วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ฆ่าเวลาบาปยิ่งกว่าฆ่านปช.& พบพระพุทธเจ้าจงฆ่าเสีย






เฮ่อ.. ขึ้นชื่อว่า พวกโง่มันก็โง่ซ้ำซากจนน่าสมเพชจริง ๆ

พวกนปช. หรือที่ผมเรียกว่า พวกฟายแดง นั้น ออกมาโจมตีท่านว.วชิรเมธี กล่าวหาว่า ท่านว. เคยสอนลงทวิสเตอร์ว่า "ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน"

นี่คือความโง่สถุลของพวกนปช. ฟายแดงแท้ๆ ที่เป็นพวกฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด เพราะคำที่ท่านว.วชิรเมธี เคยเขียนจริงๆ ที่ถูกต้อง คือประโยค "ฆ่าเวลาบาปไม่น้อยกว่าฆ่าคน"

ความหมายมันต่างกันนะครับระหว่าง "ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน" (ผิด) กับ "ฆ่าเวลาบาปไม่น้อยกว่าฆ่าคน" (ถูกต้อง)

พวกที่จิดใจโสมมต่ำช้าอย่างพวกนปช. ย่อมไม่อาจเข้าใจปริศนาธรรมได้

เพราะพวกนี้มันฝักใฝ่หลักการคอมมิวนิสต์ แต่ดันหลงผิดคิดเข้าใจไปเองว่า นี่คือหลักการประชาธิปไตย นั่นเพราะความโง่ของพวกนปช.โดยแท้

พวกนปช. มันดันตีความไปว่า ท่านว.วชิรเมธี เห็นดีกับการฆ่าประชาชนในช่วงปี 53



"องคุลีมาล ฆ่าคนมาเป็นร้อย ก็ยังสามารถบรรลุธรรมได้ เพราะท่านหันมาฆ่ากิเลสในใจจนสิ้นได้"

หากคนเราปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ เช่นนั่งหายใจทิ้งฆ่าเวลาไปวันๆ ก็ย่อมไม่มีทางฆ่ากิเลสในใจตนเองได้ ก็ย่อมจะไม่มีทางพ้นไปจากสังสารวัฏได้

ฉะนั้น จงอย่าเสียเวลาในการพิจารณาธรรม

คำพูดที่เป็นปริศนาธรรม จะให้ตีความแบบตรงๆ ดื้อๆ โง่ๆ คงไม่ได้ ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่พวกฟายแดงจะตีปริศนาธรรมของท่านว.วชิรเมธี ไปแบบโง่ๆ เช่นนั้น

เพราะถ้าฟายแดงมันรู้จักและเข้าใจปริศนาธรรม พวกมันก็คงไม่ใช่พวกฟายแดงอย่างที่เป็นอยู่ เพราะมันจะเริ่มกลายเป็นคนมากขึ้นแล้ว มันก็คงเริ่มหายโง่ หายสถุลแล้ว

ฉะนั้น ผมทิ้งปริศนาธรรมไว่ให้พวกนปช. เอาไปคิดระหว่างเคี้ยวเอื้องว่า

"ฆ่าเวลาบาปยิ่งกว่าฆ่า นปช. "

ลองเอาตีนก่ายหน้าผาก แล้วเคี้ยวหญ้าสัก3 กำดูนะพวกฟายแดง ว่ามันหมายความว่าอย่างไร ?? 555




---------------------------------------

ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป

พระกิตติวุฒโฒ เคยกล่าวปริศนาธรรมว่า “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป” ในยุคสถานการณ์ภัยคอมมิวนิสต์ในไทยยังคุกกรุ่นอยู่

หากใช้สมองของฟายแดงตีความ มันก็จะต้องแปลว่า พระกิตติวุฒโฒ สอนให้ไปฆ่าพวกคอมมิวนิสต์ อย่างไอ้เหวง ไอ้สมศักดิ์เจียม แน่ ๆ

แต่ความจริงปริศนาธรรมที่ว่า "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" ไม่ได้แปลว่า ให้ไปฆ่าคนที่เป็นคอมมิวนิสต์ แต่ท่านหมายถึง ให้ผู้ที่ฝักใฝ่แนวคิดมาร์กซิสต์ จงฆ่าแนวคิดคอมมิวนิสต์ออกไปเสีย

เพราะแนวคิดคอมมิวนิสต์ในยุคแรกคือการปฏิเสธเรื่องศาสนา คอมมิวนิสต์ยุคแรกๆ จึงห้ามคนนับถือศาสนา

----------------------------------------

พบพระพุทธเจ้าจงฆ่าเสีย

ปริศนาธรรมนี้ลึกซึ้งขึ้นไปอีกขั้น หากใครไม่ได้ฝึกฝนพิจารณาธรรมมาพอควร ย่อมจะตีความปริศนาธรรมนี้ไม่แตก

การตีความจากความรู้ความเข้าใจของตนเองนั้น ย่อมแตกต่างจากการไปการค้นหาความหมายจากแหล่งอื่น

ผมเห็นว่า มีหลายคนหลายแห่งตีความปริศนาธรรม พบพระพุทธเจ้าจงฆ่าเสีย กันแล้ว แต่มักอธิบายแบบอ่านเข้าใจยากกันทั้งนั้น

ผมเลยขอโอกาสตีความในแนวทางของผมสักนิด คือ

บางคนศึกษาธรรมจนเข้าขั้นที่ว่า พระไตรปิฎกเดินได้ แต่เขาก็ไม่อาจบรรลุธรรมได้ ดั่งเช่น พระโปฐิลเถระ ในสมัยพุทธกาล ได้สอนให้พระอื่นๆ บรรลุอรหันต์ได้มากมาย แต่ตัวเองกลับไม่สามารถสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้

ในขณะที่ผู้บรรลุธรรมบางคน แทบไม่เคยศึกษาพระไตรปิฎก แต่กลับบรรลุธรรมได้

วิปัสสนูปกิเลส คือสภาวะที่ผู้ปฏิบัติธรรมหลงผิด หลงเข้าใจว่าตนเองได้บรรลุธรรมแล้ว เป็นอรหันต์แล้ว

ในช่วงที่ผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานไปถึงระดับหนึ่ง บางครั้งจะเกิดสภาวะโล่ง เบา สบาย อย่างที่ตัวเองไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน

ต่อมาในขณะปฏิบัติสมาธิวิปัสสนานั้น ก็เกิดนิมิตลวง เช่น พบพระพุทธเจ้ามาปรากฏขึ้นในนิมิต  และพระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสยืนยันแก่บุคคลนั้นว่า ตนเองนั้นได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์แล้ว

ผู้ใดที่หลงติดนิมิตและสภาวะสุขนั้น ย่อมไม่อาจบรรลุธรรมได้จริง

ครูบาอาจารย์วิปัสสนาจึงสอนว่า หากพบพระพุทธเจ้ากลางทางจงฆ่าเสีย

จึงหมายถึง จงอย่ายึดติดในนิมิตที่พระพุทธเจ้ามาปรากฎ จงตัดทิ้งไปเสีย มิเช่นนั้นจะไม่มีทางบรรุลธรรม

-----------------------------------

ฉีกพระไตรปิฎก

ไม่ได้แปลว่า สอนให้ไปฉีกพระไตรปิฎกทิ้ง จริง ๆ

แต่หมายถึง ให้ปล่อยวางจากการยึดติดในตำราลง แต่เรียนเพื่อให้รู้ แล้วนำไปพิจารณาธรรมต่อด้วยตนเอง

เพราะผู้ที่เอาแต่อ่านพระไตรปิฎก ย่อมไม่มีทางบรรลุธรรม หากยังไม่ลงมือปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเอง


-----------------------------

ปริศนาธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด !!

พระพุทธเจ้าตรัสแก่องคุลีมาลว่า "เราหยุดแล้ว ท่านต่างหากที่ยังไม่หยุด"

นี่คือปริศนาธรรม ที่ผมคิดว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าทีผมเคยรู้จักครับ


คลิกอ่าน แก้มาตรา309 ทักษิณมีไว้หลอกฟายแดง






4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2556 เวลา 16:19

    การใช้คำพูดแบบยกตัวเองแต่ทำให้พระพุทธเจ้าเสียหายด้วยคำพูดเช่นนี้ไม่สมควรเลย วิธีพูดที่ดีมีมากที่ไม่เป็นการลบหลู่พระองค์มีตั้งมากมายทำไมไม่เอามา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คำพูดแบบนี้ ไม่ได้ลบหลู่ตรงไหนครับ ผมว่าคุณไปศึกษาใหม่นะครับ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ13 พฤษภาคม 2558 เวลา 16:48

    อ่านแนวคิดของเจ้าของบล็อคแล้วอยากทราบว่าท่านบรรลุธรรมหรือยัง
    การยกตนข่มคนอื่น การแยกเขาแยกเราแบบยึดตัวยึดตนแน่นขนาดนี้
    เป็นได้แต่เพียงผู้มีความรู้ ยังห่างไกลจากผู้รู้มากนัก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าบรรลุธรรม ผมคงไม่มาเขียนอะไรแบบนี้หรอกครับ

      และคุณกล่าวถูกแล้ว ผมยังยึดติดอยู่เยอะ

      และผมไม่ใช่ผู้มีความรู้ หรือ ผู้รู้อะไรทั้งสิ้น ผมก็แค่อยากเขียน อยากเล่า แบบที่ตัวเองคิดเท่านั้น

      ลบ

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^