จากกรณีพลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร ไปจัดงานมวยไทยที่มาเก๋าแล้วให้ทักษิณเป็นประธานเปิดการแข่งขัน ที่ต่อมา ก็เป็นการแอบอ้างใช้ถ้วยพระราชทานโดยที่ยังไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตนั้น
ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด รีบออกมาตอแหลทันทีว่า ทักษิณไม่ได้พูดเรื่องการเมือง พูดแต่เรื่องกีฬาล้าน ๆ ตามนี้
ยิ่งลักษณ์ พูดว่า
“คงต้องถามว่าประเด็นที่เป็นห่วงมีอะไรบ้าง เพราะเท่าที่ทราบเนื้อหาก็เกี่ยวกับกีฬา การพูดจาของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรที่ไปกระทบ จริง ๆ แล้วต้องถือว่าอะไรที่เป็นสิ่งดี ๆ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกีฬา ทุกคนก็ต้องทำได้ ดิฉันเองก็ต้องให้ฝ่ายรายการเป็นผู้พิจารณาตัดสิน เราคงไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ทุกเรื่อง ต้องขอเรียนว่าไม่ว่าเป็นใคร ถ้าทำในเรื่องของกีฬา หรือทำในสิ่งที่ไม่ได้เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศก็ทำได้”
ทีนี้ ลอง,kดูที่ทักษิณมันพูดซิว่ามันเกี่ยวกับกีฬาตรงไหน หรือเกี่ยวกับมวยไทยตรงไหน ?
หลังจากทักษิณกล่าวถวายพระพร และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสดุดีมหาราชาแล้ว ก็ได้เริ่มพูดเรื่องของตัวเองตามนี้
"ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณพล.อ.ชัยสิทธิ์ และพ.ต.ท.บุญชัย ประจวบเหมาะ ที่ทำให้พี่น้องชาวไทยในต่างแดนได้มีโอกาสได้เทิดพระเกียรติ ให้เกียรติผมมาเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ ทั้งนี้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อให้คนไทยมารวมตัวกันเพื่อแสดงความจงรักภักดี แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเพื่อถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร่วมกันอีกครั้ง เมื่อวันพุธที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา พสกนิกรที่อยู่ในประเทศไทยได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านที่ได้ทรงออก ณ มหาสมาคมสิงหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมกันนี้ก็มีประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญร่วมกัน
ถึงแม้นว่าผมจะไม่มีโอกาสเข้าร่วมในพิธี แต่ก็ได้ดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ที่ยุโรป แต่ขณะที่ดูผมก็นึกย้อนไปถึงวันพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2549 ซึ่งพระบาทพระสมเด็จพะเจ้าอยู่หัวทรงออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมรับการถวายพระพร เช่นเดียวกันกับปีนี้"
"ภาพที่ผมเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อครั้งปี 2549 กับภาพที่เห็นทางทีวีเมื่อวันก่อนเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ระยะเวลาห่างกันถึง 6 ปี ภาพที่เห็นมิได้แตกต่างกันเลยแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์พระองค์ท่านทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติอย่างแท้จริง เมื่อครั้งปี 2549 นั้น ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ได้มีโอกาสกล่าวนำถวายพระพรและได้ร่วมเข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าผมจะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร และคณะปฏิวัติก็ได้ตั้งกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์กับผมมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินคดี จนกระทั่งมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ
ซึ่งผมและผู้คนอีกจำนวนมากมิอาจยอมรับในกระบวนการอันไม่ยุติธรรมของ คตส.นี้ได้ ทำให้ผมจำต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่เมืองไกล แต่ผมไม่เคยลืมเลยว่าตัวเองได้เกิดมาเป็นคนไทย จึงมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอยืนยันว่ามีการกล่าวหาผมมาตลอดในช่วงหลายปีว่าผมไม่มีความจงรักภักดีต่าง ๆ นานานั้น ล้วนแล้วแต่ไม่มีมูลความจริงเลย เป็นเพียงการกล่าวอ้างของฝ่ายตรงข้ามเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือเอาชนะทางการเมืองเท่านั้น
แม้กระทั่งล่าสุดมีการนำคลิปที่เป็นเสียงผมในงานม็อบเสธ.อ้าย เมื่อไม่มีกี่วันที่ผ่านมานั้นเป็นการตัดต่อแบบไร้เทคนิค ขอยืนยันว่าคลิปนี้ไม่เป็นความจริง เพราะผมเหมือนคนไทยทุกคนที่เรารักและเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวฯ วันมหามงคลนี้ผมขอให้พวกเราร่วมกันทำความดีถวายในหลวงด้วยการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ และทุกคนมีสมานสามัคคี ไม่ทะเลาะไม่แบ่งฝ่าย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองในกรอบของกฎหมายและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงามเพื่อถวายเป็นราชสักการะ"
---------------------------------
ทักษิณสั่งทำประชามติ ยิ่งลักษณ์รับลูกตามคำสั่งทันที
ยิ่งลักษณ์หาเรื่องหนีนักข่าวมาหลายวัน เพราะกลัวโดนถามเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แต่พอทักษิณสั่งการมาปุ๊บ อีโพยหุ่นเชิดก็รับคำสั่งทันที
ทักษิณ พูดที่ฮ่องกงว่า
"ปีหน้าการเมืองไทย จะเห็นเริ่มการปรองดองในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยนายกฯยิ่งลักษณ์ จะแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการทำประชามติเพื่อฟังเสียงประชาชน ซึ่งเห็นว่าการทำประชามติจะเป็นการรับฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ตามประชาชน เรา ไม่ห่วงเรื่องประชามติว่าจะมีเสียงเพียงพอ ขอให้ประชาชนมีส่วนร่วม รัฐบาลพร้อมที่จะทำตาม"
ยิ่งลักษณ์ตอบคำถามนักข่าว หลังจากทักษิณพูดที่ฮ่องกงทันที
"ก็ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งได้มีข้อเสนอให้มีการขอความคิดเห็นประชาชนผ่านการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการทั้งหมด ต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณา โดยย้ำว่าต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดในการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้มี 2 แนวทาง คือ การทำเวทีประชาเสวนา และการทำประชามติก่อนจะมีการลงมติโหวตผ่านวาระ 3 มาตรา 291 ต่อไป
ทั้งนี้รัฐบาลยังมีความห่วงใยกระแสความไม่เข้าใจกัน แต่เชื่อว่าหากให้ประชาชนมีส่วนร่วมแล้ว จะลดความขัดแย้งในบ้านเมืองลงได้ ซึ่งส่วนตัวและรัฐบาลเองก็ต้องการให้เกิดความสงบ โดยน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม มาปฏิบัติ"
----------------------------
ทักษิณยังพูดถึงเรื่องที่ตะกวดได้ไปออกช่อง 11 ว่า
"ฝ่ายค้านในประเทศไทยนั้น เกรงกลัวตนเองมาก เพียงแค่ตนปรากฏตัวทางฟรีทีวีก็ทำเหมือนจะเป็นจะตาย"
ฮ่าๆๆ ไอ้ทักษิณนี่หลงตัวเองจริง ๆ มันคิดว่า คนอื่นเขากลัวมัน ทั้ง ๆที่ ความจริงไม่มีใครเขากลัวมันเลย ไม่เชื่อตะกวดแม้วมึงก็ลองกลับมาไทยดูดิ
ก็ช่องฟรีทีวีทุกช่อง เขารอถ่ายทอดสดทักษิณเดินเข้าคุกไง รับรองฝ่ายค้านจะชักดื้นชักงอแน่ ถ้าเห็นทักษิณเข้าคุก ก็หัวเราะงอหายชักดิ้นชักงอกันทั้งพรรคประชาธิปัตย์เลย
รีบๆ กลับมาเลยดิ หรือว่ามึงปอดแหก ไอ้หน้าตัวเมียทักษิณ!!
คลิกอ่าน ก็แค่ตะกวดแม้วออกช่อง 11 แค่นั้น
มันดีดดิ้น จุ้นจ้าน
ตอบลบ