วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

กรณีถุงยังชีพ เรืองไกรไม่มีทางชนะประชาธิปัตย์!!

-->




นายเรืองไกร อดีตสว.สรรหา(เรื่อง) ยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ดำเนินการเอาผิดพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีรับเงินบริจาค สิ่งของบริจาคและถุงยังชีพ จากข่าวมติชนตามนี้

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 62 ประกอบมาตรา 73 ยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีพรรคประชาธิปัตย์อาจกระทำการเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 65, 71, 82 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง จากการเปิดศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 เพื่อรับบริจาคการสนับสนุนจากประชาชน ภาคเอกชน มีลักษณะการรับบริจาคบางส่วนที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 71 

โดยมีข้อเท็จจริงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าได้รับของบริจาคจากหน่วยราชการ คือ กระทรวงพลังงาน เป็นถุงยังชีพจำนวน 500 ถุง ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดอยู่ในการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ ผ่านรายการฟ้าวันใหม่ทางช่อง บลูสกาย

นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า ในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีการเผยแพร่รูปภาพกิจกรรมการแจกของช่วยน้ำท่วม ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยมีรูปหนึ่งเห็นชัดเจน มีโลโก้และชื่อพรรคประชาธิปัตย์ปรากฏอยู่ทางด้านขวาของรูป ตรงกลางรูปมีภาพนายอภิสิทธิ์ นพ.วรงค์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมอยู่ด้วย ดังนั้น ถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน ที่รับมาจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงเป็นทรัพย์สินที่คำนวณเป็นเงินได้ ตามความหมายของ "การบริจาค" ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 4 บัญญัติไว้ ดังนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพรรคการเมืองไม่สามารถรับบริจาคจากหน่วยราชการได้ ย่อมเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 71 ประกอบมาตรา 65 ถือว่าการกระทำสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนยุบพรรคต่อไป



------------------------------

มาดูมาตราต่างๆในพรบ.พรรคการเมืองกันไปพลางๆก่อนครับ

จากที่สว.เรืองไกรอ้างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตราต่างๆ ในส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดนั้น มีอยู่ตามนี้คือ

มาตรา ๔ ว่าด้วยการบริจาค

“การบริจาค” หมายความว่า การให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่พรรคการเมือง เพื่อการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง หรือของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามข้อบังคับพรรคการเมือง

มาตรา ๖๕ ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

มาตรา ๗๑ ห้ามมิให้หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ นิติบุคคลที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดในประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง บริจาคแก่พรรคการเมือง

มาตรา ๘๒ พรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุนต้องใช้จ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในส่วนนี้ และส่วนที่ ๕ การใช้จ่ายของพรรคการเมือง และจะต้องจัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป และให้นำความในมาตรา ๔๒ วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม

คุณผู้อ่านลองอ่านเล่นๆไปก่อน แล้วลองคิดว่าจากข่าวด้านบนกับกฏหมายมาตราต่างๆที่เรืองไกร ยกมาอ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำความผิดนั้น

พรรคประชาธิปัตย์ผิดจริงหรือไม่?

(คลิกอ่านรายละเอียดพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่นี่)

-----------------------

คำตอบคือ...??

ถ้าอ่านผ่านๆแบบไม่คิด เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เสร็จแหงๆ

แต่ถ้าผมเป็นศาล คดีนี้ตัดสินไม่ยากเลยครับ

เพราะคำตอบคือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าข่ายความผิดในมาตราใดๆเลย

สาเหตุก็เพราะ ตามพรบ.พรรคการเมืองนั้น เจตนารมณ์ของกฏหมายก็คือเฉพาะเรื่องการบริจาคให้พรรคการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น

แต่กรณีพรรคประชาธิปัตย์เปิดรับสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยนั้น

เจตนาของผู้ใจบุญทุกคน เขามาเพื่อบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยผ่านทางพรรคการเมือง ผู้ใจบุญเขาไม่ได้มาบริจาคสิ่งของให้พรรคการเมืองเอาไว้ใช้เองสักกะหน่อย

เพราะเจตนารมณ์ของกฏหมายพรรคการเมือง มีไว้เอาผิดพรรคการเมืองและนักการเมืองที่รับของบริจาคเข้าพรรคหรือเข้าตัวนักการเมืองไว้เอง จนเกินข้อกำหนดของกฏหมาย

แต่กรณีรับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม พรรคการเมืองเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น พรรคการเมืองไม่ได้รับสิ่งของไว้ใช้เอง

ฉะนั้น กรณีถุงยังชีพและสิ่งของบริจาคที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดรับนั้น จึงไม่เข้าข่ายความผิดของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในมาตราใดๆเลยครับ

เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เขาประกาศว่า รับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ประกาศรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์สักหน่อยครับ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ การที่บริษัทห้างร้านต่างๆที่เขาไปบริจาคสิ่งของกันที่ช่อง3 แล้วคุณสรยุทธ ออกมายืนรับมอบนั้น

ถามว่า ผู้บริจาคเขามาบริจาคสิ่งของและเงินให้ช่อง3กับคุณสรยุทธ 
หรือเขามาบริจาคสิ่งของให้ผู้ประสบภัย ?!




สรุปก็คือ นายเรืองไกรโชว์โง่!! อีกแล้วครับท่าน


คลิกอ่าน เรืองไกรไม่มีทางชนะ กรณีฟ้องรัฐบาลมาร์คกักน้ำ!!



1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ12 มกราคม 2555 เวลา 18:50

    .......
    (ไม่มีคำบรรยายสำหรับความเขลาเบาปัญญา)

    ตอบลบ

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^