วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินไม่โปร่งใส คดียิ่งลักษณ์โฟร์ซีซั่น





คดียิ่งลักษณ์แวบออกจากประชุมสภา เพื่อไปปฏิบัติภารกิจบางอย่างที่ไม่เปิดเผย แต่อ้างว่าไปเรื่องช่วยเหลือประชาชน แต่ดันไปโผล่ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น จนเป็นที่สงสัย ครหา ติฉินนินทาในฐานะผู้นำประเทศดอดไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มันสมควรแล้วเหรอ?

เรื่องนี้ได้มีการร้องเรียนไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เพื่อให้วินิจฉัยเรื่องจริยธรรมนายกยิ่งลักษณ์ ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินสรุปวินิจฉัยว่า ยิ่งลักษณ์ไม่ผิดจริยธรรม

55555 ผมล่ะขำกลิ้งกับวินิจฉัยของคณะผู้ตรวจการแผ่นดินยุคนี้จริงๆ เพราะถึงแม้ผู้ตรวจการไม่ใช่ศาล ก็ควรจะหัดดูศาลแถลงบ้างว่า ศาลแถลงจะให้เหตุและผลที่ชัดเจนไม่กำกวมดั่งที่พวกผู้ตรวจการแผ่นดินกระทำในคดีว.5เอาอยู่ที่โฟร์ซีซั่นของยิ่งลักษณ์

ซึ่งทำให้สถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาต้องมามีอันมัวหมอง ไร้น้ำยา เพราะวินิจฉัยที่ปกปิดซ่อนเร้น เป็นที่น่าเคลือบแคลงต่อประชาชนอย่างผมจริงๆ ผมล่ะเสียดายเงินภาษีชาติที่จ่ายเงินเดือนอย่างสูงให้ผู้ตรวจการแผ่นดินชุดนี้ทำงาน จริงๆ เลย พับผ่า!!

เราลองมาดูแถลงวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินในคดียิ่งลักษณ์ไปโฟร์ซีซั่นกันก่อนว่า ห่วยแตกแค่ไหน สังเกตที่ผมขีดเส้นแดงเอาไว้



ประเด็นแรกที่ผมขีดเส้นแดงคือ

"..การประชุมยังไม่มีประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงต่อที่ประชุม และเมื่อมีงานในความรับผิดชอบที่ต้องเร่งรัด ติดตามการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงมิได้อยู่ร่วมในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงต้นของการประชุม.."

akecity ขอสงสัย ในเมื่อนายกเป็นคนของประชาชน แล้วไปแก้ปัญหาเดือดร้อนเรื่องอะไรล่ะ? ทำไมนายกถึงไม่กล้าให้สัมภาษณ์บอกกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับภารกิจนี้ ทำไมมีแต่พวกลิ่วล้อออกมาตอบคนละที2ที แถมพูดไม่ตรงกันด้วย

akecity ขอถามผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ตกลงแล้ว ท่านนายกไปแก้ปัญหาประชาชนเรื่องอะไร ? ผู้ตรวจการทำไมไม่ใส่ลงในคำวินิจฉัยด้วย?? ลับนักเหรอไง?

ไปแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยไปประชุมที่โฟร์ซีซั่นนี่นะ ? แล้วทำไมผู้สื่อข่าวที่ติดตามนายก ถูกขอร้องให้ไม่ต้องตามไปทำข่าว โดยผู้ติดตามนายกอ้างว่า นายกไปทำเรื่องส่วนตัว ?

ท่านผู้ตรวจการวินิจฉัยว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจน จึงถือว่าไม่ผิดจริยธรรม อ้างง่ายดีนะท่านผู้ตรวจการ แถมอ้างแบบเดียวกันไปซะทุกข้อเลยนะ ง้้นลองตามอ่านบทความของผมในประเด็นต่อไป


ประเด็นที่2 ที่ผมขีดเส้นแดงคือ

"..เมื่อพิจารณาจากเอกสารหลักฐานจากคำร้องเรียนและจากการชี้แจงข้อเท็จจริง ยังไม่ปรากฏหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการกระทำที่เป็นการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจหรือมีการกระทำที่นำไปสู่การได้ประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง.."

akecity ขอถามในประเด็นนี้กับผู้ตรวจการว่า ก็ในเมื่อไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน แล้วท่านวินิจฉัยไปได้อย่างไรว่า ไม่ผิดจริยธรรม?

การที่ทำอะไรไม่โปร่งใส ไม่เปิดเผยให้ชัดเจน แถมอ้างว่าไปแก้ปัญหาประชาชนโดยไปหานักธุรกิจอสังหานี่แหละ ผิดจริยธรรมชัดๆ เพราะโกหกไง

ถ้าไม่โกหกก็ต้องชี้แจงชัดเจนได้ว่า ไปคุยกับนักธรกิจด้วยเรื่องอะไร เกี่ยวข้องกับแก้ปัญหาประชาชนตรงไหน ไปในเวลาราชการไปด้วยเรื่องส่วนตัว แถมเปิดเผยไม่ได้ ไม่ผิดเหรอ ?

ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ในเมื่อท่านยังไม่รู้ว่าเขาไปคุยเรื่องอะไรกันอย่างชัดเจน ท่านดันตัดสินว่าไม่ผิดจริยธรรมซะแล้ว ผมจึงขอมองว่า ท่านผู้ตรวจการเองนั่นแหละ ที่กำลังผิดจริยธรรมในการทำหน้าที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ด้วยบกพร่องในหน้าที่ ที่วินิจฉัยไม่โปร่งใสครับ


ประเด็นที่3 ที่ผมขีดเส้นแดงไว้ คือ

"..เห็นว่าสถานที่นั้นเป็นสถานที่เปิดเผยและมีผู้ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรีหลายคน ประกอบกับไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานหลักฐานที่ชี้ชัดได้ว่ามีการกระทำส่อไปในทางชู้สาว.."

akecity ล่ะขอสมเพชท่านผู้ตรวจการแผ่นดินทั้งหลายจริงๆ กินภาษีชาติเสียเปล่า มีปัญญาวินิจฉัยได้แค่นี้

สถานที่เปิดเผยที่ผู้ตรวจการอ้างน่ะ แล้วรู้ได้ไงว่า ว่าเขาไม่ปิดประตูอยู่กันตามลำพัง แม้โรงแรมเป็นสถานที่เปิดเผยก็จริง แต่ในห้องน่ะ สามารถทำให้ลับหูลับตาอะไรก็ได้ ถ้าอยากจะทำจริงๆ

และนักธุรกิจหลายคนเขาก็ออกมาปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ไปประชุมลับกับนายก ตามที่นายกิตติรัตน์และสื่อบางสื่อเอามาอ้างสักหน่อย

คลิกอ่าน สื่อมติชนแก้ตัวแทนให้ยิ่งลักษณ์

นี่ก็เห็นชัดแล้วมีการโกหก มีการปกปิดข้อมูลจริงเอาไว้

และที่ผู้ตรวจการแผ่นดินอ้างว่า นายกไปกับคนหลายคน จึงไม่น่าเกี่ยวกับชู้สาวนั้น

ผมakecity ขอขำในความละอ่อนของผู้ตรวจการแผ่นดินซะจริงๆ ตัวอย่างเช่น sex หมู่ น่ะ เคยได้ยินมั้ยท่านผู้ตรวจการ??

แล้วถึงจะมีผู้ติดตามของนายก ตามไปหลายคน ถามว่า นายกจะสั่งให้ลูกน้องลงไปรอในรถข้างล่าง หรือให้รอหน้าประตูห้องได้หรือไม่? เจ้านายขอไปปฏิบัติภารกิจลับในห้อง ให้ลูกน้องรอหน้าห้องก็ได้

ผู้ตรวจการอ้างว่า ไม่มีหลักฐานซี๊ดซ๊าด เอ้ย ชี้ชัดได้ว่ามีการกระทำไปในทางชู้สาว

โถๆ ท่านผู้ตรวจการ ในเมื่อไม่มีหลักฐานชัดเจน มันก็สามารถตีความไปได้มากมายหลายทาง ทั้งเป็นเรื่องชู้สาวก็ได้ ผลประโยชน์ทับซ้อนก็ได้ หรืออาจไม่ใช่ทั้งสองอย่างเลยก็ได้

ในเมื่อไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่เมื่อเป็นผู้นำประเทศ ทำอะไรที่ไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใสแบบนี้ เขาเรียกว่า ผิดจริยธรรมที่ดีของผู้นำประเทศแล้วครับท่านผู้ตรวจการ เหวยๆ

---------------------

เพราะเรื่องจริยธรรมนักการเมือง ต่างจากคดีความในศาล

ศาล จะยกประโยชน์ให้จำเลย หากหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่ชัดเจน

ส่วนจริยธรรมนักการเมือง หากกระทำอะไรไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใส ตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างชัดเจนไม่ได้ นั่นแหละ เรียกว่า ผิดจริยธรรมแล้ว

ผู้ตรวจการแผ่นดินจงสำเหนียกรับทราบ และตระหนักไว้ด้วย

ลองอ่านเรื่องจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดูว่า ยิ่งลักษณ์เข้าข่ายผิดกี่ข้อ
จริยธรรมนักการเมืองจากเว็บผู้ตรวจการแผ่นดิน

---------------------

สรุป

ผมขอสรุปเลยแล้วกันว่า ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่านายกยิ่งลักษณ์ไม่ผิด ด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ เช่นนี้

ผมขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เชื่อใจในความบริสุทธิ์ใจในการตัดสินของคณะผู้ตรวจการแผ่นดินชุดนี้ทั้งคณะ

ผมค่อนข้างสงสัยอีกว่า ที่ท่านวินิจฉัยกรณีรมช.ณัฐวุมิ ไม่เหมาะเป็นรมช. เพราะผิดหลักจริยธรรมนั้น ทำไปเพราะจะได้มาปล่อยคดีนายกยิ่งลักษณ์แทนใช่มั้ยล่ะ? (รู้ทันนะ)

แบบที่เขาเรียกว่า ยอมตัดสินให้คดีตัวเล็กผิด แล้วแกล้งปล่อยให้ตัวใหญ่หลุดคดีแทน

ทุกวันนี้ นายณัฐวุฒิ ก็ยังเยาะเย้ยในคำวินิจฉัยของพวกท่าน แถมยังดำรงตำแหน่งรมช.ต่อไป

ฉะนั้น คำวินิจฉัยว่า ยิ่งลักษณ์ไม่ผิดในคดีโฟร์ซีซั่น ของผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไร้ราคาในสายตาประชาชนธรรมดาๆ อย่างผมครับ

ขอไว้อาลัยให้แก่คำวินิจฉัยโหลยโท่ยของคณะผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา


คลิกอ่าน ตอบโอ๊คแต๋วแตก ทำไมประชาธิปไตย์แพ้ดีกว่าชนะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมฮาแม้วจรจัด!! ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป ถ้าชอบใจก็ขอเสียงเชียร์ และขออภัยหากทำให้พวกคาราบาวแดงกระอัก ^^