จากกรณีชาวโรฮิงญา อพยพมาไทยจำนวนหลายร้อยคน สภาพอดอยากหิวโหย เป็นข่าวดังในช่วงนี้
ผมยอมรับว่า ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็อดสงสารไม่ได้ และการที่รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือตามสมควร ตามหลักเมตตาธรรมในฐานะเพื่อนมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
แต่สิ่งที่กลายเป็นเรื่องที่จะเป็น
ดาบสองคม คือแฟชั่นทำบุญบริจาคช่วยเหลือชาวโรฮิงญาของคนไทย
--------------------
ตัวอย่างแฟชั่นบริจาคช่วยหมาจรจัด
คนไทยเป็นพวกชอบทำบุญตามกระแสตามแฟชั่น คล้ายตอนแห่กันบริจาคช่วยหมาจรจัดที่ถูกจับส่งไปขาย จนได้เงินบริจาคร่วม20กว่าล้าน ที่นครพนม
เห่อกันบริจาคไปแล้ว และคุณเคยไปตามดูต่ออีกหรือไม่ว่า หมาจรจัดพวกนั้น ก็กลับมีสภาพชีวิตไม่ดีขึ้นไปกว่าเดิม แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะหมาจรจัดถูกพาไปขังแออัดยึดเยียดในสถานที่เลี้ยงที่คับแคบเกินไป ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากการขังคุกเลย แต่เป็น
คุกหมา !!
แถมหมาจรจัดเหล่านั้นก็ทยอยตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะความแออัดของหมา ทำให้เวลามีหมาป่วยติดเชื้อ ก็จะระบาดแพร่ไปได้อย่างรวดเร็ว
พูดง่ายๆ คือ หมาจรจัดที่คนไปช่วยให้รอดพ้นจากการไปเป็นอาหารของชาวเวียดนาม ก็ต้องกลับกลายมา
ติดคุกหมา แทน !!
แถมติดคุกตลอดชีวิต!!
ถามว่า ถ้าไม่ให้หมาจรจัดเขาไปตามกรรมของเขา เมื่อไปช่วยเขากลับมา
ทำไมไม่ปล่อยให้หมาจรจัดพวกนี้ กลับไปจรจัดเป็นอิสระเหมือนเดิมเล่า ?
แต่กลับเอาหมาจรจัดไปกักขังแออัด ก็เหมือนจับหมาไปขังคุกนั่นเอง
ที่สำคัญ ไม่มีพวกใจบุญตามแฟชั่นตามไปดูแลต่อว่า สภาพศูนย์หมาจรจัดที่นครพนมวันนี้มีสภาพเป็นยังไง ??
ถ้าใครได้ดูข่าวทีวีไทย จะรู้ว่า มีสภาพย่ำแย่ เงินทองก็ร่อยหรอ หมาปวยตายเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากหมาจำนวนกว่า 2,300 ตัว ตอนนี้เหลือไม่ถึง 800 ตัว
(จากข่าวเมื่อหลายเดือนก่อน)
เงินบริจาคส่วนใหญ่ต้องหมดไปกับค่าจ้างเจ้าหน้าที่มาดูแลรักษาหมา
แล้วถ้าเงินบริจาคหมดล่ะ ?
เมื่อ
หลายเดือนก่อน ผมดูข่าวครั้งสุดท้าย จำได้ว่า เงินบริจาคช่วยหมาจรจัดที่นครพนม เหลือประมาณ 8 ล้านบาทเศษเท่านั้น จากที่เคยมีกว่า 24 ล้าน
(ถ้าจำไม่ผิด)
คนไทยเห่อกันไปทำบุญช่วยหมาจรจัด แล้วมันก็เลือนหายไปตามกาลเวลา ไม่มีใครสนใจไปติดตามช่วยเหลือต่อ
ถ้าคุณรักหมาจรจัดกันจริง ก็ไปรับเขามาเลี้ยงสิ !!
แต่ก็ไม่มีใครเอามาเลี้ยงสักราย น้อยมากๆ ที่จะไปขอหมาจรจัดเหล่านั้นมาเลี้ยง
หากเป็นผม ผมว่า ถ้าไปช่วยเขากลับมาแล้ว กลับนำมาพวกเขากักขังยัดเยียด ป่วยตาย ไร้อิสระเสรีเหมือนเก่า
ผมว่า
สู้ปล่อยพวกเขาไปตามยถากรรมของหมาเขาดีกว่า เพราะหมาเขาก็มีกรรมของหมา แม้เขาอาจต้องไปตายเป็นอาหารของชาวเวียดนามก็จริง
แต่บางทีการตายเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ ก็อาจเป็นกุศลที่พาเขาไปสู่ภพภูมิใหม่ที่ดีขึ้นก็ได้
เพราะหมาเขาก็เกิดมาใช้กรรมของเขาเหมือนกัน
การตายเพื่อไปเป็นอาหาร กับการป่วยตายในสภาพติดคุกหมา มันต่างกันตรงไหน ?
ถ้าผมเป็นหมาจรจัด ถ้าผมไม่ได้กลับมาจรจัดแบบอิสระเหมือนเดิมอีก
ผมจะขอเลือกตายเพื่อเป็นอาหารคน เพื่อชดใช้กรรมที่ต้องมาเกิดเป็นหมาของผม เพราะการเสียสละชีวิตเพื่อเป็นอาหารยังได้บุญ และ
ดีกว่าให้ผมไปป่วยตายในคุกหมาอย่างอนาถ
-------------------------
คุณรู้หรือไม่ ? ตำรวจจับพวกลักลอบขายหมาที่ถูกจับได้อีกในระยะหลังๆ จะนำไปให้ที่นครพนมเลี้ยง แต่เมื่อไม่มีเงินบริจาคเข้ามาอีก หมาก็ไปแออัดตายหนักเข้าไปอีก
ตอนหลังศูนย์ไม่สามารถรับหมาจรจัดเพิ่มอีกได้
ทุกวันนี้ตำรวจก็เลยต้องทำเป็นไม่เห็น ต้องปล่อย ๆ พวกลักลอบขายหมาผ่านๆ ไปบ้างแล้ว เพราะจับหมามาก็ไม่รู้จะเอาไปเลี้ยงที่ไหน ??
(กรณีหมาจรจัด ผมจะต้องมีบทความขยายต่ออีกโปรดรอติตาม)
----------------------------
คนไทยเห่อบริจาคช่วยชาวโรฮิงญา เป็นดาบสองคม
ผมเห็นคนไทยทำตัวใจบุญไม่เข้าท่า มีตั้งตัวเป็นคนถือกล่องรับบริจาคช่วยชาวโรฮิงญาก็มีในหลายแห่ง แชร์ภาพในเฟซบุ้ก
นี่คือวิธีการคิดที่ตื้นเขินของคนไทยอีกเรื่อง เหมือนทำบุญปล่อยเต่า ปล่อยตะพาบ สุดท้ายกลายเป็นทำบาปหนักกว่าเดิม !!
แน่นอน ใครใคร่ช่วยเลือกบริจาคช่วยเพื่อนมนุษย์ ก็ย่อมได้ ไม่มีใครห้าม
แต่คุณรู้หรือไม่
ยังมีชาวโรฮิงญาอีกหลายแสนคนในพม่า เขาจะได้รับรู้ว่า คนไทยใจบุญเมตตาต่อพวกเขา และต่อไปก็จะต้องมีชาวโรฮิงญาแห่กันหนีมาเมืองไทยอีกมากมาย
แล้วคนไทยใจบุญทั้งหลายล่ะ พวกคุณกล้ารับคนพวกนี้ไปพักอาศัยที่บ้านพวกคุณหรือไม่
เพราะพวกเขาอยากได้งานทำ อยากได้ที่พักที่
ปลอดภัยและถาวร !!
ถ้าคุณมีกิจการร้านค้า คุณกล้ารับคนพวกนี้ไปทำงานให้คุณหรือไม่ ?
พวกสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย ที่ปากอ้างสิทธิมนุษยชนกันนัก อย่ามา
ผลักภาระ ให้รัฐบาลไทยฝ่ายเดียวสิ
พวกนักสิทธิมนุษยชนทั้งหลายควรไปรับเขามาอยู่บ้านของพวกคุณ บ้านละคน ก็ยังดี ทำได้ไหมล่ะ ? เริ่มที่บ้านพวกคุณก่อนเลย
ถามว่า ทำไมไม่มีประเทศไหนกล้าอ้าแขนรับชาวโรฮิงญา ?
ขนาดบังคลาเทศ มีเชื้อสายที่ใกล้เคียงชาวโรฮิงญามากที่สุด แถมนับถือศาสนาอิสลามเหมือนกันด้วย
แต่ทำไมบังคลาเทศถึงไม่ยอมรับชาวโรฮิงญา ทั้งๆ ที่ชาวโรฮิงญาก็คือชาวเผ่าๆ หนึ่ง ในอินเดียโบราณเหมือนชาวบังคลาเทศนั่นเอง
ขนาดบังคลาเทศ และพม่า ยังไม่ยอมรับคนพวกนี้ อาจเพราะมีอะไรลึกๆ และร้ายๆ ที่คนไทยที่ชอบคิดตื้นๆ ไม่รู้ข้อมูลหรือไม่ ?
การที่ไม่มีประเทศไหนอ้าแขนรับชาวโรฮิงญาเลย นั่นเพราะเขารู้จะต้องมีปัญหาตามมาอีกมากมายแน่ต่อประเทศของเขา?
-------------------------------
ปล่อยรัฐบาลช่วยเหลือไป
การที่รัฐบาลไทยช่วยเหลือไปตามหลักมนุษยธรรม เมตตาธรรม ตามหลักสากล เป็นเรื่องที่ควรทำ และต้องทำ
แต่คนไทยไม่ควรไปเห่อกันช่วยบริจาคช่วยเหลือ เพราะนี่คือ
ดาบสองคม ที่จะทำให้มีชาวโรฮิงญาหลงเข้าใจผิดคิดว่าคนไทยใจบุญ และพวกเขาจะแห่กันมาอีกเพียบ
คนไทยใจบุญเหล่านั้น จะยอมรับเขาไปเป็นคนในครอบครัวคุณได้หรือไม่ล่ะ ?
ทุกวันนี้คนไทยที่อดอยาก ไร้ที่อยู่มีมากมาย คนไทยไปเห่อช่วยบริจาคกันแล้วยัง ?
และถ้าชาวโรฮิงญาแห่กันมาไทยอีกหลายแสนคน และไม่มีประเทศที่ 3 จะรับพวกนี้ไปเลี้ยงต่อจากไทยล่ะ
ตกลงพวกเราเต็มใจให้พวกนี้อยู่ในแผ่นดินเราใช่ไหม ?
เดี๋ยวพอพวกนี้มีลูกที่เกิดในเมืองไทย เราพร้อมให้
สัญชาติไทย แก่เด็กพวกนี้หรือไม่ ?
แค่คนไทยแท้ๆ ที่ไร้สัญชาติยังเป็นปัญหาเลยครับ
ที่ถูกต้องคือ เราปล่อยให้รัฐบาลช่วยเหลือไปตามหลักสากลปฏิบัติ
แต่
คนไทยไม่ควรสร้างภาพพจน์ผิด ๆ ขึ้นมา เพื่อให้ชาวโรฮิงญาในพม่าอีกหลายแสนคนเข้าใจผิด หลงคิดว่า
คนไทยต้อนรับชาวโรฮิงญา ให้มาสร้างหลักปักฐานในไทยได้
-----------------------------
หลักการวางเฉย
พระพุทธเจ้าได้สอนเรื่องอุเบกขา หรือการวางเฉยไว้ หลักการนี้ใช้ได้ในหลายเรื่องเช่นในกรณีชาวโรฮิงญา
ทำไมไม่มีประเทศไหน อ้าแขนรับชาวโรฮิงญา เลย นั่นเพราะทุกประเทศเขาย่อมห่วงจะเกิดปัญหากับประเทศของเขาตามมา
แม้แต่มาเลเซีย นับถืออิสลามเหมือนชาวโรฮิงญา แม้จะสงสารชาวโรฮิงญา แต่เขาก็ห่วงปัญหาที่จะเกิดกับประเทศของเขามากกว่าเช่นกัน
หากการไปช่วยเหลือชาวโรฮิงญา แล้วอาจต้องนำพา
ความเสียหายแก่ประเทศชาติและส่วนรวม ต่อไป
บางทีก็ต้องทำใจว่า ต้องปล่อยให้เขาเป็นไปตามกรรม เพราะเขาไม่ใช่ญาติเรา ไม่ใช่คนรู้จักของเรา ให้เราช่วยเท่าที่พอจะทำได้ เราต้องยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง
เพราะคนไทยชอบทำบุญแบบคิดสั้น จนทำให้เป็นปัญหาเดือดร้อนแก่ประเทศชาติในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น ผู้บริหารมูลนิธิหมาจรจัด ที่ได้รับการอุปถัมภํ จากหลวงตามหาบัว เคยเล่าไว้ว่า
ในอดีตเธอเหมือนคนมีกรรม เธอเห็นหมาจรจัดตามถนนหนทางเป็นไม่ได้ จะต้องนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน
สุดท้ายทำเพื่อนบ้านเดือดร้อน ทำครอบครัวเดือดร้อน ต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากหลวงตามหาบัว
ทีนี้พอเธอเดินทางไปไหน เห็นหมาจรจัด เธอจำต้องทำวางเฉยไปบ้าง และพยายามคิดว่า
หมาเขาก็มีกรรมของหมา
หากเรานำหมามาเลี้ยงอีก เท่ากับสร้าง
ความเดือดร้อนให้ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น ทำความเดือดร้อนให้มูลนิธิมากขึ้น เพราะที่มูลนิธิก็ไม่ได้รับหมาจรจัดได้มากเกินจำนวนที่รองรับได้
----------------
ทุกวันนี้ก็มีแขกบังคลาเทศ และโรฮิงญา เต็มประเทศไทยแล้ว
เคยเห็นพวกแขกเดินเข็นรถขายโรตีไหม นั่นแหละ มีทั้งบังคลาเทศ และโรฮิงญา ทั้งนั้น ส่วนพวกโรฮิงญา จะไม่บอกว่าตัวเองเป็นโรฮิงญา แต่จะบอกว่าเป็นอินเดีย หรือบังคลาเทศแทน
ตอนแรกพอเข้ามาเมืองไทย อาจทำงานรับจ้างอื่นๆ
ต่อมาพอมีเงินจะ
ขี่จักรยานขายถั่ว ต่อมาก็จะ
ขายโรตี พอเก็บเงินได้มากพอ ก็จะเริ่มปล่อยเงินกู้ให้คนไทย สุดท้ายได้เป็นเจ้าหนี้ตนไทย ฐานะคนพวกนี้จะเริ่มดีขึ้น
แล้วก็หาเมียคนไทยสักคน เพื่ออยู่ในประเทสไทยได้ เมียไทยแขกบอกหาไม่ยากหรอก
ถ้ามีเงินมากพอ
ส่วนคนไทยเป็นเจ้าของประเทศแท้ๆ สุดท้ายจนกว่าพวกแขกเสียอีก เพราะอะไรล่ะ ?
ฉะนั้นอย่าไปเชื่อไอ้เชี่ยแม้วว่า มีประชาธิปไตยแล้วจะรวย ก็ขนาดแขกมาอยู่เมืองไทยไม่กี่ปี แขกก็รวยได้แล้ว ไม่เห็นต้องพึงไอ้เชี่ยแม้วเลยครับ
จึงมีแต่คนไทยที่โง่บัดซบบางพวกเท่านั้น ที่คอยจะหวังพึ่งไอ้เชี่ยแม้ว
------------------------
ทำบุญกลับสร้างบาป
อย่าให้กรณีทำบุญแก่ชาวโรฮิงญา เป็นเสมือนการทำบุญปล่อยเต่า ที่กลับกลายเป็นสร้างบาป
(ต่อประเทศชาติ) มากกว่าได้บุญ
เพราะปล่อยเต่า กลายเป็นปล่อยให้เต่าต้องไปทุกข์ทรมานแสนสาหัสเหมือนตายทั้งเป็น ลองดูคลิปรายการช่วยคิดช่วยทำ เรื่องทำบุญปล่อยสัตว์ครับ
VIDEO
คลิกอ่าน ติดคุกมาไม่ถึง 5 ปี ได้เป็นสส. ยุคโจรครองเมือง