ซาตานทักษิณมอบของขวัญคริสต์มาส ยิ่งลักษณ์มอบของขวัญปีใหม่

ตอน ทักษิณมอบของขวัญคริสต์มาส ยิ่งลักษณ์มอบของขวัญปีใหม่ให้ลูกหลาน



24 ธ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพิมพ์เราท์เลดจ์ สำนักพิมพ์ผลิตหนังสือวิชาการที่มีชื่อเสียงในโลกภาษาอังกฤษ ได้ตีพิมพ์หนังสือ "Routledge Handbook of Southeast Asian Democratization" หรือ "คู่มือศึกษากระบวนการการทำให้เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉบับเราท์เลดจ์" โดยมี วิลเลี่ยม เคส ศาสตราจารย์ด้านเอเชียศึกษาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฮ่องกง เป็นบรรณาธิการ

หนังสือที่มีความหนา 464 หน้า เล่มนี้ ตั้งสมมติฐานของปัญหาที่ว่า แม้พลวัตทางเศรษฐกิจและสถานะของการเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญ ได้ส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเปลี่ยนผ่านระบอบการเมืองของตนเองให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น แต่การทำให้เป็นประชาธิปไตยดังกล่าวกลับถูกแช่แข็งหรือกระทั่งถูกยื้อยุดฉุดให้ถอยหลังกลับ ดังนั้น คู่มือฉบับนี้จึงจะพยายามวิเคราะห์ถึงปัญหาดังกล่าวผ่านทฤษฎีและกรณีศึกษาต่างๆ

หนังสือเล่มนี้มีจำนวนบททั้งสิ้น 27 บทโดยหนึ่งในนั้นมีบทที่วิเคราะห์ปัญหาการเมืองไทยโดยเฉพาะ คือ บทที่ 22 ซึ่งมีชื่อบทว่า "ประชาธิปไตยในประเทศไทย: ทฤษฎีและภาคปฏิบัติ" เขียนโดยเฟเดอริโก เฟอร์ราร่า นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง

ทั้งนี้ผู้จัดทำหนังสือเล่มดังกล่าวได้เลือกภาพ โปสเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทญคดีอาญาหนีคำพิพากษาศาลสั่งจำคุก 2 ปี ซึ่งถูกเขียนข้อความด่าทออย่างหยาบคายเต็มไปหมด มาเป็นปกของหนังสือ โดยคาดว่าภาพดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นขณะที่มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ที่มาแนวหน้า

----------------------

ผมเชื่อว่า เมื่อโอ๊ค เอม อิ๊ง พจมาน ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งญาติโกโหติกาของตระกูลชินวัตรทุกคน เมื่อได้เห็นหน้าปกหนังสือเล่มนี้แล้ว คงจะเก็บความภาคภูมิใจไปนอนฝันต่อแน่นอน

ช่างเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ที่น่าภูมิใจของตระกูลชินวัตรจริง ๆ 555



ส่วนเนื้อหาหนังสือจะเป็นเช่นไรก็ไม่ต้องไปสน ถ้าเป็นคนไทยซื้อมาอ่านก็ติดเสนียดแน่นอน ปล่อยให้พวกต่างชาติซื้อไปอ่านเถอะ ถ้าคนนั้น ๆ โง่นะ

ยิ่งลักษณ์กลัวตกกระแส วาดรูปบนแก้วเป็นของขวัญปีใหม่แจกด้วย วาดรูปอะไรดูซิ

เก็บตก ควันหลง ฟุตบอลไทยแชมป์อาเซียนคัพ 2014

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


เก็บตก ควันหลงบอลไทย ตอน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

นักข่าวไทยพีบีเอสที่ตามไปมาเลย์ รายงานว่า พอทีมมาเลเซีย ขอใช้ชุดแข่งสีน้ำเงิน เป็นทีมเหย้า เพราะชุดสีน้ำเงินช่วยให้ รอบแรกมาเลย์ชนะสิงคโปร์ และชนะเวียดนามในรอบรอง มาแล้ว

ทางทีมไทยเลยต้องเปลี่ยนไปใส่ชุดสีแดงแทน แต่นักเตะไทยทุกคนเลยใช้ปากกาเมจิกเขียนที่เสื้อ กางเกง และถุงเท้าว่า "ชุดนี้สีน้ำเงิน"

555555555555/@akecity

สีน้ำเงินในธงชาติ หมายถึง สถาบันพระมหากษัตริย์

คลิกที่รูปเพื่อขยาย



ภาพประทับใจ

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยก้มกราบเท้าแม่ หลังทีมชาติไทยชนะเลิศ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย





ดูบรรยากาศทีมผู้บรรยายกีฬาของมาเลเซีย จากที่เฮเพราะนำไทย 3:0 กลับต้องหน้าเศร้าเมื่อโดนไทยยิงตามทีละลูก




--------------------

หน้าแหกที่สุด คือ ประวิทย์ โรจนพฤกษ์

ประวิทย์ โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสเนชันแต่สมองอ่อนหัด นายคนนี้มีปมด้อยมากคงเพราะแม่ไม่รัก  เลยชอบมีความสุขกับโดนคนด่า (ผมไม่อยากใช้สำนวนที่ตรงกว่านี้ ใครทายได้คือสำนวนอะไร ?)

ไอ้หมอนี่มันรีบโพสเยาะเย้ยทีมชาติไทย หลังโดนมาเลเซียนำห่าง 3:0  สุดท้ายหน้าแหกเอง 555




------------------

หน้าแหกอีกราย แต่เป็นใครไม่รู้ 555



----------------------

ขำขัน

นักข่าว "เมสซี่เจ มีอะไรจะฝากถึงแฟนบอลสาว ๆ ที่เมืองไทยไหมครับ"

เมสซี่เจ "คือแม้ผมจะตัวสั้นที่สุดในทีม แต่อย่างอื่นผมไม่สั้นนะครับ"

555 /@akecity


(เมสซี่เจ เขาหมายถึง การจ่ายบอลยาวที่แม่นยำ แม้ขาจะสั้นกว่าคนอื่นก็ตาม)





มีเรื่องจริงเรื่องนึง คือ คนที่ใช้เสาก้างปลา หนวดกุ้ง ดูทีวีอนาล็อค จะเฮตอนไทยยิงประตูได้ก่อนพวกดูทีวีดิจิตอลและทีวีดาวเทียมจะเฮตาม ประมาณ 2 วินาที

---------------

เอาสาระบ้าง

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เดิมชื่อไทเกอร์คัพ ตามชื่อเบียร์ของสิงคโปร์ที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน

แต่เดิมเป็นฟุตบอลฉลองเนื่องในวันชาติสิงคโปร์ มีการเชิญทีมมาเล่นไม่กี่ทีม ซึ่งไทยก็เคยถุกเชิญ แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมาก

ต่อมาเมื่อฟุตบอลซีเกมส์เปลี่ยนมาใช้ระบบอายุไม่เกิน 23 ปี เหมือนเอเชียนเกมส์

แล้วก็ให้ไทเกอร์คัพ เปลี่ยนเป็นศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนสำหรับทีมชาติชุดใหญ่ ตอนนี้แหละทื่ทีมชาติไทยและทุกชาติในอาเซียนหันมาให้ความสำคัญ และไทยเราก็ได้แชมป์ในการแข่งขันครั้งที่ 1 ไปครอง

ตอนนี้ชื่อ ซูซูกิคัพ ก็เพราะซูซูกิ เป็นสปอนเซอร์

แต่ถ้าต่อไป ปลากระป๋องตราสามแม่ครัวเป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน ก็คงจะใช้ชื่อ สามแม่ครัวคัพ !!! 555555

---------------------

คลิป ซิโก้อำลาจากการเป็นนักเตะทีมชาติไทยเมื่อ 7 ปีก่อน

แล้วได้ประกาศว่า สักวันจะกลับมาเป็นโค้ชทีมชาติไทย




จบด้วยภาพบาดตาบาดใจสาวไทยทุกคน กับแฟนสาวชาวสวิสของชาริล ชัปปุยส์

คลิกที่รูปเพื่อขยาย

แฟนสาวของชาริล ชัปปุยส์


คลิกอ่าน 3 เหตุผลที่ทำให้ทีมชาติไทยเล่นดีจนคว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2014

3 เหตุผลที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเล่นดีจนคว้าแชมป์ซูซูกิคัพ

เกริ่น ผมเขียนก่อนทีมชาติไทยลงชิงชนะเลิศกัทีมชาติมาเลเซีย 1 วัน

การแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2014 ครั้งนี้ ที่ทีมชาติไทยกำลังเข้าใกล้แชมป์ไปเกือบ 90 % แล้วนั้น

ขอเพียงทีมไทยแค่ยิงในบ้านมาเลเซียได้อย่างน้อย 1 ประตูเท่านั้น ไทยก็คงคว้าแชมป์ได้อย่างแน่นอน เพราะมาเลเซียจะเหลือทางเดียวคือ ต้องยิงไทย 4 ประตูเป็นอย่างน้อยถึงจะคว้าแชมป์ได้ (ตามกฎประตูทีมเยือน)

หากปี 2014 ไทยเราได้แชมป์อาเซียนคัพครั้งนี้ ก็จะเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ของไทย เทียบเท่าสิงคโปร์ที่เคยได้แชมป์มาแล้ว 4 สมัย

เพราะที่ผ่านมา 10 ครั้ง สิงคโปร์เคยได้แชมป์ 4 สมัย ไทยได้แชมป์ 3 สมัยแบบติดต่อกัน มาเลเซีย 1 สมัย และเวียดนาม 1 สมัย

แต่เชื่อว่าหลายคนอาจไม่รู้ว่า นี่เป็นฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนครั้งสุดท้ายที่จะมีแค่ทีมในชาติอาเซียนเท่านั้นที่ร่วมแข่งขัน

เพราะในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนในครั้งหน้าในปี 2016 หรือครั้งที่ 11 จะมีทีมนอกอาเซียนอย่างทีมชาติออสเตรเลียมาเข้าร่วมกันแข่งขันด้วย

ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ยกระดับมาตรฐานฟุตบอลอาเซียนให้สูงขึ้น เพราะทีมชาติออสเตรเลียจัดเป็นทีมที่อยู่ในระดับแนวหน้าของเอเซีย ที่เคยไปฟุตบอลโลกมาแล้วหลายครั้ง

ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้สร้างความประทับใจให้แฟนบอลชาวไทยอย่างมาก เช่น ทำให้นักเตะชุดนี้มีระเบียบวินัยยอดเยี่ยม ถึงขนาดมีนักเตะบางคนเคยมารายงานตัวด้วยการใส่รองเท้าแตะเข้ามา ก็เคยโดนโค้ชซิโก้ตำหนิมาแล้วว่า

"คุณต้องให้เกียรติทีมชาติให้มากกว่านี้ มารายงานตัวทีมชาติ ใส่รองเท้าแตะมาได้ไง"



ใช่ครับ วินัยทีมมันต้องเริ่มจากเรื่องเล็กน้อย ๆ ก่อน อย่างเช่น การให้เกียรติความเป็นทีมชาติ หากหละหลวมปล่อยปละตามสบายตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว ต่อไปวินัยทีมเรื่องอื่น ๆ ก็คงแย่ไปด้วย

เรียกว่า โค้ชซิโก้เฮี๊ยบเรื่องวินัยจริง ๆ จึงทำให้ทีมชาติไทยชุดนี้มีความเป็นทีมเวิร์คและเรื่องพละกำลังที่ดีกว่าทีมชาติในอดีตหลายปีที่ผ่านมา


---------------------

เมื่อปี 2553 ผมเคยเขียนบทความเรื่อง ถ้าจับจุดไม่ถูกฟุตบอลไทยยิ่งล้าหลัง เมื่อครั้งที่ทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์

ผมเคยเขียนตำหนิทีมชาติไทยในยุคนั้นไว้ 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ เรื่องพลกำลังของทีมชาติไทยห่วย เรื่องการเล่นบอลจังหวะเดียวของทีมชาติไทยก็เล่นกันไม่เป็น  ถ้าทีมชาติไทยอยากจะไปไกลกว่านี้ ก็ต้องเล่นในสไตล์ทีมชาติสเปน หรือทีมสโมสรบาร์เซโลน่า เท่านั้น

ซึ่งทีมชาติไทยในยุคโค้ชซิโก้คุม ก็ได้แก้ไขจุดบกพร่องดังกล่าว จนสร้างความประทับใจให้แฟนบอลชาวไทยว่า ทีมฟุตบอลไทยเราเดินมาถูกทางแล้ว

และที่ผมดีใจมากที่สุดในทีมชุดนี้ก็คือ โค้ชซิโก้บอกว่า ถ้าจะให้เขาทำทีมชุดอาเซียนคัพต่อไป ก็ต้องให้เขาเลือกตัวนักเตะเอง

ซึ่งในที่สุดเมื่อซิโก้ได้คุมทีมชาติชุดอาเซียนคัพ เขาก็ได้นำชุดแชมป์ซีเกมส์และชุดอันดับ 4 ในเอเชียนเกมส์ มาเป็นตัวหลักในการทำทีมชุดนี้

โค้ชซิโก้ไม่สนที่จะนำพวกนักเตะดัง ๆ ตัวหลักในทีมชาติไทยที่ผ่านมา ที่ชอบทำตัวเป็นเทวดาบางคนมาร่วมทีม นี่แหละยอดเยี่ยมจริง ๆ

เพราะถ้าเอานักเตะทำตัวเทวดาบางคนมาร่วมทีมนี้นะ ผมว่า ทีมชาติไทยคงเละแน่ ๆ ยิ่งถ้าโดนกดดันจากเกมหนัก ๆ โดนเล่นแรง ๆ จากคู่แข่งแล้วล่ะก็ สงสัยทีมไทยชุดนี้คงมีใบแดงทุกนัด



ต้องขอบคุณ ลีซอ กับ ดัสกร ด้วยครับ ที่พวกคุณไม่ได้มาเล่นในทีมชุดนี้


ดังนั้น ถ้าให้ผมสรุป 3 เหตุผลที่ทำให้ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยของโค้ชซิโก้เล่นดี จึงมีดังนี้

1. มีวินัยดี เพราะเมื่อโค้ชสั่งอะไรไป นักเตะทุกคนเชื่อฟัง เช่น สั่งว่าห้ามโวยกรรมการถ้าโดนนักเตะมาเลเซียเล่นแรง แต่ให้พยายามสนใจที่เกมเท่านั้น

ซึ่งนักเตะทุกคนก็ทำได้ดีมากในนัดที่เจอมาเลเซีย เพราะถ้ามัวเอาแต่โวยวาย ก็จะยิ่งพาอารมณ์เสียมากขึ้น ซึ่งมันจะพาให้ทีมเสียระบบไปด้วย

เมื่อวินัยดี ก็พลอยทำให้สปิริตทีมดีไปด้วย


2. พลกำลังดี เห็นได้ชัดในนัดเจอฟิลิปปินส์ กับเจอมาเลเซีย ที่ในครึ่งหลังทีมชาติไทยสามารถบดขยี้ทีมคู่แข่งที่พลกำลังด้อยกว่าได้ จนนำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด


3. การจ่ายบอลจังหวะเดียวที่แม่นยำ ซึ่งโค้ชซิโก้เน้นให้นักเตะชุดนี้ซ้อมเล่นลูกจังหวะเดียวเป็นประจำเพื่อให้นำมาใช้จริงได้ ซึ่งเราก็เห็นผลของการฝึกซ้อมกันแล้ว ในจังหวะทำชิ่งกัน 27 ครั้งก่อนจบด้วยการยิงของชัปปุยส์ แต่เสียดายที่ไม่เป็นประตู ไม่งั้นจะเป็นจังหวะการเข้าทำที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติไทยเลยทีเดียว



ชมคลิป จังหวะการส่งบอล 27 ครั้งของทีมชาติไทย



ถามว่า ทีมชาติไทยชุดนี้ยังมีข้อบกพร่องหรือข้อเสียบ้างไหม ?

ตอบว่า ไม่มีทีมฟุตบอลทีมไหนในโลกที่ไม่มีข้อเสีย ทุกทีมมีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งผมว่า โค้ชซิโก้คงรู้ข้อบกพร่องของทีมชุดนี้อยู่แล้ว และพยายามแก้ไขอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

-----------------------

หลังจากทีมชาติไทยของโค้ชซิโก้ คว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2013 แล้ว

ข่าว นักเตะไทยซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณฯ

ในหลวงทรงรับสั่งผ่านราชเลขาฯ ให้โทรศัพท์มาหานายเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก.ทีมชาติไทย ในระหว่างพักครึ่งแรกว่า "ขอให้นักเตะไทยเล่นให้เต็มที่"
ทำให้นักเตะไทยมีกำลังใจจนสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด
.
ที่มา สยามกีฬา
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/141220_433.html



ในหลวง ทรงให้ราชเลขาฯ โทรมาตอนจบครึ่งแรก ซึ่งช่วงนั้นไทยเราโดนมาเลเซียนำไป 2:0 แล้วนะครับ

คลิปทีมชาติไทยทูลเกล้าถวายถ้วยชนะเลิศอาเซียนคัพให้ในหลวง


ภาพประทับใจที่สุด



เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ผู้ยิงประตูที่ 2 ให้ไทยชนะมาเลเซีย 2:0

ถึงขนาด เมสซีเจ ชนาธิป เพื่อนร่วมทีมซึ่งเป็นผู้จ่ายบอลให้เขา ต้องยกมือไหว้ขอบคุณกันเลยครับ

ไฮไลท์ ไทย ชนะ มาเลเซีย 2:0


แต่ !! ถึงทีมชุดนี้จะเล่นดี แต่ผมก็ยังเห็นว่า ดีในระดับอาเซียนเท่านั้น

บทพิสูจน์กับทีมนี้ยังอีกยาวไกลครับ ตัวอย่างเช่น ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเซียในอดีต ไทยเรายังไม่เคยผ่านรอบแรก (ของรอบสุดท้าย)ได้เลยครับ อย่างชุดดรีมทีม ที่ซิโก้เคยได้ไปเตะรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเซีย ก็ตกรอบแรกแบบเป็นบ๊วยในสายเลย

แต่ผมมองว่า ศักยภาพของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดนี้ดูเหนือกว่าชุดดรีมทีมในอดีตครับ



----------------------

ทีมชาติไทยคว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2014 บนแผ่นดินมาลเซียแล้ว


แม้ทีมชาติไทยจะแพ้มาเลเซีย 2:3 ก็ตาม แต่ก็คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 4:3 (หลังจากโดนมาเลเซียนำไปก่อนถึง 3:0)



กรรมชาวอิหร่านที่ตัดสินในแมทช์นี้ จากการให้ลูกจุดโทษกับทีมมาเลเซีย ทั้ง ๆ ที่เป็นจังหวะทำฟาล์วของนักเตะมาเลเซียแท้ ๆ อาจถูกสหพันธ์ฟุตบอแห่งเอเซียลงโทษได้

เรื่องนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปเด็ดขาด


วินาทีฉลองแชมป์ ของทีมชาติไทยที่มาเลเซีย



กวินทร์ กับพระบรมฉายาลักษณ์

----------------

เกร็ดเล็กน้อย 

เพราะตอนแรกที่มีถ้วยนี้ เดิมชื่อไทเกอร์คัพ โดยมีเบียร์ยี่ห้อไทเกอร์ของสิงคโปร์ริเริ่มจัดการแข่งขันถ้วยนี้ขึ้นที่สิงคโปร์ ตอนแรกเป็นการเชิญทีมไปแข่งเพียงไมกี่ทีม

แต่พอให้ถ้วยไทเกอร์คัพกลายเป็นถ้วยชิงแชมป์ฟุตบอลอาเซียนสำหรับทีมชาติชุดใหญ่  แล้วให้ฟุตบอลซีเกมส์เป็นทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ก็เลยทำให้ทุกชาติในอาเซียนหันมาให้ความสำคัญกับถ้วยไทเกอร์คัพ หรืออาเซียนคัพนี้มากขึ้น


เมสซี่เจ ชนาธิป คว้าผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์นี้ไปครองอย่างไร้ข้อกังขา




คลิกอ่าน เก็บตก ควันหลง ทีมชาติไทยแชมป์อาเซียนคัพ 2014

เงิน 200 ล้านหนักหัวสมศักดิ์เจียม จนโชว์โง่

มีเพียงไทยรัฐ และ แนวหน้า ที่นำเสนอข่าว เอกสารเงินพระราชทาน 200 ล้านให้หม่อม... เท่านั้น

พอเห็นว่า ไทยรัฐกล้าลงเอกสารนี้บนหน้า 1 หนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค.57 ได้



สมศักดิ์ เจียม ปรมาจารย์แห่งความชั่ว ก็รีบกระโดดงับข่าวนี้ทันที ตามสันดานตะกวดหิวโซ เพราะมันคิดว่า อย่างน้อยถ้าข่าวนี้มั่วนิ่ม ไทยรัฐกับแนวหน้าก็ซวยไปก่อน 555


ที่จริงไอ้หงอกเจียม มันโพสเรื่องนี้ไว้หลายโพส
แต่นี่คือตัวอย่าง 1 ในหลาย ๆ โพสของมันครับ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


ผู้เชี่ยวชาญเอกสารราชการหลายคนต่างลงความเห็นว่า เอกสารฉบับดังกล่าวมีพิรุธเยอะมาก ซึ่งไม่น่าจะเป็นเอกสารจริง

เอกสารเงิน 200 ล้านบาทที่เป็นข่าว ที่คาดกันว่าเป็นเอกสารปลอม !!

คลิกที่รูปเพื่อขยาย

ผมขอย่อเล็ก ๆ นะครับไม่อยากแปะใหญ่ เพราะเชื่อว่า เอกสารปลอม !!

ดังที่ผมจะขอลอกความเห็นจากคุณ Tongrob Sunontalad ที่โพสลงเฟสบุ๊คไว้อย่างน่าสนใจมาก โดยมีเนื้อหาดังนี้


เรื่องเอกสาร พระบรมราชโองการ และเงิน ๒๐๐ ล้าน ผมติดใจครับ

๑. หนังสือฉบับนี้ มีเนื้อหาชัดเจนว่ามีไปถึง "ประธานกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" เพื่อ สั่งการให้จ่ายเงิน ๒๐๐ ล้านบาท

นั่นหมายความว่า หนังสือนี้มีลักษณะ "สั่งการโดยเฉพาะเจาะจงระหว่างหน่วยงาน" นั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว สำนักราชเลขาธิการ จะเป็นผู้สนองพระราชกระแส โดย "ราชเลขาธิการ" ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กร จะเป็นคนลงนามในหนังสือออก

นอกจากนั้น ตามแบบของหนังสือราชการ จะมีเลขกำกับด้านบนซ้ายของหนังสือทุกฉบับ โดยมีอักษรย่อของหน่วยงานนั้น ๆ กำกับเลขที่ออก "อยู่เสมอ" กรณีสำนักราชเลขาธิการ จะใช้ ตัวอักษรและเลขกำกับด้านบนซ้ายว่า "ที่ รล.๐๐๐๐/๐๐๐๐" เป็นต้น

ด้านบนขวา จะระบุข้อความว่า "สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง กทม. ๑๐๒๐๐" แต่หนังสือเจ้าปัญหา กลับ "แอบอ้าง" โดย ด้านบนซ้ายใช้เลข ๔๘/๗๓ ส่วนด้านบนขวา ใช้พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักราชเลขาธิการ พ.ศ.๒๕๕๓ ข้อ ๑ (๑) ชัดเจนว่า สำนักราชเลขาธิการ "ปฏิบัติงานเลขานุการในพระองค์พระมหากษัตริย์" ในหลวงไม่ต้องมีพระปรมาภิไธยเองหรอกครับ เพราะเป็นหนังสือสั่งการระหว่างหน่วยงานนะครับ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ

๒. จาก ตำแหน่งประธานกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตามข้อ ๑. นั้น ตำแหน่งนี้เป็น "ประธานบอร์ด" ขององค์กร มีหน้าที่วางและกำกับนโยบายเท่านั้น

แต่อำนาจในการบริหารงานผูกพันธ์องค์กร คือ "ผู้อำนวยการสำนักงานฯ" ซึ่งผมคาดว่า คนปลอมหนังสือ จะต้องเข้าไปหาข้อมูลที่เว้ปของสำนักงานฯ แต่บังเอิญว่า "เข้าไปหาข้อมูลผิดคอลัมน์"

ซึ่งคนทำปลอมไม่รู้ว่า "ประธานกรรมการบริหาร" กับ "ผู้อำนวยการ" คนละหน้าที่ คนละตำแหน่งกัน

ผู้อำนวยการคนปัจจุบันคือ "นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา" ส่วนประธานบอร์ดสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็น รมว.คลัง โดยตำแหน่ง ปัจจุบันคือ นายสมหมาย ภาษี

๓. สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ๒๕๔๐ ซึ่งมีหน้าที่เปิดเผยข้อมูลอยู่แล้ว ตามมาตรา ๗ (๔)

หนังสือฉบับนี้ ออกวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ แต่จากการตรวจสอบในประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว "ไม่พบว่าอยู่ในฐานข้อมูล" ซึ่งเราอาจคิดว่า "ยังไม่ประกาศ" ถ้าแบบนั้น เรารออีกประมาณ ๒ อาทิตย์ แล้วมาเช็คดูอีกครั้งว่า หนังสือลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ฉบับนี้ มีในสารบบหรือไม่

๔. ฟ้อนท์ของหนังสือฉบับนี้ ถ้าไม่ใช่ Angsana new ก็คงเป็น Cordia new แต่หนังสือราชการของไทยปัจจุบัน คือ Thai sarabun ครับ

๕. หนังสือเจ้าปัญหาฉบับนี้ ผิดแบบทั้งประกาศพระบรมราชโองการ ทั้งผิดแบบหนังสือราชการทั่วๆไป เรียกได้ว่าหนังสือนี้ มีลักษณะ "หัวมังกุด ท้ายมังกร"

จะเป็นหนังสือสั่งการระหว่างหน่วยงานก็ไม่ใช่ จะเป็นประกาศพระบรมราชโองการก็ไม่ใช่

ราชเลขาธิการ ที่มีอำนาจลงนามหนังสือออก คนปัจจุบันคือ "นายกฤษณ์ กาญจนกุญชร"

แต่ขณะที่ หนังสือเจ้าปัญหาฉบับนี้ กลับลงนามโดยลายเซ็นของ "ประยุทธ์ฯ" (ประยุทธ์ไหน ไม่รู้ ไม่มีชื่อเต็ม และไม่มีตำแหน่งปรากฎ ซึ่งผิดหลักหนังสือคำสั่งราชการทั้งปวง)

เนื้อหาถ้อยคำที่ใช้ บ้างก็ "พระบรมราชานุญาต" บ้างก็ "อนุญาต" สับสนปนเปไปหมด

จบ.

---------------------

มันน่าคิดจริง ๆ เอกสารที่หลวม ๆ แบบนี้ สื่อใหญ่อย่างไทยรัฐกล้าลงได้ แถมยังไม่มีการแก้ข่าวว่า ลงผิดแต่อย่างใด

แต่ก็ไม่มีสื่อไหนลงข่าวนี้อีก ยกเว้นแนวหน้า

แต่หากเราดูเอกสารนี้ เราก็เห็นได้ว่า มันเป็นเอกสารที่ดูไม่ค่อยถูกต้องตามหลักเอกสารคำสั่งทางราชการหลายอย่างตามที่คุณ Tongrob Sunontalad อธิบายไว้จริง ๆ

รึว่า เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นทางการ ??

ยิ่งถ้าเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นทางการ แถมส่งเอกสารไปให้คนที่ไม่มีอำนาจสั่งจ่ายเงิน ผมว่า งานนี้มั่วนิ่มแล้วครับ เพราะกฎหมายควบคุมกำกับการใช้เงินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีอยู่

ยังไงไทยรัฐ แนวหน้า ควรรีบสร้างความกระจ่างเกี่ยวกับข่าวนี้ด่วน ไม่งั้นไอ้พวกหนักแผ่นดินอย่างสมศักดิ์เจียม มันจะได้ใจ

----------------

แต่สมมุติว่าจะเป็นเรื่องจริง เอกสารจริง คนที่ไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่า ไม่ใช่คนไทยตามหน้าที่พลเมืองที่ดี มันก็ไม่ควรมาเสือกทรัพย์สินแผ่นดินส่วนนี้ครับ

เพราะทรัพย์สินส่วนนี้ ชื่อก็บอกว่าเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 
ดังนั้นทรัพย์สินส่วนนี้จึงเป็นเรื่องของผู้จงรักภักดีและสถาบันฯ เท่านั้น 

พวกหนักแผ่นดินกรุณาอย่าเสือก!!


ล่าสุดกระทรวงการคลังแถลงข่าวออกมาแล้วว่า เป็นข่าวจริง งั้นอ่านบทความตามลิงค์ข้างล่างต่อครับ

คลิกอ่าน เงินพระราชทาน 200 ล้านบาท ตอกย้ำ สนง.ทรัพย์สินไม่ใช่ของในหลวงภูมิพล

ลือหึ่ง พบไอ้ตั้งอาชีวะ ตกอับที่เขมร

ไอ้ตั้งอาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นตามมาตรา 112 ที่หนีคดีไปกบดานในต่างประเทศ ด้วยความช่วยเหลือของคนชั่ว

เพราะลำพังครอบครัวจน ๆ ของมัน แถมมีลูกเกเรเป็นอันธพาล ย่อมไม่มีทางส่งเงินให้มันอยู่รอดในต่างประเทศได้นานขนาดนี้หรอก มันต้องมีเศรษฐีชั่วให้เงินอุดหนุนเลี้ยงดูให้มันหนีรอดแน่นอน

เจตนาที่เศรษฐีชั่วเลี้ยงไอ้ตั้งอาชีวะไว้น่ะเหรอ ?

ก็เขาหวังใช้มันไว้เย้ยกฎหมายไทย เย้ยฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยเฉพาะเลี้ยงมันไว้เพื่อยั่วโมโหคนไทยที่จงรักภักดีสถาบันฯ เล่น ๆ ไงครับ

ดังนั้นถ้าเราเลิกสนใจไอ้ตั้งอาชีวะเมื่อไหร่ มันจะไปตายที่ไหนก็ชั่งแม้วมัน (แต่อย่ากลับมาเหยียบแผ่นดินไทยก็พอ) รับรองไอ้ตั้งอาชีวะ ก็คงไม่มีใครอยากส่งเสียเลี้ยงดู คุ้มครองมันต่อหรอกครับ เผลอ ๆ ไอ้ตั้งอาชีวะมันก็อาจตายแบบศพไร้ญาติ หรือตายแบบหายสาบสูญหาศพไม่เจอนั่นแหละ

ฉะนั้น เราต้องไม่สนใจไอ้นี่อีกครับ แล้วไม่ต้องไปโกรธมันด้วย เพราะเศษสวะอย่างมันไม่ควรค่าที่เราต้องใส่ใจ มันก็แค่กุ๊ยข้างถนนตัวนึง ที่ทำซ่าทำปากดีไปเท่านั้นเอง ไร้ราคาครับ ปล่อยมันไปตามทางของมันนั่นแหละ

ถ้าคนที่ส่งเสียมันเห็นว่าไอ้ตั้งมันหมดประโยชน์เมื่อไหร่ เมื่อนั้นชีวิตไอ้ตั้งก็จบ !!

นี่เห็นว่า มีคนถ่ายรูปคนหน้าคล้ายไอ้ตั้งกำลังตั้งหน้าตั้งตาเก็บขวดพลาสติกเก่า ๆ เพื่อเอาไปชั่งกิโลขายในเขมรโน่นแน่ะ

ลือกันว่า มันเอาบัตรประชาชนของคนเขมรที่ตายไปแล้ว มาสวมเป็นคนเขมรต่อ เพราะตอนนี้ไม่มีใครส่งเงินช่วยมันแล้ว ต้องเก็บขยะ ต้องเก็บของเก่าหากินเอาเอง

จริงหรือไม่ ? ก็ชั่งมันเถอะ ไร้ราคาแล้วไอ้นี่



"อ๋อ ไอ้นี่มันคนบ้าครับ ท่าทางไม่ค่อยสมประกอบ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เห็นมันมาหากินแถวนี้ได้สักพักแล้ว" คนกัมพูชาคนหนึ่งกล่าว


คลิกอ่าน ควายแดงตั้ง อาชีวะ ไม่รู้ตัวว่าโดนสลิ่มหลอก

โอ๊ค ควายของแท้ โพส พ่อกรูไม่ตายดีแสรด

ช่วงวันมหามงคลของคนไทย เป็นวันพ่อแห่งชาติ บุคคลสาธารณะที่มีคนติดตามมาก ก็ควรโพสอะไรที่ดี ๆ จรรโลงใจ เพื่อช่วยกันทำให้สังคมไทยสงบสุข

แต่คนมันจะเลว ไม่รู้จักกาลเทศะแบบอีโอ๊ค ควายของแท้ ลูกนักโทษทักษิณ ก็โชว์ความเลว โพสอินสตาแกรมทำร้ายพ่อตัวเองแบบนี้



ผมอ่านแวบแรกนึกว่าโอ๊คมันโพสว่า พ่อกรูไม่ตายดีแสรด

แทนที่จะโพสถึงพ่อตัวเอง ด้วยถ้อยคำที่สุภาพ แสดงถึงความกตัญญูกตเวที ดันโพสถึงพ่อด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เหมือนชวนเชิญให้คนเขาด่าพ่อมึง

เฮ่อ.. อีโอ๊คอยู่ดีไม่ว่าดี แทนที่จะอยู่เฉย ๆ ดันโพสห่าเหวให้คนเขาร่วมกันด่าพ่อมึงได้นะอีโอ๊ค ชั่งสมเป็นลูกอกตัญญูของทักษิณจริง ๆ

แล้วดูหน้าทักษิณสิ พยายามเสแสร้งว่า สบายดี ทั้ง ๆ ที่สารรูปไม่ได้สบายแบบที่พยายามจะบอกเลย




อ้าว ๆ อิ๊ง แพทองธาร ไหง แต่งแบบนี้อวยพรทักษิณล่ะ


แล้วเรื่องไพร่ ก็ไม่เลิกเล่นนะอีโอ๊ค มึงนะเก่งนักเรื่องเลว ๆ แบบนี้จริง ๆ



บอกว่าตัวเอง ไพร่ทองแท้ โถ ๆ มึงน่ะ ควายของแท้ ต่างหาก เพราะอ้างเรื่องไพร่หลอกแต่พวกควายแดงโง่ ๆ เท่านั้นแหละ

โอ๊คมันบอกว่าพ่อตัวเองเป็นชนชั้นกลาง แต่ตัวมันกลับเป็นไพร่ !!

เท่ากับแบบนี้โอ๊คมันด่าพ่อมันเองสินะ ที่ดันเลี้ยงลูกให้กลายเป็นไพร่สถุลแบบนี้ คือ จะทำอะไรก็ไม่รู้จักกาลเทศะ

ถ้าทักษิณเป็นชนชั้นกลาง แต่มีลูกเป็นไพร่ ก็เท่ากับทักษิณมันเลี้ยงลูกแบบกดขี่จนอีโอ๊คถึงคิดแบบนั้น เท่ากับอีโอ๊คมันด่าพ่อมันเองชัด ๆ

ใครยังหลงเชื่ออีโอ๊ค เพื่อทำลายประเทศชาติ สร้างความแตกแยก ระวังไว้แล้วกันว่า พอถึงเวลาตายไม่มีเวลาได้โอกาสมาสำนึกผิด แบบที่ผมเขียนไว้ในบทความเรื่อง

คลิกอ่าน ความปอดแหกของพวกล้มเจ้า และพวกคลั่งประชาธิปควาย

-------------------

คำอวยพร

อะไรเอ่ย ?
อย่าเหี้ยเหมือนตา
อย่าโง่เหมือนยาย น้องสาวของตา
อย่าแรดเหมือนน้าสาว
และอย่าอวดฉลาดเหมือนลุง
555/@akecity

ตะลึง! พบงูเหลือมตัวเท่าควายเขมือบข้าวจนพุงแทบแตก

นางงูเหลือมเขมือบชาติ แดกข้าวซะพุงปลิ้น

คลิกที่รูปเพื่อขยาย




หลังจากนั้นอีก 1 วัน นางงูเหลือมตัวเดิม ก็เดินสายไปงานศพของคนในพรรคที่ทยอยตายตกตามกันมาหลายคน โดยตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา




เกิด แก่ เจ็บ ตาย อนิจจัง อนัตตา เมื่อพ่อของเจ๊หน่อยไปเที่ยวญี่ปุ่นกับลูกสาว ก็เกิดเส้นเลือดในสมองแตกระหว่างเดินทางกลับที่พัก


การสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักแบบไม่ทันตั้งตัว ย่อมเสียใจมากเป็นธรรมดา

ป๋าเหนาะ จิ้งจกเปลี่ยนสีตัวพ่อ มาร่วมงานในสภาพไม้ใกล้ฝั่ง




สัจธรรมแห่งชีวิต มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด
ท่านตู่ นายกฯ คสช. ที่เหล่าคนอ้างว่ารักประชาธิปไตยจงเกลียดจงชังเหลือเกิน


เปลี่ยนฉากหลังให้นายกฯ ตู่ 

หากยอมวางอคติลง แล้วมองที่ชาติและความสงบสุขของคนไทยเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าระบอบอะไร ก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น

แต่สำคัญที่สุดคือคนที่ใช้ระบอบนั้นต่างหาก ว่าจะใช้ไปในทางที่ถูกหรือที่ผิด ?