วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โอ๊ค โชว์โง่คดี ปรส. แถมอวยจำนำข้าวอย่างหน้าด้าน






พอสถาบัน TDRI ได้เปิดเผยผลการคำนวณตัวเลขการขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวไม่ต่ำกว่า 6.9 แสนล้านบาท ซึ่งผมเองก็เคยคำนวณไว้ประมาณนี้เช่นกัน ในบทความเก่าตั้งแต่เมื่อปี 2556 ในบทความเรื่อง แค่ 2 ปีแรก จำนำข้าวขาดทุน 4 แสนล้าน ซึ่งในบทความนั้นผมเคยคาดการณ์ไว้แล้วว่า โครงการจำนำข้าวจะขาดทุนถึง 7 แสนล้านบาทเช่นกัน

ทีนี้พอตัวเลขมันชี้ชัดด้วยการคำนวณผ่านหลักคณิตศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ อีโอ๊ค พานทองแท้ ก็เลยเดือดร้อนประหนึ่งโดนน้ำร้อนสาดเข้าใส่ จนต้องออกมาโวยวายผ่านเฟสบุ๊ค แล้วมันก็ยกตรรกะเลว ๆ มาอ้างเหมือนเดิมทำนองว่า ทีคดี ปรส. ทำความเสียหาย 8 แสนล้าน ทำไมไม่มีใครไปตรวจสอบ ทีจำนำข้าวขาดทุนแค่ 6 แสนล้าน ที่ขาดทุนก็คือเงินที่ไปสู่ชาวนาทั้งนั้น

การอ้างตรรกะแบบนี้ของอีโอ๊ค พานทองแท้ ก็เป็นการสร้างวาทะกรรมเท็จ บนตรรกะควายแดงเดิม ๆ ที่มีไว้ใช้หลอกควายแดงเท่านั้น แถมเป็นตรรกะที่มันชอบใช้เสมอ คือ ทีประชาธิปัตย์ทำเจ๊งได้ ทำไมเพื่อไทยจะทำเจ๊งบ้างไม่ได้

นี่จึงเป็นตรรกะเลว ๆ ของคนเลวโดยแท้ เพราะประเทศไทยไม่ได้มีแค่พวกชอบ ปชป. หรือ เพื่อไทย เท่านั้นนะโว้ย

กูเองก็เกลียดประชาธิปัตย์ แต่กูก็เกลียดพ่อมึงและอามึงอีปูมากกว่าว่ะ เพราะพวกมันสารเลวเกินคนจริง ๆ

-----------------

ก่อนอื่น เรามาดูส่วนหนึ่งของข้อความที่อีโอ๊ค พานทองแท้โพสเรื่องนี้ในเฟสบุ๊คสักนิดก่อน ตามนี้ครับ

"..พวกพาหะเหล่านี้ ถ้ารักประเทศชาติจริง ทำไมไม่ออกมากดดัน ป.ป.ช.ให้หยิบคดีปรส. ที่กำลังจะหมดอายุความมาสั่งฟ้องละครับ จำนำข้าวบอกขาดทุน 6 แสนล้าน จริงๆเงินไม่ได้ขาดทุนไปไหน ก็ไปอยู่ในมือชาวนาเกวียนละหมื่นห้าไงครับ หลวงขาดทุนเท่าไหร่ ชาวนาก็กำไรเท่านั้น ชาวนาปลูกข้าวให้เรากินมาทั้งชีวิต ถึงเวลาตอบแทนกันได้ ก็ควรจะให้เขาลืมตาอ้าปากได้ครับ

ลองมาดูคดีปรส.บ้างครับ ขาดทุน 8 แสนกว่าล้าน เงินไปอยู่ในมือต่างชาติ กับนักการเมืองหน้าซื่อใจโกงทั้งหมด ชาวบ้านไม่ได้อะไรแม้แต่บาทเดียว ทำไมไม่โวยให้ตรวจสอบกันหละครับ พี่น้องผู้ผูกขาดความรักชาติทั้งหลาย


บ้านเมืองจะสงบได้ ต้องคืนความยุติธรรมให้ทุกฝ่ายเท่านั้น อย่าตกเป็นเครื่องมือให้พวกขี้แพ้ทางการเมือง มาเอาเปรียบคนอื่นเลยครับ"
ข้อความเฟสบุ๊คที่โอ๊คโพสพร้อมรูปนี้

คลิกที่รูปเพื่อไปดูที่โอ๊คโพสทั้งหมด



-----------------------

มูลค่าคดี ปรส. 8 แสนล้าน คืออะไร ?

บทความนี้ผมจะไม่อธิบายให้ยืดยาว ให้เข้าใจยาก

มูลค่าคดี ปรส. 8 แสนล้าน คืออะไร ?

มันก็คือ มูลค่าสถาบันการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ที่เจ๊งทั้ง 56 บริษัทในวิกฤติต้มยำกุ้งไงครับ ซึ่งมูลค่าจริง ๆ ไม่ถึง 8 แสนล้านหรอก ที่มันอ้างแปดแสนล้านบาท คือมูลค่าสินทรัพย์เดิมของบริษัทพวกนี้ถือครอง เช่น มูลค่าที่ดินที่บริษัทพวกนี้ถือครองก่อนการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ซึ่งมันราคาสูงเว่อร์ จากกระแสเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์จนเกิดฟองสบู่เศรษฐกิจ

แต่พอเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ 40 แล้ว สินทรัพย์เดิมมันก็กลายเป็นหนี้เน่าเสียส่วนใหญ่ มูลค่าตัวเลขสินทรัพย์เดิมมันราคาตกลงไปกว่านั้นมากมายแล้ว เช่นที่ดินก่อนวิกฤติต้มยำกุ้งมีราคา 1 ล้านบาท แต่พอเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งแล้ว ที่ดินที่เดิมก็เหลือราคาแค่ 3 แสนบาทเท่านั้น

เหมือนกรณีตัวอย่าง ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ(BBC) เจ๊งนั่นแหละ ที่พวกผู้บริหารธนาคารปล่อยกู้ 5 ล้านบาทให้พรรคพวกตัวเอง กับสินทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้เป็นที่ดินแค่ 5 แสนบาทเท่านั้น


เหตุการณ์หนี้เน่า ๆ มากมายแบบ ธ.BBC ก็เกิดขึ้นในบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 56 บริษัทเช่นกัน

ดังนั้นที่มันอ้างมูลค่า ปรส. 8 แสนล้าน คือมูลค่าสินทรัพย์ 56 บริษัทก่อนเกิดต้มยำกุ้งบวกกับหนี้เน่าที่บริษัทพวกนี้ก่อขึ้น

แถมพอเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งขึ้น จากเดิมค่าเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 25 บาทต่อดอลล่าห์ ก็กลายเป็น 50 กว่าบาทต่อดอลล่าห์ มูลค่าหนี้เน่าที่บริษัทหลักทรัพย์พวกนี้กู้เงินมาจากต่างประเทศที่ดอกเบี้ยถูกกว่า แล้วมาปล่อยกู้ให้หนี้เน่า ๆ ในไทย

พอเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งขึ้นมา หนี้ต่างประเทศมันเลยพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่า ตัวเลขหนี้มันก็เลยพุ่งขึ้น 2 เท่าตามไปด้วย มูลค่าหนี้เน่ารวมสินทรัพย์เดิมก็เลยสูงขึ้นไปจนมีมูลค่ารวม 8 แสนล้านบาท

แปลง่าย ๆ คือ หนี้ดีเช่นสินทรัพย์ที่บริษัทพวกนี้ถือครองมีมูลค่าลดลงมากกว่าเดิม กว่า 2 เท่า แต่หนี้เน่าที่บริษัทพวกนี้ก่อไว้กลับมูลค่าพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมไม่ต่ำกว่า 2 เท่า


ถามว่า มีหนี้เน่า 8 แสนล้าน คุณจะขายทรัพย์สินนั้นให่ได้ 8 แสนล้านบาท มันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะมันคือหนี้เน่าไงครับ

เปรียบเสมือน คุณไปกู้เงินมาทำกิจการนับร้อยล้านบาท สุดท้ายบริษัทคุณเจ๊งนับพันล้านบาท ถามว่า เอาสินทรัพย์ของบริษัทของคุณไปขายทอดตลาด แล้วมันจะได้ทรัพย์มากถึงพันล้านบาทได้ยังไง เพราะมันคือหนี้เน่า

ดังนั้น วาทะกรรมเท็จ คดี ปรส. 8 แสนล้านบาท จึงเป็นวาทะกรรมเท็จที่พวกอีโอ๊คเอาไว้หลอกควายแดงที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เป็นมูลค่าที่เว่อร์กว่าความเป็นจริง !!

และการขายทอดตลาดของ ปรส. ในครั้งนั้นก็ได้เงินมาประมาณ 2 แสนล้านบาท จากมูลค่าสินทรัพย์เดิมก่อนวิกฤติเศรษฐกิจประมาณ 8 แสนล้านบาท ถ้าจะมั่วโมเมว่า เสียหาย ก็ควรอ้างความเสียหายที่ 6 แสนล้านบาทเท่านั้น (8แสนล้าน - 2แสนล้าน = 6 แสนล้าน)

ไม่ใช่เอาแต่โกหกว่าเสียหาย 8 แสนล้านบาทมาโดยตลอด

แต่ถ้าถามความเห็นผม คือ ถ้าเอาหนี้เน่าจำนวนมาก มาหักกับ สินทรัพย์เดิมที่ราคาเคยสูงเว่อร์กว่าความเป็นจริง แล้วยังขายทรัพย์สินได้ 2 แสนล้านบาท ก็ยังดูสมเหตุสมผลอยู่นะ

ส่วนประเด็นมีนโยบายเอื้อประโยชน์ต่างชาติมากเกินไปหรือไม่ อันนี้ก็ว่าตามคดีกันไป ผมแค่อธิบายที่มาที่ไปของมูลค่า 8 แสนล้านเท่านั้น


ส่วนผู้เกี่ยวข้องกับคดี ปรส. คือ นายอมเรศ ศิลาอ่อน ประธาน ปรส. ในคดีที่ทำความเสียหายให้ประเทศนั้น ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องคดีนี้แล้วเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ที่ผ่านมาครับ

โดยหลังฟังคำพิพากษา นายอมเรศ อดีตประธาน ปรส.ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับบุตรชายได้กล่าวด้วยสียิ้มแย้ม ยืนยันว่า "การปฏิบัติหน้าที่ใน ปรส.ดังกล่าว ไม่ได้ทำให้เอกชนได้รับความเสียหาย เพราะสินทรัพย์ที่เอามาขายเป็นสินทรัพย์ ที่ไม่ได้มีราคาแล้ว ซึ่งจะขายให้เท่าราคาทุนเป็นไปไม่ได้้ ยืนยันการจัดประมูลขายครั้งนั้น ไม่มีการกำหนดเทคนิค หรือ เลี่ยงการจัดเก็บภาษี ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนตามที่มีการกล่าวหา"

คลิกอ่านข่าว ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนายอมเรศ ศิลาอ่อน คดี ปรส.


ที่สำคัญ ความเสียหาย 8 แสนล้านบาทนั้น จริง ๆ แล้วมันคือผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจ 40 จากการบริหารที่ผิดพลาดในการพยุงค่าเงินบาทของรัฐบาลชวลิต ที่มีทักษิณเป็นรองนายกฯ นั่นแหละครับ

ดังนั้นต้นเหตุความเสียหายจนไทยเราต้องกู้ไอเอ็มเอฟ และจนเกิด ปรส. ขึ้นมา ก็มาจากรัฐบาลชวลิตก่อให้เกิดขึ้นนั่นแหละ

คลิกอ่าน ใครกู้ IMF ใครปลดแอก IMF ใครผลาญเงินเอาหน้า

------------------

อีโอ๊ค อ้างชาวนาบังหน้า

โครงการจำนำข้าว มีชาวนาส่วนน้อยที่ได้ประโยชน์ เพราะชาวนาส่วนใหญ่ของไทยไม่ได้เข้าโครงการจำนำข้าว แต่ตัวเลขการรับซื้อข้าวกลับมีตัวเลขที่มากขึ้นกว่าในอดีต นี่คือ มีการทุจริตในการรับซื้อข้าวแน่นอน นั่นคือ ทั้งการสวมสิทธิ ทั้งการเวียนเทียนข้าว ทั้งการใช้ข้าวต่างด้าวมาเข้าโครงการนี้

มันคือการโกงอย่างบูรณาการ คือ โกงทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จึงตามจับคนผิดยาก เพราะมันมีการร่วมมือโกงทุกขั้นตอน จนเสมือนไม่มีการโกงเกิดขึ้น

การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์รับซื้อข้าวเปลือก1ตัน (500 us.dollars) มาในราคาแพงกว่าราคาข้าวสาร1 ตัน (450us.dallars)ในตลาดโลก แล้วขายไม่ออก นี่คือหายนะ

เพราะรัฐบาลปูข้าวเน่า มันใช้อำนาจการเป็นรัฐบาลบีบบังคับให้ ธกส. ปล่อยเงินกู้มาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวนี้ เปรียบเสมือนคือ แชร์ลูกโซ่ ที่นักการเมืองพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้ามือด้วยการใช้อำนาจรัฐ ตั้งวงแชร์ลูกโซ่รับจำนำข้าวนี้ แล้วก็รอวันเจ๊งในที่สุด

แต่โชคดีที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยุบสภาเสียก่อน หนี้เน่าเลยชะลอความเสียหายลง จนเกิดรัฐประหาร คสช. เพื่อมาปิดบัญชีโครงการหายนะจากจำนำข้าวนี้ แต่ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวยังไม่หยุด เพราะข้าวค้างโกดังเริ่มเสื่อมสภาพ

ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังมีอำนาจอยู่ มูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนล้มเหมือนแชร์ลูกโซ่ คือกู้มาโปะ มาโปะ เรื่อย ๆ เพราะข้าวขายไม่ออก จนเจ๊งในที่สุด 

เงินจำนำข้าวมันแค่มาผ่านมือชาวนานิดหน่อย แต่เงินส่วนใหญ่กลับไปตกอยู่กับนายทุนการเกษตรค้าปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์พืช และโรงสี รวมทั้งหายนะจากการขาดทุนในการซื้อข้าวทั้งนั้น

ซึ่งถ้าคนรักชาติรักแผ่นดินไม่คลั่งประชาธิปไตยแบบโง่ ๆ จะเข้าใจที่ผมอธิบายสั้น ๆ นี้

ผมคงไม่อธิบายเรื่องความเลวของจำนำข้าวในบทความนี้ให้ยืดเยื้อ เพราะเขียนมาหลายบทความแล้ว

ที่แน่ ๆ อยากจะบอกไอ้คนไทยหน้าโง่สาวกไอ้แม้วอีปูว่า

"ทุกวันนี้คนไทยกินข้าวแพงกว่าราคาข้าวส่งออก ทั้ง ๆ ที่ไทยเราปลูกข้าวได้เหลือเฟือ แต่คนไทยต้องแดกข้าวแพงกว่าที่ส่งไปขายต่างประเทศ ไม่ต่างอะไรกับราคาน้ำมัน ที่คนไทยต้องซื้อน้ำมันแพงกว่าพม่าที่นำเข้าน้ำมันจากไทย เหตุเพราะพ่ออีโอ๊คมันแปรรูป ปตท. นั่นแหละ"

ขอสรุปว่า อีโอ๊ค มันรู้ว่า ยังมีคนไทยโง่ๆ หลงเชื่อมันอีกเยอะ มันเลยกล้าโพสโง่ ๆ แบบนี้มาหลอกพวกโง่จำนวนมากในประเทศนี้ 


คลิกอ่าน ทำไม ปรส. ไม่แยกหนี้ดีออกจากหนี้เสีย และความโง่ของโอ๊ค

คลิกอ่าน แซน หลานทักษิณ ถามเรื่อง ปรส. - พิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุลมาตอบให้

คลิกอ่าน ใครคือนต้นเหตุวิกฤติเศรษฐกิจ 40 สาเหตุวิกฤติต้มยำกุ้ง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^