วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ยิ่งลักษณ์ ยิ่งนาน ยิ่งมิด
วันนี้ผมเข้ามาดึก เลยขอเขียนคร่าวๆแล้วกัน
ข่าววันนี้ยิ่งลักษณ์ประกาศใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 31
มาตรา ๓๑ ในกรณีที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายมีอำนาจสั่งการผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรวมตลอดทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ที่กำหนดก็ได้ โดยให้มีอำนาจเช่นเดียวกับผู้บัญชาการตามมาตรา ๑๓ และผู้อำนวยการตามมาตรา ๒๑ และมีอำนาจกำกับและควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และเจ้าพนักงานในการดำเนินการตามมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๘ และมาตรา ๒๙ ด้วย
เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณี
ผมขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆคือ
ยิ่งลักษณ์ต้องการอำนาจเพื่อเล่นงานผู้ว่าฯ กทม.ได้ นั่นเอง เพราะผู้ว่าฯ กทม.มาจากการเลือกตั้ง ตามปกตินายกรัฐมนตรีจะปลดหรือจะลงโทษผู้ว่าฯมันคงทำไม่ได้ง่ายๆ
แต่ถ้าใช้พรบ.ตัวนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจสั่งแกมบังคับว่า ผู้ว่าฯต้องทำตามคำสั่งนะ ถ้าไม่ทำตามคำสั่ง เดี๋ยวปูจัดหนัก!!
(แต่จากข่าวที่ศปภ.แถลงกลับบอกว่าเพราะพวกอบต.ไม่ทำตามคำสั่ง เลยต้องใช้พรบ.นี้มาจัดการ โถๆไปหลอกฟายแดงเถอะ )
-------------------------------
พรบ.สาธารณภัยมันต่างจากการใช้พรก.ฉุกเฉินอย่างไร?
มันก็ต่างตรงที่ พรบ.สาธารณภัย มันให้อำนาจนายกฯลงโทษองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น
ตามปกตินายกรัฐมนตรีก็มีอำนาจสั่งผู้ว่าฯได้ทุกจังหวัดและองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นได้อยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าประกาศใช้พรบ.สาธารณภัยด้วย มันเหมือนครูเอาไม้เรียวมาวางข้างๆลูกศิษย์นั่นแหล่ะ ถ้าลูกศิษย์ไม่ทำตามที่ครูสั่ง ครูก็ฟาดได้เลย
ส่วนพรก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฯ ให้จัดการกับผู้ที่เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้
จึงแปลความง่ายๆว่า พรบ.สาธารณภัย ให้อำนาจนายกฯจัดการเจ้าหน้าที่
ส่วนพรบ.ฉุกเฉิน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐจัดการประชาชน (ที่มาขัดขวางการทำงาน)
ฉะนั้น แม้นายกรัฐมนตรีจะสั่งเจ้าหน้าที่ให้ไปเปิดประตูระบายน้ำ สมมุติว่าประชาชนไม่ยอม เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจจัดการ
ในเมื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นคนลงไปเปิดประตูน้ำเอง ก็ควรหาอำนาจมาให้เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่หาอำนาจมาให้ตัวเองเพื่อเล่นงานเจ้าหน้าที่!!
------------------------------
ที่ผ่านมาร่วม2อาทิตย์ เราจะเห็นประชาชนออกมาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการสร้างคันกั้นน้ำ ขัดขวางการเปิดประตูระบายน้ำ
เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรประชาชนได้ นอกจากได้แต่ขอร้องแล้วขอร้องอีก
การที่ยิ่งลักษณ์ประกาศใช้พรบ.สาธารณภัย อาจไม่ได้แก้ต้นเหตุที่แท้จริง แต่เหมือนเจตนาต้องการเล่นงานทางการเมืองมากกว่า
ที่ยิ่งลักษณ์ประกาศใช้พรบ.สาธารณภัยเพราะยิ่งลักษณ์และศปภ.มองว่าผู้ว่าฯ กทม.คือตัวปัญหา เพราะมีความขัดแย้งในแนวทางแก้ปัญหาที่ไม่ตรงกัน
ยิ่งลักษณ์เลยต้องหาเครื่องมือแห่งอำนาจเพื่อจะจัดการผู้ว่ากทม.
------------------------------
ปล่อยน้ำเข้ากทม.
ทุกคนเห็นด้วยกับการให้น้ำผ่านเข้ามาในกรุงเทพฯ
ผู้ว่าฯกทม.ก็เห็นด้วยที่จะเปิดให้น้ำเหนือเข้ากรุงเทพฯ แต่ที่ทำให้รัฐบาลกับผู้ว่าฯ มีปัญหากันก็คือ
ผู้ว่าฯต้องการทราบปริมาณน้ำที่แน่ชัดที่จะผ่านเข้ากรุงฯ เพราะถ้าไม่รู้ปริมาณที่ชัดเจน ก็ยากที่ควบคุม
ส่วนศปภ. บอกว่าผู้ว่าฯให้เปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด โดยไม่แจงรายละเอียดถึงปริมาณน้ำว่าวันนึงเข้ามาเท่าไหร่ จุดไหนมากแค่ไหน เพราะ ศปภ.ก็ไม่รู้ตัวเลขแน่นอนเหมือนกัน
ยิ่งที่ผ่านมาศปภ.คาดการณ์ผิดพลาดมาตลอด คำนวณปริมาณน้ำผิดพลาดมาตลอด ฉะนั้นจากสถิติที่ผ่านมาของศปภ. จึงทำให้ ผู้ว่าฯเลยไม่มั่นใจว่าคำสั่งของศปภ.จะชัวร์หรือมั่วนิ่ม
ผู้ว่าฯคงคิดว่า ถ้าปล่อยน้ำเข้ามาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าแบบโง่ๆเหมือนสมอง ศปภ.
กรุงเทพฯมีหวังจมสนิท!!
นี่จึงเป็นปัญหาของการทำงานระหว่างรัฐบาลกับผู้ว่าฯกทม.
ในสายตาศปภ. มองผู้ว่าฯกทม.คือตัวปัญหา แต่ในสายตาคนกรุงเทพฯและปริมณฑลกับนักลงทุนต่างชาติ กลับมองว่า ศปภ.นี่แหล่ะคือไอ้ตัวปัญหาตัวจริง!!
คลิกอ่าน ถ้าน้ำท่วมกทม. ใครสมควรโดนด่าที่สุด!?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ก็นายกหญิงของเรากำลังฝึกงาน และทำข้อสอบอยู่ โดยมีธงคำตอบก็คือความพังพินาศของประเทศชาติและประชาชน กรรมของคนไทยจริงๆ ที่มีนายกหญิงโง่สุดๆๆ
ตอบลบกรรมของคนเมืองหลวง
ตอบลบ