สรยุทธ สุทัศนะจินดา คือพ่อค้าข่าวและสื่อเทียม

เมื่อผมถูกเพจเรื่องเล่าเช้านี้แบน!!

แม้รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้เปิดเฟสบุ๊คแฟนเพจ ขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน2010 แต่นั่นก็ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ มีแฟนเพจแค่ไม่กี่พันคน เพราะคุณสรยุทธไม่เคยพูดถึงเพจนี้ในรายการเรื่องเล่าฯ เลย และเพจก็ไม่ค่อยๆ ได้โพสรูปเบื้องหลังรายการ หรืออัพเดตข้อมูลอะไรเท่าไหร่นัก

จนกระทั่งราวๆ เดือนพฤษภาคม2012 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดาและน้องไบรท์ได้เริ่มเชิญชวนให้แฟนรายการไปกดไลค์ข่าวในเฟสบุ๊คแฟนเพจเรื่องเล่าเช้านี้ด้วย ช่วงนี้แหละ เพจเรื่องเล่าเช้านี้ก็เลยมีแฟนเพจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากมาย กลายเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างรายการ กับประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างจริงจังขึ้นอีกช่องทาง จนมีแฟนเพจเพิ่มเป็นแสนๆ ในเวลาอันสั้น

ช่วงก่อนที่ผมจะเจอเพจเรื่องเล่าเช้านี้ ผมได้เคยไปโพสรูปข้างล่างนี้ ที่เพจครอบครัวข่าว3 ในช่วงเจาะข่าวเด่นกับสรยุทธอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเพจครอบครัวข่าว3 แบนผมชั่วคราว แต่ตอนนี้เพจครอบครัวข่าว3เลิกแบนผมแล้ว



แต่ในขณะที่เพจเรื่องเล่าเช้านี้ ผมไม่เคยไปโพสอะไรมาก่อนเลย แต่พอผมไปเจอเพจเรื่องเล่า ก็เลยรู้ว่า เพจเรื่องเล่าเช้านี้ได้แบนผมไปแล้ว แปลง่ายๆ ว่า ผมถูกขึ้นบัญชีดำ โดนแบนล่วงหน้าแล้ว

(การโดนแบนคือ ไม่สามารถแสดงความเห็น หรือไลค์ บนเพจ นั้นๆ ได้)

สาเหตุก็อย่างที่คุณผู้อ่านเห็นในรูปด้านบนนั่นแหละ ในช่วงนโยบายน้ำมันและแก๊สของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำเอาประชาชนปั่นป่วน รายการเจาะข่าวเด่นกับสรยุทธ ก็ได้แต่เชิญรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานมาออกแจงเหตผลข้างเดียวจากฝ่ายรัฐบาลอยู่หลายครั้ง หรือไม่ก็เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันจากฝ่ายบริษัทน้ำมันมาออกอยู่หลายครั้ง

ในขณะที่สว.รสนา ก็ออกข่าวในสื่ออื่นๆ ให้เหตุผลตรงกันข้ามกับฝ่ายรัฐบาลและข้อมูลจากปตท.โดยสิ้นเชิง แม้กระทั่งเรื่องราคาขายปลีกน้ำมันในสหรัฐถูกกว่าน้ำมันของบ้านเรา ตรงจุดนี้คนในโลกออนไลน์ต่างรับรู้ แต่คนในประเทศส่วนใหญ่ไม่ได้ร่วมรับรู้

แถมในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทุกๆเช้า จะมีคลิปการ์ตูนเรื่องรู้ทันแก๊ส ที่พากย์เสียงโดยคุณปุ้ย พิมลวรรณ มาเสนอข้อมูลด้านเดียวเรื่องน้ำมันและแก๊สจากปตท. ให้ประชาชนเสพข้อมูลด้านเดียวทุกวัน

หากสรยุทธเป็นสื่อที่ดี เป็นสื่อแท้ ต้องกล้าเชิญผู้ที่มีข้อมูลต่างจากฝ่ายรัฐบาลและปตท. มาแสดงข้อมูลอีกด้านให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับรู้ด้วย เพราะรายการของสรยุทธทุกรายการมีประชาชนติดตามมากมาย

แต่สรยุทธเลือกที่จะไม่เชิญ ผู้ที่มีความเห็นตรงข้ามกับรัฐบาลและปตท. เช่นสว.รสนา โตสิตระกูล

และสาเหตุเดียวที่สรยุทธไม่กล้าเชิญคุณรสนา ก็เพราะปตท. คือสปอนเซอร์รายใหญ่ที่สุดของบริษัทไร่ส้มของสรยุทธนั่นเอง

----------------------

สื่อที่ดีต้องกล้ารับฟังความเห็นต่าง กล้ารับฟังคำวิจารณ์ที่ไม่เห็นด้วยจากประชาชน แต่เพจเรื่องเล่าเช้านี้เลือกแบนผม ทั้งๆที่ผมไม่เคยไปโพสอะไรที่เพจเรื่องเล่าฯ มาก่อน

มีหลายคนเข้าไปแสดงความเห็นต่าง ก็โดนลบ โดนแบน มีอีกหลายคนที่ลองนำรูปด้านบนของผม ไปลองโพสในเพจเรื่องเล่าเช้านี้ แค่เพียงแป๊บเดียว รูปก็โดนลบทันที

หากคุณสรยุทธ ยังมีจิตวิญญาณของสื่อมวลชน(ถ้าเคยมี) ก็ต้องกล้าที่จะไม่เกรงใจสปอนเซอร์หลักของคุณ กล้าที่จะนำเสนอข้อมูลอีกด้านให้ประชาชนได้รับรู้ แต่คุณสรยุทธก็เลือกที่จะไม่ทำ

และแทบจะทุกช่วงของรายการ คุณสรยุทธต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับบรรดาสปอนเซอร์มากมาย ทำนองโฆษณาแฝงในรายการตลอด โดยอิงด้วยการแจกโน่นแจกนี่ โปรโมชั่นโน่น โปรโมชั่นนี่ แจกบัตรคอนเสิร์ตนั้นคอนเสิร์ตนี้ หลอกล่อให้คนดูส่งsms ไปชิงรางวัล มีปรากฏให้เห็นทุกช่วงข่าว

เชื่อว่า ยี่ห้อสินค้าทุกชนิด ที่ผ่านปากในรายการเรื่องเล่า แม้จะทำเป็นแกล้งพูดถึง ทั้งทางตรงทางอ้อม นั่นคงต้องจ่ายค่าโฆษณาให้สรยุทธทั้งสิ้น

ฉะนั้นผมจึงกล้าฟันธงเลยว่า คุณสรยุทธไม่ใช่สื่ออีกแล้ว คุณสรยุทธเป็นเพียง พ่อค้าขายข่าวเพื่อความร่ำรวยและชื่อเสียงเงินทองเท่านั้น




ในสายตาของผม คุณสรยุทธก็แค่พ่อค้าข่าวเท่านั้น ส่วนสื่อที่ดีเป็นยังไง คุณสรยุทธ ก็ไปดูที่คุณกิตติ สิงหาปัด ก็แล้วกัน

และถึงแม้ผมจะบอกว่า คุณสรยุทธจะเป็นแค่พ่อค้าข่าวก็ตาม แต่ผมก็ยังติดตามรายการเรื่องเล่าเช้านี้และเจาะข่าวเด่นอย่างสม่ำเสมอ

ส่วนข้อดีของสรยุทธ ผมเคยเขียนในเรื่อง บทบาทสรยุทธในช่วงน้ำท่วม

ส่วนเรื่องส่งsms ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ผมเคยตั้งกระทู้ที่เว็บสนุก ตามรูปนี้

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



(อัพเดท หลังจากเขียนบทความไปสัก1เดือน เพจเรื่องเล่าเช้านี้ ก็ได้ยกเลิกการแบนผมแล้ว)


-->