผิดเรื่อง ขู่ฆ่า แต่ควรถือเป็น free speech ซึ่งไม่มีความผิด บางคนก็ยกตัวอย่างงานเขียนประเภท เดียวกัน ที่คนทำกัน ซึ่งมีจริง หรือ กระทัง เร็วๆ นี้ มีคนเปิด fb ให้คนมาออกเสียงว่า โอบาม่า ควรถูกลอบสังหารหรือไม่ ให้เลือกตอบ yes, no, maybe ก็มีคนไปลงกันเป็นร้อยๆ แต่ตอนหลัง fb ปิดไป และมีการสอบสวนกันเหมือนกัน (เพราะมันมีความผิดมาตราทีว่าอยู่) แต่ก็ไม่เห็นมีข่าวดำเนินคดีอะไร .. พูดง่ายๆ คือ แม้แต่ไอ้มาตราที่ว่านี้ ก็ไม่ใช่ว่า จะใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อ หรือบ่อย"

ฉะนั้นถ้าเป็นแบบที่สมศักดิ๋บอก ก็แปลว่า อเมริกาไร้มาตรฐานน่ะสิ คือนึกอยากจะเล่นงานใครก็เล่น แล้วแต่อารมณ์ซะงั้น บางคดีก็เล่นงาน บางคดีก็ปล่อยผ่านไปเฉยๆ

แล้วที่สมศักดิ์บอกว่า "ยะใส ยกกรณี ดา ตอร์ปิโด นั้น ก็คนละเรื่องเลยครับ ดา ตอร์ปิโด เคย "ขู่ฆ่า" หรือขู่ ลักพาตัว ใครเหรอ?"

สมศักดิ์เอ๋ย ที่นังดาตอปิโดมันหยาบคายต่อสถาบัน แม้ยังไม่ได้ขู่ฆ่า คนไทยก็รับไม่ได้แล้วโว้ย

ถ้านังดามันถึงขั้นขู่ฆ่าล่ะก็ มันมีหวังโดนกระทืบตายในคุกแน่นอน แค่ตอนนี้ที่มันติดคุก มันก็ปากเจ่อแทบทุกวันอยู่แล้ว เพราะนักโทษด้วยกันเขากระตื้บมันเรื่อยๆ นั่นแหล่ะ ถ้าไม่เชื่อสมศักดิ์ก็ลองไปติดคุกดูก็จะเข้าใจ แต่สมศักดิ์ไม่กล้าหรอก เพราะสมศักดิ์ปอดแหก

แล้วที่สมศักดิ์บอกว่า คนอเมริกาด่าประธานาธิบดีแรง ๆ ได้ไม่ผิด ก็ถูกของสมศักดิ์ แต่สมศักดิ์จะเอาตำแหน่งประธานาธิบดีมาเทียบกับพระมหากษัตริย์ไม่ได้ คนละเรื่องกันเลย

กฎหมายและวัฒนธรรมบ้านใครก็มีความแตกต่างกัน บ้านใครก็บ้านมัน แม้แต่คนอังกฤษเองยังมองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเทียบเท่าแค่ระดับนายกรัฐมนตรีอังกฤษเท่านั้น (ซึ่งผมจะเขียนเรื่องนี้ต่อไป)

มาตรา 112 ของไทย เรามีไว้ปกป้องสถาบันฯ ซึ่งหมายถึงสำคัญยิ่งกว่าตัวบุคคล 

สหรัฐอเมริกาเขาให้ด่าประธานาธิบดีได้มันก็เรื่องของเขา เหมือนที่บ้านเราก็ด่านายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีได้เหมือนกัน

แต่ประเทศไทยเราห้ามใครหมิ่นสถาบันฯ มันก็เรื่องของเรา เข้าใจไหมไอ้สมศักดิ์!?

ถ้าสมศักดิ์ ไม่เข้าใจ และรับไม่ได้การมีมาตรา 112 สมศักดิ์ควรไปเกิดใหม่ในที่ที่เหมาะสมกับสมศักดิ์นะ เช่น อเมริกาไง ทำไมสมศักดื์ไม่ไปเกิดนะ? มาอยู่ให้หนักแผ่นดินไทยอยู่ได้

--------------------

เรื่องเด็กอังกฤษส่งอีเมล์ด่าโอบามา ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศ

ซึ่งเรื่องนี้ ตรรกะของสมศักดิ์ ก็ยกมาแก้ต่างแค่ประเด็นที่ว่า เด็กไม่ได้โดนสั่งห้ามเข้าตลอดชีวิตมาหักล้างเท่านั้น และสมศักดิ์ก็บอกเองว่า อเมริกามันก็แบนคนเป็นระยะ ๆ เป็นเรื่องธรรมดา เอามาเทียบกับมาตรา112ไม่ได้

โถ ๆ สมศักดิ์เอ๋ย ทำไมมันจะเทียบไม่ได้กับมาตรา 112 ไม่ได้  แค่เด็กอังกฤษส่งอีเมล์ด่า ปธน.อเมริกาเท่านั้น อเมริกายังถึงขั้นสั่งห้ามเด็กอังกฤษเข้าประเทศเลย 

แล้วมาตรา 112 ถ้าใครหมิ่นสถาบันกษัตริย์  ไทยเราก็แค่ห้ามมันออกมาดูโลกภายนอก (อยู่ในคุก) สักพักบ้างไม่ได้หรือ? สมศักดิ์!!

กฎหมายบ้านใครบ้านมันโว้ย สุดท้ายถ้าใครมันสำนึกผิด ก็ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ แล้วก็ไม่เคยมีใครติดคุกจากมาตรา 112 นานเท่าที่ศาลสั่งลงโทษเลยสักรายเดียว จริงมั้ยสมศักดิ์?

บ้านเราดีกว่าอเมริกาตั้งเยอะ!!

ส่วนที่สมศักดิ์บอกว่า เด็กอังกฤษแค่ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่ไม่ได้โดนห้ามเข้าตลอดชีวิตตามที่ยะใสอ้างนั้น

แต่ถ้าตามลิงค์นี้  http://bit.ly/udZmrA

เขาเขียนไว้ว่า A British boy has been banned from America for life after he sent an email to the White House calling Barack Obama "a prick".

ผมเองก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า คำว่า for life แปลว่าตลอดชีวิตหรือเปล่า?

-----------------------

ทีนี้มาดูวิธีปกป้องความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา

คุณผู้อ่านครับ หลังจากอเมริกาโดนถล่มตึกเวิร์ลเทรดไป อเมริกาก็อ้างว่า บินลาเดนเป็นคนสั่งการ

และเพื่อความมั่นคงของอเมริกาเอง แต่อ้างเพื่อปกป้องสันติภาพโลกบังหน้า อเมริกาจึงตามล่าบดขยี้บินลาเดนไปทุกที่ จนสังหารบินลาเดนได้ การฆ่าบินลาเดนได้ ต้องแลกกับที่กองทัพอเมริกาบุกถล่มอัฟกานิสถาน มีคนเสียชีวิตซึ่งรวมทั้งผู้บริสุทธิ์ไปด้วย ต้องตายไปมากมายกว่าจะสังหารบินลาเดนสำเร็จ

ทหารอเมริกันบุกเข้าไปในปากีสถานเพื่อสังหารบินลาเดน โดยไม่ได้ขออนุญาตทางการปากีสถานก่อน เพราะอเมริกากลัวว่าข่าวจะรั่ว แล้วบินลาเดนจะหลบหนีได้อีก

นี่ก็คือสันดานของอเมริกา ที่ละเมิดอธิปไตยชาติอื่นได้ แต่ชาติอื่นละเมิดอธิปไตยอเมริกาไม่ได้

คุณผู้อ่านครับ จอร์ช บุช ผู้พ่อ ปราบซัดดัม ฮุสเซ็นไม่เด็ดขาด เลยส่งไม้ต่อให้จอร์ช w บุช ผู้ลูกสานต่อ โดยที่จอร์ช w บุช ปรักปรำว่า ซัดดัมมีอาวุธนิวเคลียร์ มีอาวุธเคมี อาวุธชีวะภาพ สะสมอยู่ปริมาณมหาศาล

แล้วจอร์ช w บุช ก็สั่งกองทัพสหรัฐยกทัพถล่มอิรักแบบให้ราบเป็นหน้ากลอง ทำลายประเทศอิรักย่อยยับ ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่าอิรักมีอาวุธร้ายแรงขัดต่อสันติภาพโลก และตามฆ่าซัดดัมได้ในที่สุด

แต่แล้วในที่สุด กองทัพสหรัฐก็กลับหาแหล่งเก็บอาวุธร้ายแรงทั้งหลายของอิรักไม่เจอ

บ้านเมืองอิรักก่อนโดนกองทัพสหรัฐถล่ม ที่เคยสวยงาม ต้องกลายเป็นซากปรักหักพัง

ในหนังสือ Decision Points ซึ่งมีจำนวน 500 หน้า บุชได้เขียนยอมรับความผิดพลาดในการทำสงครามอิรัก และความล้มเหลวในการหาอาวุธทำลายล้างสูงตามรายงานของหน่วยข่าวกรองที่ยืนยัน หนักแน่นว่าอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนของอิรักนั้นครอบครองอยู่

"ไม่มีใครที่รู้สึกตกใจ หรือไม่พอใจมากไปกว่าผม เมื่อเราไม่พบอาวุธใดๆ ผมมีความรู้สึกแย่ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ และผมยังเป็นอยู่" บุชเขียนไว้ในหนังสือ ซึ่งข้อความนี้ถูกตัดทอนมาโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ที่ได้สัมภาษณ์อดีตผู้นำสหรัฐฯ เป็นรายแรก

เมื่อเอ็นบีซีถามว่าเขาคิดจะขอโทษในความผิดพลาดเหล่านั้นหรือไม่ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้ยืนยันว่า "ไม่"

"การขอโทษจะเท่ากับการยอมรับว่าการตัดสินใจนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิด ผมไม่เชื่อว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิด ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการปัญหานี้คือค้นหาความจริงว่าทำไม และอะไรที่ผิดพลาด แล้วจึงแก้ไขสิ่งนั้น" บุชกล่าว

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัดสินใจผิดพลาด แต่อดีต ปธน.สหรัฐ ก็ไม่ยอมขอโทษ และไม่ยอมรับผิด ทำให้เมื่อบุชไปอิรัก จึงโดนนักข่าวอิรักขว้างรองเท้าใส่หน้า แต่โชคดีบุชหลบทัน

แต่นักข่าวอิรักคนนี้ก็โดนสั่งจำคุกไป ซึ่งเมื่อเขาออกจากคุก เขาก็กลายเป็นฮีโร่ของชาวมุสลิมในหลายประเทศทั่วโลกเลยครับ


----------------------

เป็นไงครับ วิธีปกป้องความมั่งคงของสหรัฐ ด้วยการให้กองทัพสหรัฐบุกถล่มอิรัก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีข้อมูลความจริงเลยว่า อิรักมีอาวุธทำลายล้างสูงหรืออาวุธนิวเคลียร์อยู่จริง แต่สหรัฐก็เดินหน้าถล่มอิรักจนมีทหาร พลเรือน และทรัพย์สินของชาวอิรักสูญเสียมากมาย

ทหารอเมริกันเองก็ไปตายในสงครามอิรักนับพันนับหมื่นคน

แต่ก็ไม่มีใครคิดเอา จอร์ช w บุช ขึ้นศาลโลก ด้วยข้อหาสั่งฆ่าประชาชนอิรักเลย สักคน

จริงมะ? ทำไมล่ะ ??

คลิกอ่าน ประวัติไอ้สมศักดิ์ เจียมอีทีสถุล




4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2555 เวลา 10:29

    มาตรา 112 แท้จริงมีอยู่ในทุกประเทศ ขึ้นอยู่กับว่ามีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน โทษก็ขึ้นอยู่กับลักษณะและหลักฐาน ศาลเป็นผู้วินิจฉัย คนธรรมดายันประมุขของประเทศได้รับความคุ้มครองทั้งนั้น แต่อยู่ไอ้คนกลุ่มหนึ่งมันก็อยากจะล้มเลิกแก้ไขให้ลดความสำคัญของสถาบัน ให้ไม่มีหรือน้อยกว่าคนทั่วไป อย่างงี้มาตรฐานด้านนิติบัญญัติของไทยไม่ล้าหลังด้อยกว่าอเมริกา ประเทศพ่อแม่มันเหรอ ปธน.อยู่ครั้งละ 4 ปี แต่สถาบันอยู่คู่ไทยก่อนพ่อแม่พวกมันเกิดซะอีก มันกลับไม่ให้ความสำคัญ คงมีแต่คนเนรคุณเท่านั้นที่ชอบทำนิสัยแบบนี้ อีกทีขอสาปแช่งใครก็ตามที่ให้ร้ายใส่ร้ายทำร้ายสถาบัน มันผู้นั้นจงได้รับผลกรรมที่มันทำโดยลูกหลานของมันสู่ตัวมันอย่างสาสม

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 มีนาคม 2558 เวลา 00:47

    จริงครึ่งเดียว
    ผมว่าคุณ akecity ตอนนี้แค่เกลียดอยู่เลยไม่เข้าใจ เกลียดเพราะอเมริกาทำไม่ถูกใจ ไม่ว่าจะเรื่องเหยียดผิว หรือ บุกอีรัก เดี่ยวคงอวยจีนให้อ่านอีก
    ส่วน 112 กับเรื่องนี้ไม่ได้เฉียดกันเลยมันคนละเรื่อง...
    ปล.อยากอ่าน การละเมิดอธิปไตยชาติอื่นของจีนครับ รอครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เพราะจีนเป็นคอมมิวนิสต์ไงครับ ผมถึงไม่จำเป็นต้องเขียน
      ผมชอบเขียนถึง ไอ้พวกชอบแอบอ้างประชาธิปไตยและเสรีภาพบังหน้า.
      .
      ส่วนคุณว่า ม.112 ไม่เกี่ยว นั่นคือความเห็นคุณ ลองกลับไปอ่านบทความเพิ่มสัก 2 รอบ เผื่อจะเข้าใจมากขึ้น

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ14 พฤษภาคม 2559 เวลา 18:29

      ทำไม จีนไปเกี่ยวไรด้วยครับ?
      หืม เดือดร้อนแทนอเมริกาจังเลยนะครับ
      ยอมรับความจริงไม่ได้หรือครับ ที่ว่าจีนไม่เคยมีพฤติกรรมรุกรานชาวบ้านเลยแม้แต่นิดเดียวหลังหมดยุคสงครามเย็น เกาะในทะเลจีนใต้จีนเขาก็มีหลักฐานยืนยันอธิปไตยของเขา
      ทิเบต ซินเจียง ฮ่องกง ก็ดินแดนในอธิปไตยของเขาตั้งแต่ตั้งประเทศจีนขึ้นมาใหม่หลังสงครามโลก เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ หรือว่าอคติมันบังตา เลยคิดว่าจีนทำไรก็ผิดก็ชั่วหมด
      อเมริกากับตะวันตกอีกหลายๆชาติ วิพากวิจารณ์เรื่อง ม112 เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราอย่างเสียๆหายๆ แต่จีนไม่เคยมีสันดานแบบนี้ แถมยังยกพระเทพเป็นมหามิตรของจีนด้วย หัดออกจากกะลามาดูจีนยุคใหม่บ้างนะครับ โลกนี้ไม่ได้มีแต่อเมริบุพการีคุณแต่ผู้เดียว

      ลบ

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^