วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554
คืนภาษีรถยนต์คันแรก นโยบายโง๊โง่!ตอน2
ลือกันว่า นโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาลเพื่อไทย เกิดจากการไปเสนอร่วมมือกับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นร่วมกันวางยารถเล็กประกอบนอก ทั้งจากของจีน อินเดีย และมาเลเซีย เพื่อให้มีโอกาสแจ้งเกิดในตลาดรถยนต์เล็กในไทยให้ยากขึ้น
เท็จจริงอย่างไร ก็แล้วแต่จะคิด?
ทีนี้ ผมจำได้ว่า ตอนวิกฤติต้มยำกุ้งปี40 จำได้ว่า มีรถยนต์ถูกยึดไปมากมาย เพราะฟองสบู่เศรษฐกิจแตก คนที่กำลังผ่อนรถหลายคนตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะบริษัทเอกชนมากมายเจ๊ง!!
วันนี้บทความอาจไม่ฮาเท่าไหร่ เพราะมันฮาไม่ออก ดูอย่างอเมริกา และหลายประเทศในยุโรป ประเทศทุนนิยมฟุ้งเฟ้อกำลังพากันแย่หลายประเทศ นั่นเพราะพวกนี้เสพสุขจากการเป็นหนี้บัตรเครดิตกันเพลิน เอาเงินอนาคตมาใช้ทั้งนั้น
คนไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมบ่อยมากขึ้น มันต้องร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องน้ำระยะยาว ต้องใช้เงินอีกมากมาย
แทนที่รัฐบาลจะหันมาสนับสนุนให้คนไทยรู้จักประหยัด เก็บเงินไว้ใช้ในยามยาก ละลดความฟุ้งเฟ้อ เพื่อความเจริญอย่างยั่งยืน ดันมีแต่นโยบายเร่งให้คนใช้เงิน แถมเป็นการใช้เงินอนาคตด้วยการผ่อนรถ!!
ผมเชื่อว่า มีหลายคนที่วางแผนว่าจะเก็บเงินซื้อรถอีกสัก2ปีข้างหน้า แต่รอให้พร้อมอีกหน่อย ช่วงนี้ก็ทำงานเก็บเงินดาวน์ให้มากที่สุด จะได้ผ่อนน้อยไม่ต้องลำบากมาก
แต่พอรัฐบาลไปกระตุ้นไปเร่งให้คนอยากซื้อรถ ด้วยการคืนภาษี ก็อาจทำให้มีคนจำนวนหนึ่งที่ยังไม่พร้อม แต่เพราะความอยากได้ส่วนลด จึงรีบซื้อรถในเวลาที่ยังไม่พร้อม
ไปกระตุ้นไอ้เรื่องเสียเงินให้บริษัทญี่ปุ่นแบบนี้ ระวัง!!จะเกิดฟองสบู่แตกซ้ำอีกครั้ง!!
-----------------------
ต้องคิดใหม่กว่า ทำใหม่กว่า
พอไปกระตุ้นให้คนมีรถมากขึ้น ก็ต้องสร้างถนนเพิ่มขึ้น แล้วไอ้ถนนทั้งหลายในประเทศไทย พอยิ่งสร้างมันก็ดันยิ่งสูงกว่าบ้านชาวบ้านมากขึ้นๆ พอฝนตกถนนมันก็ช่วยขวางทางน้ำไหลได้อย่างยอดเยี่ยม จนบ้านชาวบ้านพากันจมน้ำกันถ้วนหน้า เลยต้องหนีขึ้นไปนอนบนถนนแทน (ประโยชน์อีกอย่างของถนนก็ตรงนี้นี่เอง)
แล้วแทนที่จะต้องสร้างถนนมากขึ้น สู้มาขุดคลองเพื่มขึ้นดีกว่า ขุดให้มันกลายเป็นคลองใยแมงมุน ดีกว่าสร้างถนนใยแมงมุม
เชื่อมต่อคลองให้เป็นดั่งใยแมงมุม แถมมีแก้มลิงเสริมในจุดต่างๆของแต่ละคลอง ปัญหาน้ำท่วมซ้ำๆซากๆน่าจะทุเลาได้มาก
แล้วรณรงค์ให้คนหันมาสัญจรทางน้ำแทนทางบก
------------------------
คนโบราณเขาฉลาดกว่าคนปัจจุบัน
กรุงเทพฯเคยได้ชื่อว่า เวนิสตะวันออก เพราะมีคลองมากมาย เพราะในอดีตการเดินทางทางน้ำคือการเดินทางหลักของคนไทย
ต่อมารัฐบาลไทยในยุคประชาธิปไตย นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง2475 ทุกรัฐบาลก็โง่ลงๆๆๆๆ เป็นเพราะอะไร??
ก็เพราะทุกรัฐบาลมันคิดแต่ถมคลองเพื่อเอามาสร้างถนนไง บางรัฐบาลโง่มาก ถึงขนาดตัดต้นไม้อายุเป็นร้อยปีเพื่อขยายถนน!!
แต่มีผู้รู้กลับบอกว่า นักการเมืองยุคประชาธิปไตยมันได้โง่หรอก แต่มันเลว!! เพราะที่มันชอบสร้างถนน เพราะมันจะได้กินหิน กินทราย กินเหล็ก กินปูนไปได้ตลอดอายุถนนไง สร้างไม่ทันไรก็ต้องซ่อม รับเหมาซ่อมก็แด๊กกันอีกที กินกันยาวๆ
-----------------------
แก้ต่างแทนรัฐบาลแบบโง่โง่!!
มีพวกเสื้อแดงพยายามแก้ต่างให้รัฐบาลว่า เมื่อรัฐบาลลดภาษีรถ คืนภาษีรถให้คนซื้อรถ คนซื้อรถจะได้เหลือเงินมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผลก็คือทำให้มีกำลังซื้อในตลาดมากขึ้น รัฐบาลก็จะได้ภาษีกลับมามากขึ้นอยู่ดี
คุณผู้อ่านครับ แก้ต่างแบบนี้มันก็ไม่ผิดหรอกครับ
แต่นั่นคือการคิดแบบด้านเดียว คือคิดแต่ในแง่ดีอย่างเดียว
ถ้าลองคิดใหม่คือ สู้ไปลดภาษีเครื่องดนตรีดีๆให้เด็กได้เรียน ได้ซื้อเครื่องดนตรีมากขึ้น หรือลดภาษีอุปกรณ์การกีฬาดีๆให้เด็กไทยมีโอกาสใช้อุปกรณ์ดีๆมากขึ้น หรือไปลดภาษีเครื่องมือแพทย์ดีๆ จะไม่ดีกว่าลดภาษีรถยนต์หรือครับ??
หรือถ้าคิดไปอีก แทนที่จะคืนภาษีรถยนต์ สู้เอาเงินไปสร้างโรงพยาบาลไม่ดีกว่าเหรอครับ?? หรือไม่ก็ เอามาทำรถเมล์ร้อน5บาทตลอดสาย รถปอ.10บาทตลอดสายไม่ดีกว่าเหรอ??
จำไว้นะครับ คุณผู้อ่าน น้องๆนักอ่านทั้งหลาย ยิ่งมีรถยนต์มากขึ้นเท่าไหร่ มีแต่ปัญหามากขึ้นเท่านั้น
การมีรถมากๆ ประโยชน์ได้ไม่คุ้มที่เสียหรอกครับ เพราะถ้ามีรถยนต์แล้วดี คนญี่ปุ่นคงใช้รถยนต์มากกว่ารถไฟ คนญี่ปุ่นคงใช้มอไซค์มากกว่าจักรยานไปแล้ว
ทั้งๆที่ญี่ปุ่นเป็นชาติที่สร้างรถยนต์ขายเราด้วยซ้ำ
อย่าๆอย่าอ้างว่า ประเทศญี่ปุ่นเล็ก คนเยอะ เลยไม่ใช้รถยนต์ เพราะนั่นคือเหตุผลที่โง่มากๆถ้าจะตอบแบบนั้น
รถจักรยาน กับรถมอไซค์ ขนาดความยาวไม่ได้ต่างกัน แล้วทำไมคนญี่ปุ่นใช้จักรยานมากกว่ามอไซค์ ??
แนะนำอ่าน คืนภาษีรถยนต์คันแรก นโยบายโง๊โง่ ตอน1
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ส่วนใหญ่คนที่ว่าคนอื่นโง่ตัวเองนั่นแหละที่โง่มากกว่า(แต่ไม่รู้ตัว)เพราะว่ามัวแต่เอาเวลามานั่งจับผิดคนอ่ืนเอาเวลามานั่งติเตียนคนอื่น คนนั้นทำไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ เอาเวลาไปทำอย่งอื่นดีกว่ามั้ย และถ้าคุณฉลาดจริงคุณคงมีโอกาศได้เป็นนายกได้ทำเองไปแล้ว และอาจจะโดนคนประเภทเดียวกับคุณด่าเยอะกว่าคนที่คุณกำลังด่าเค้าอยู่ เพราะคนเรามีความคิดที่ไม่เหมือนกัน. /คนตรงกลาง
ตอบลบ