วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความใฝ่ฝันและสปิริตของตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร







หลังจากคุณตั๊น จิตภัสร์ ได้ประกาศว่าได้เปลี่ยนนามสกุลจากภิรมย์ภักดี มาใช้นามสกุลของแม่แทน คือราชสกุล กฤดากร แล้ว

ล้วนมีแต่คนชื่นชมยกย่องเธอ ที่เธอยืนหยัดรักษาอุดมการณ์ปกป้องชาติ และสถาบันกษัตริย์มากกว่าเห็นแก่ตระกูลภิรมย์ภักดี

"ชาติ ต้องมาก่อน ตระกูล"

แน่นอน นามสกุล กฤดากร เป็นราชสกุลสายรัชกาลที่ 4 ซึ่งสามารถภูมิใจได้เลยว่า นี่คือสายเลือดแห่งราชนิกูล ความภาคภูมิใจย่อมไม่น้อยกว่าการใช้นามสกุลภิรมย์ภักดี แน่นอน

หากย้อนกลับไปในวันที่คุณตั๊น ยังดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรี

คุณตั๊น เคยพลาดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นำปฏิทินลีโอไปแจกที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออกจากตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี



ไทยรัฐเคยสัมภาษณ์เธอว่า 

จากวันที่แจกปฏิทินหวิวลีโอ จนมีเรื่องมีราวมากมาย และนำมาสู่การประกาศลาออกจากตำแหน่ง (ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ไม่เคยเห็นออกมาแก้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ที่ไหน

ตั๊น "ใช่ค่ะ จริงๆ เรื่องมันเกิดขึ้นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราไม่ได้ระวังตัว ตั๊นเป็นคนที่ว่าง่ายๆ สนิทกับใครเราก็จริงใจไม่ได้คิดอะไร แต่พอเกิดก็เป็นบทเรียน ต้องระวัง ซึ่งจะไปโทษใครไม่ได้ เพราะว่าไม่ใช่ความผิดใคร เป็นความผิดเราเอง บทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันทำให้เราเรียนก็รู้ว่าการกระทำของเรามันทำให้ผู้ใหญ่หลายคนเดือดร้อน ตั๊นก็รู้สึกว่าผิดไปกับท่านทั้งหลายที่ให้โอกาสมาอยู่ตรงนี้ ดังนั้น จากวันนั้นสัญญากับตัวเองว่า ต่อจากนี้ไปจะไม่ทำแบบนั้นอีก จะต้องระวังตัวเองและเป็นผู้ใหญ่ให้มากกว่านี้ หัดแยกแยะอะไรที่สมควรหรือไม่สมควร"

หลังจากเห็นตัวเองโดนวิจารณ์หนักหนา โชว์หราบนหน้า 1 เห็นว่ากลับไปร้องไห้มากมาย เพราะห่วงว่าความตั้งใจในเส้นทางการเมืองมันจะสะดุดลง คุณผ่านเวลาแบบนั้นมาได้อย่างไร 

ตั๊น "ผ่านมาได้เพราะกำลังใจจากครอบครัว วันที่เกิดเรื่อง จนกระทั่งเป็นข่าวใหญ่โต คุณพ่อ คุณแม่ และญาติๆ ตกใจมากกว่า ซึ่งโชคดีที่คุณแม่ท่านก็ให้คำปรึกษา ผู้ใหญ่หลายท่านก็น่ารักโทรมาถามว่าเป็นอย่างไร ตั๊นก็ขอบคุณท่านไป แต่ใจจริงๆ เราก็คิดว่าเรื่อง “ลีโอ” มันจะทำให้เป็นการสะดุดครั้งใหญ่ ครั้งหนึ่งบนถนนเส้นนี้ วันนี้เหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกคนก็มองว่ามันยังติดตัวเรามา"

ถ้าแก้อดีตได้ 1 สิ่งคุณอยากจะแก้ไขอะไร

ตั๊น "ถ้าในเชิงการเมือง คงเป็นเรื่องปฏิทินลีโอเพราะไม่เหมาะสม วันนี้เรารู้แล้ว คือเหมือนกับเจตนาของเรามันถูกตีความเป็นอย่างอื่น ส่วนในชีวิตไม่มีอะไร เพราะว่าสิ่งที่ผิดก็เป็นบทเรียนทำให้เราโตขึ้น สิ่งที่เคยทำให้เราเจ็บก็ทำให้เราเติบโตขึ้น จริงๆ ตั๊นไม่อยากจะเปลี่ยนอะไร โดยเฉพาะความคิดคนยิ่งเปลี่ยนยากแต่ว่า เราทำตัวเองให้ดีที่สุด เราต้องรู้ว่าจุดยืนคืออะไร ถึงแม้ว่าจะไม่ให้เรามาเล่นการเมือง แต่เรามีจุดยืนว่าเราจะทำสิ่งที่ถูกเราก็จะทำ"

ชื่อ ตั๊น นี้ได้แต่ใดมา

ตั๊น "ตั๊น” มาจากตั๊นหน้า เพราะคุณพ่อชอบเล่น “คาราเต้” เลยตั้งชื่อลูกสาวว่าตั๊น ส่วนน้องสาวคนกลางชื่อ “ตุ๊ย” มาจาก “ตุ๊ยท้อง” และน้องชายชื่อ “ต่อย” ถ้าไม่ติดเรื่องคนถามบ่อยๆ เราจะชอบชื่อนี้มากๆ เพราะไม่ค่อยมีคนชื่อนี้ เพราะมันแปลก พูดและ จำยาก แต่คิดอีกแบบพอคนพูดชื่อเล่นเราได้ก็จะนึกถึงตั๊นคนนี้ ส่วนชื่อจริง “จิตภัสร์” เป็นชื่อที่ตั๊นภูมิใจมากๆ เพราะเป็นชื่อพระราชทาน ตั้งแต่เกิดคุณตา คุณยาย ก็ถวายงานอยู่ในวัง ซึ่งวันนี้คุณแม่ก็ยังถวายงานให้แก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อยู่ ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ ทรงพระราชทานชื่อนี้มาให้ตอนเกิด “จิตภัสร์” แปลว่า “จิตที่ร่มเย็น” หลายคนบอกว่าเป็นชื่อที่เหมาะกับนิสัยเราเป็นบางวัน (หัวเราะ) แต่จะพยายามจะใจเย็นให้ได้"

คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ยังยืนยันอยู่ไหม

ตั๊น "ยืนยันค่ะ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง"


----------------------

สปิริตของลูกผู้หญิงตัวจริง

ผมว่าสิ่งหนึ่งที่นักการเมืองไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีกัน ก็คือ การแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งผิดกับนักการเมืองญี่ปุ่น ที่เวลานายกรัฐมนตรีเขาดำเนินนโยบายผิดพลาด เขาจะทั้งยุบสภา และลาออกไปพร้อมกันเลย

อย่างกรณีคุณตั๊น จิตภัสร์ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์นำปฏิทินลีโอไปแจกที่ทำเนียบ ซึ่งเมื่อเธอถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เธอก็แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งข้าราชการการเมืองทันที โดยไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเธอยอมรับว่า เธอผิดพลาดจริง ๆ

หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ในตระกูลภิรมย์ภักดี ไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกทางการเมืองของเธอ คุณตั๊น จิตภัสร์ก็แสดงสปิริตขอลาออกจากตระกูลภิรมย์ภักดี ทันทีเช่นกัน

นี่แหละที่เขาเรียกว่าคือ สปิริตลูกผู้หญิงตัวจริง


และไม่ต้องถึงขนาดคนดังอย่างคุณตั๊น จิตภัสร์ ก็ได้ ที่ได้แสดงสปิริตลาออกเมื่อกระทำให้องค์กรเสียชื่อเสียงเช่น

กรณีแอร์โฮสเตส สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก ที่เคยโพสเฟสบุ้คอยากเอากาแฟสาดใส่ลูกคนขี้โกงคนหนึ่งบนเครื่องบิน จนเป็นข่าวดัง แอร์โฮสเตสคนนี้ก็แสดงสปิริตต่อองค์กรของเธอด้วยการลาออก

หรือกรณีที่เพิ่งเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อในวันนี้ กรณีสาวเซเว่นโพสรูปยิ่งลักษณ์ และด่ายิ่งลักษณ์

สุดท้ายสาวเซเว่นคนนี้ก็แสดงสปิริตในความผิดของเธอด้วยลาออกจากซีพีออลล์

จากกรณีคุณตั๊น หรือกรณีสาวแอร์โฮสเตส หรือกรณีสาวเซเว่น ล้วนแต่มีความรับผิดชอบในการกระทำผิดพลาดของตนเองทั้งสิ้น

อย่างสาวเซเว่น และแอร์โฮสเตส แค่โพสเฟสบุ้คเท่านั้น ไม่ได้ไปด่าต่อหน้า ไม่ได้ไปสาดกาแฟใส่ใครจริง ๆ ก็ยังต้องถึงกับลาออก !!


แล้วคนที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีล่ะ ทำไมถึงไม่ค่อยยอมรับผิด ไม่ยอมแสดงสปิริตในความผิดพลาดของตนเองเลย

อย่างเช่น ทักษิณ เป็นถึงนายกรัฐมนตรีต้องมีสำนึกรับผิดชอบสูงกว่าคนทั่วไป แต่ทักษิณกลับกระทำความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ2540 มาตรา 100 อนุญาตให้ภรรยาของตนเองไปประมูลซื้อที่ดินของภาครัฐ ทักษิณจึงโดนศาลตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ทักษิณกลับไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง ยังตั้งหน้าตั้งตาทำลายระบบยุติธรรมไทยเรื่อยมา

หรือกรณีน้องสาวของทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ ทูลเกล้าถวายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา สว. ซึ่งเป็นร่างที่มีการกระทำขัดรัฐธรรมนูญให้ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย ทิ้งเรื่องไว้อยู่นานหลายวัน ถือเป็นการกดดันเบื้องสูง จนภายหลังยิ่งลักษณ์ก็ไปทูลขอคืนกลับมา แล้วก็อ้างว่าได้ทำการขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว

แต่คนที่เป็นถึงนายกรัฐบมนตรีกลับไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย ไม่ลาออก และยังหน้าด้านอยู่รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีด้วยการตะลอนทัวร์หาเสียงด้วยเงินภาษีของประเทศอย่างไม่ละอายใจเลย

-----------------

ความฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรีของจิตภัสร์

สุดท้ายผมขอสรุปในประเด็นที่คุณจิตภัสร์ อยากเป็นนายกรัฐมนตรีว่า นักการเมืองทุกคนก็ล้วนแต่มีความใฝ่ฝันสูงสุดคือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยกันทั้งนั้น

อย่างคุณจิตภัสร์ เธอเคยสอบตกจากตำแหน่ง สส. มาแล้ว เคยเดินลุยหาเสียงแบบไม่ต้องมีตำรวจคุ้มกัน หรือมีบอดี้การ์ดมากมายติดตามเธอ ก็เคยมาแล้ว

นี่เขาเรียกว่า ลงไปคลุกฝุ่นติดดินเห็นปัญหาของประชาชนด้วยตัวเอง เริ่มต้นงานการเมืองจากศูนย์เลยก็ว่าได้ เหมือนนายอภิสิทธิ์เริ่มต้นงานการเมืองใหม่ ๆ ก็ทำมาแล้ว

แต่สำหรับยิ่งลักษณ์ เธอมาทำงานการเมืองเพราะทักษิณสั่งมา เธอไม่เคยมีอุดมการณ์ทางการเมืองมาก่อน เพราะไม่เคยลุยหาเสียงแบบคนธรรมดา ๆ ติดดินเขาทำกัน

ยิ่งลักษณ์เธอเข้ามาอย่างคนมีอำนาจในมืออยู่แล้วภายใต้คำสั่งของทักษิณ ไปหาเสียงก็ไปแบบมีบริวารรายล้อม มีตำรวจคุ้มกันมากมาย

แล้วเธอก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีทันทีหลังจากลงสนามการเมืองแค่ 40 กว่าวัน

ยิ่งลักษณ์จึงมาทำงานการเมืองเพื่อพี่ชาย เพื่อตระกูลชินวัตรแบบเฉพาะกิจ ตามคำสั่งพี่ชายเท่านั้น ไม่ได้เป็นนักการเมืองด้วยสปิริตเลย


คลิกอ่าน จิตภัสร์ กับประเด็นดูถูกคนชนบท





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^