วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555
ตรรกะตื้นๆ ของสุธาชัย ยิ้มอัปมงคล
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์จุฬาฯ ผู้ที่เคยใช้ตำแหน่งตัวเองขอยื่นประกันตัว นางดา ตอปิโด ผู้หญิงที่ใช้วาจาหยาบคายต่อพระมหากษัตริย์และพระราชินี บนเวทีนปก. เมื่อหลายปีก่อน
นายสุธาชัย ใช้ความฉลาดระดับอาจารย์ สร้างตรรกะเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เปรียบเทียบกับพระพุทธรูป ตามรูปนี้
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
หากมองและอ่านอย่างผิวเผิน ก็เป็นการง่ายที่คนเสื้อแดงจะหลงเชื่อในตรรกะตื้นๆนี้
แต่ความจริงแล้ว กฎหมายอาญาไทย แม้ไม่ได้มีกฎหมายระบุถึงโดยตรงถึงพระพุทธรูป แต่ก็มีกฎหมายป้องกันโดยสังเขป ตามนี้
มาตรา 206 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ”
สุธาชัยเอ๋ย การบอกว่าไม่มีกฎหมายห้ามหมิ่นพระพุทธรูปนั้นพูดชุ่ยๆนี่ เห็นมั้ย ขนาดพระพุทธรูปที่ไม่สามารถออกมาตอบโต้ หรือแก้ต่างให้ตัวท่านเองได้ กฏหมายยังคุ้มครองเอาโทษคนลบหลู่ติดคุกมากถึง7ปี เชียวนะ สุธาชัย!!
แล้วที่สุธาชัยเอาตรรกะกฎหมายพระพุทธรูปมาเทียบกับกฎหมายของมนุษย์ปุถุชนนี่นะ ตรรกะสุธาชัยอ่อนนี่หว่า?
แล้วสุธาชัยทำไมไม่พูดถึงกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไปด้วยเล่า กฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไปมีไว้ทำไม?
สุธาชัย จะเอาตรรกะไม่มีกฎหมายหมิ่นพระพุทธรูป มาเปรียบเทียบกับมาตรา112 ไม่ได้หรอกนะสุธาชัย
ถ้าสุธาชัยไม่อยากให้มาตรา112 มีอยู่ สุธาชัยก็ควรรณรงค์ยกเลิกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไปด้วยสิ
ทำไมนิติราษฎร์และสุธาชัย ถึงได้เห่ยเช่นนี้ ไม่อยากให้มีมาตรา112
แล้วกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป กฎหมายหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทศาล หรือหมิ่นประมาทประมุขรัฐอื่นๆ ทำไมสุธาชัยไม่พูดถึงบ้างวะ?
------------------------
ไม่มีกฎหมายบังคับใจใครให้เคารพสถาบันกษัตริย์หรอกนะสุธาชัย
แต่กฎหมายเขามีไว้เพื่อไม่ให้ใครลบหลู่หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ต่างหาก
ถ้าสุธาชัย กับนิติราษฎร์ ไม่เคารพสถาบันกษัตริย์ ก็ไม่มีใครว่าหรอก ถ้าตราบใดสุธาชัยและนิติราษฎร์ไม่หมิ่นไม่ด่า ไม่อาฆาตมาดร้ายสถาบันกษัตริย์ให้คนอื่นเขาได้ยินได้เห็น จริงมั้ย?
ถ้าสุธาชัยไม่เคารพ ไม่รักสถาบันกษัตริย์ ก็เก็บไว้ในใจสุธาชัยสิ เก็บไว้ในใจ น่ะทำได้มั้ย?
เหมือนคนศาสนาอื่นๆ แม้เขาจะไม่เคารพพระพุทธรูป แต่หากเขาเป็นคนดีมีศีลธรรมในใจ เขาย่อมไม่ลบหลู่ในสิ่งที่คนอื่นศาสนาอื่นเคารพ จริงหรือไม่?
สถาบันกษัตริย์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่เคารพก็เก็บไว้ในใจสิ แต่การพยายามจะหาทางทำลายสิ่งที่ปกป้องสถาบันไว้ เจตนาเพื่ออะไรล่ะ สุธาชัยเอ๋ย?
แล้วสุธาชัยเองพูดอย่างกับว่า มาตรา112 เอาไปใช้ใส่ร้ายคนอื่นได้ง่ายๆอย่างนั้นแหล่ะ ระบบยุติธรรมมีอยู่ ใครที่ถูกใส่ร้าย ก็เอาหลักฐานไปสู้สิ สุธาชัยพูดอย่างกับว่า คนที่โดนคดีมาตรา112 มันโง่ไม่รู้ว่า ระบบยุติธรรม เปิดโอกาสให้ต่อสู้คดีได้
อย่างเช่นกรณีส..ศิวรักษ์ โดนคดีหมิ่นตามมาตรา112 ไปหลายครั้ง ทำไมส.ศิวรักษ์ กลับไม่เคยติดคุกสักคดีหว่า? สุธาชัยคิดสิคิด!!?
อย่างกรณีนังดา ตอปิโด ถ้าสุธาชัยไม่ชั่วและเลวเหมือนนางดา ย่อมรู้ว่านางดา มันผิดเต็มประตู
เพราะผมเองก็ฟังคลิปที่นางดามันปราศัยชัดเจนว่ามันหมิ่นสถาบันอย่างหยาบคาย
การที่สุธาชัยกลับไปปกป้องนังดา ตอปิโด สุธาชัยก็คงเลวไม่ต่างจากนังดา ตอปิโดเท่าไหร่หรอก
เพราะคนชั่วย่อมปกป้องคนชั่วด้วยกัน
--------------
ถ้าสุธาชัยไม่ชั่วจนเกินไป ลองเปิดกะลาออกไปอ่านกฎหมายของประเทศอื่น ๆ เขาบ้างนะ ว่าเขาก็มีกฎหมายปกป้องประมุขเหมือนไทยนี่แหล่ะ
แนะนำให้สุธาชัยไปอ่านบทความของ ศ.ดร. บวรศักดิ์ได้ ที่ http://astv.mobi/ADIjhaA
-------------------------
ขอยกตัวอย่างคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสนธิ ลิ้มอีกครั้ง
สนธิ ลิ้ม นำคำพูดของนังดา ตอปิโด มาเผยแพร่บนเวทีพันธมิตร เพื่อให้ประชาชนรู้ว่า นังดา มันผิดตรงไหน
สนธิ จึงโดนคดีหมิ่นมาตรา112 ทั้งๆ ที่เจตนาของสนธิ ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นจริงๆ เหมือนที่นังดากระทำ
พวกเสื้อแดงเอง ก็เรียกร้องให้เอาผิดสนธิลิ้มตามมาตรา112
ตามความจริงกฎหมายเขาดูที่เจตนา
กรณีสนธิ ชัดเจนว่า ถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้มาตรา112 ดำเนินคดีอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไหร่ แต่นิติราษฎร์กับเสื้อแดง ก็ไม่เคยออกมาปกป้องช่วยเหลือคดีสนธิ ลิ้ม เพราะอะไรล่ะ?
สนธิ เอง แม้ถูกดำเนินคดีหมิ่นตามมาตรา112 ทั้งๆที่ ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นสถาบันจริงๆก็ตาม (แต่ก็ถือว่าผิด เพราะไปเผยแพร่ข้อความที่ไม่สมควรออกไป)
แต่สนธิ ลิ้ม ก็ไม่เห็นออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา112 เลย นั่นก็เพราะ กระบวนการยุติธรรมมีอยู่ ก็สู้คดีกันไปสิ
อย่าเพียงแค่ปกป้องคนทำผิดทำชั่วเลวๆ บางคน จนถึงกับล้มกฎหมายที่มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทยจริงไหม? เว้นแต่เป็นความคิดของพวกเจตนาชั่วเท่านั้น
(อัพเดท!! ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย.55 ศาลได้ตัดสินยกฟ้องให้สนธิลิ้ม พ้นจากข้อกล่าวหาหมิ่นตามมาตรา112 ไปแล้ว คลิกอ่านข่าว)
คลิกอ่าน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ของข้ารองบาท
เด็กเมื่อวานซืนอย่างนิติราษฎร์เก่งเหมือนใคร?
-->
นิติราษฎร์อวดเก่ง นึกว่าการที่อวดเสนอความคิดขอแก้มาตรา112 จะเป็นพวกหัวก้าวหน้างั้นเหรอ? ยกหางกันเองมากกว่ามั้ง?
ความจริงก็คือ นิติราษฎร์เป็นนักวิชาการหัวก้าวหน้าลงเหว ซะมากกว่า
นิติราษฎร์ที่ว่าเก่ง แต่เก่งแบบเด็กฝรั่ง2คนในคลิปนี้ไง
เด็กตัวใหญ่คนพี่แทนวรเจตน์ เด็กคนน้องแทนปิยบุตร ไง
(ผมไม่ได้ซ้ำเติมเด็ก2คน แต่คลิปนี้ชัดเจนมากที่จะนำมาเปรียบเทียบกับพวกอวดเก่งประเภทท่าดีทีเหลวอย่างนิติราษฎร์)
---------------
และเนื่องจากคลิป fail ของพี่น้อง2คนด้านบนนั้นดังมาก จึงมีคนทำการ์ตูนล้อเลียนตามมาอีก
v
v
v
ส่วนใครกำลังคิดว่า สงสารเด็กคนที่โดนตู้ทับ จะตายมั้ย?
คำตอบก็คือ คนในยูทูปส่วนใหญ่เชื่อว่า นี่ไม่ใช่ fail แต่เป็นfake ครับ ^^ ลองไปหาดูเฉลยได้ในยูทูป
จะfail จริงๆ หรือจะfake ก็เหมือนพวกนิติราษฎร์อยู่ดี เพราะอวดเก่งแต่ท่าดีทีเหลว หรือไม่ก็เก่งแต่หลอกลวง
นิติราษฎร์กากเจงๆ
คลิกอ่าน เมื่อปราบดา หยุ่น อยากเนรคุณแผ่นดิน
วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555
เมื่อปราบดา หยุ่น อยากเนรคุณแผ่นดิน?
คุณผู้อ่านครับ พอดีไปเจอที่เพจของเสื้อแดง เขาชื่นชมคำพูดของปราบดา หยุ่นกัน
ตามรูปนี้
คลิกที่รูปเพือขยาย!!
http://imgur.com/BrqpKan
"เป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าไม่อยากจงรักภักดี ก็ย้ายไปอยู่ประเทศอื่นซะสิ"
เมื่อใดที่พวกที่ไม่จงรักภักดี ได้ยินคำถามประเภทนี้ตามที่นายปราบดา หยุ่นยกขึ้นมาอ้าง พวกนี้จะเจ็บปวดครับ เพราะมันตอบไม่ได้ และแทงใจดำพวกมันมาก
เมื่อพวกมันตอบไม่ได้ พวกนี้ก็จะใช้วิธีกระแนะกระแหนโต้กลับแทน แบบที่นายปราบดา หยุ่น กำลังใช้ตามรูปนี่แหล่ะครับ
ซึ่งจริงๆแล้วประเทศไทยของเรานี้ เราเรียกประเทศไทยแบบเต็มๆ อย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรไทย
คำว่า ราชอาณาจักรไทย ก็แปลง่ายๆว่า แผ่นดินของราชา หรือ แผ่นดินแห่งพระราชา
ซึ่งผมเคยแปลความหมายของคำว่า ราชอาณาจักรไทย ไว้แล้ว ที่บทความเรื่อง ราชอาณาจักรไทย คือแผ่นดินของพระราชา ในบล็อคมุมมองใหม่เมืองเอก
ลองไปอานดูนะครับ ผมอธิบายได้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่อง แผ่นดินของพระราชา ซึ่งพวกบ้าประชาธิปไตยควรอ่านซะนะ
--------------------------------
อย่างเวลาพวกไม่จงรักภักดี โดนคำด่าที่ว่า เป็นคนไทยหรือเปล่า?
หรือ ถ้าคุณไม่จงรักภักดี ก็ควรออกไปจากแผ่นดินนี้ไปซะ
แบบที่คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ พูดบนเวทีนาฏราช นั่นก็ทำให้พวกล้มเจ้ามันแค้นใจยิ่งนักครับ เพราะแทงใจดำพวกนี้อย่างจัง
แต่พวกนี้มันหน้าด้าน ไล่มันมันก็ไม่ไปหรอกครับ
ราชอาณาจักรไทย ชื่อนั้นบอกอยู่แล้ว ว่าแผ่นดินนี้เป็นของใคร?
เมื่อใครมันไม่จงรักภักดีพระมหากษัตริย์ หรืออยากจะลบหลู่พระเจ้าแผ่นดินไทย นั้น
เราสามารถเรียกพวกมันได้เลยว่า พวกเนรคุณแผ่นดิน!! ได้อย่างถูกต้องและชอบธรรมด้วย
เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยยังคงเป็น ราชอาณาจักรไทย!! แผ่นดินแห่งราชา
ไม่ใช่สาธารณรัฐประชาชนไทย แบบที่นายปราบดา หยุ่นหรือพวกนิติราษฎร์กระเหี้ยนกระหือรืออยากให้เป็น!!
ฉะนั้นนายปราบดา หยุ่น ถ้าคุณไม่จงรักภักดีพระราชา คุณก็เนรคุณแผ่นดินที่บรรพบุรุษชาวจีนตระกูลหยุ่นของคุณมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าแผ่นดินไทย
ปราบดา หยุ่น ลูกหลานเจ๊กเนรคุณแผ่นดินไทย!!
คลิกอ่าน มาตรา133 134 ที่พวกนิติราษฎร์ไม่พูดถึง
วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555
ยิ่งลักษณ์ ดีแต่สวย รวยแต่โ..!!
ตอนที่ผมยังตั้งกระทู้แซวนายกยิ่งลักษณ์ที่สนุกได้ประจำ ก็มักมีพวกคนรักปู ออกมาโจมตีว่า ชอบจับผิดนายก วันๆไม่มีอะไรทำเหรอ? ถึงเอาแต่จ้องจับผิด พวกชอบสร้างความแตกแยก
คำด่าแบบนี้มีให้พบบ่อยมากๆ ในกระทู้ของakecity
ผมกลับชอบนะที่มีคนแสดงความเห็นแบบนี้ ไม่ใช่ชอบที่โดนด่าหรอก
แต่ผมชอบที่รู้ว่า คนรักปูมันทนไม่ได้!! 555
แต่ระยะหลังๆ สนุกเขาไม่ค่อยปล่อยให้ผมโพสอะไรมันส์ๆเท่าไหร่แล้ว ผมเองก็ชักเบื่อเว็บสนุก สู้เอามาลงบล็อคเซียนแซวการเมืองของผมดีกว่า
จริงมะ ท่านผู้อ่าน?? ^^
---------------------------------
ยิ่งลักษณ์เดินเหมือนนกเพนกวิน
ผมสังเกตการเดินตรวจแถวทหารของยิ่งลักษณ์หลายครั้ง ในหลายประเทศ รวมทั้งที่กองทัพบกด้วย ผมสังเกตว่า ยิ่งลักษณ์เธอเดินแบบหนีบๆ (คิดเอาเองหนีบอะไร) แล้วก็แขนไม่ค่อยแกว่งเท่าไหร่ แถมปลายแขนจะกางออกนิดๆ
ซึ่งผมมองว่ายิ่งลักษณ์เธอคล้ายกับนกเพนกวิน ตามรูปนี้ครับ
ส่วนมันสมองและทักษะการเอาตัวรอด นกเพนกวินเหนือกว่ายิ่งลักษณ์แบบเห็นๆ
ดูเพนกวินไปจ่ายตลาดเองตัวเดียวดีกว่า (แต่ปูไปจ่ายตลาดคนเดียวไม่ได้หรอก)
-----------------------------
ยิ่งลักษณ์ในมาดสาวนักบิน
เห็นพวกเสื้อแดงในเว็บบอร์ดต่างๆ กระดี๊กระด๊าชื่นชมยินดี เห็นยิ่งลักษณ์ในชุดนักบิน แล้วก็เอาไปเปรียบเทียบกับพี่ชายหน้าเหลี่ยมของเธอในชุดนักบินกันใหญ่ ว่าเท่เหมือนไอ้เหลี่ยม เป็นสองพี่น้องนายกในประวัติศาสตร์
ผมอยากจะบอกว่า เหมือนกันมาก ๆ ก็ไม่ดีนะครับ เพราะตอนเริ่มต้นเป็นนายกเหมือนกัน ส่วนตอนจบอาจเป็นสัมภเวสีเร่รอน ไม่มีแผ่นดินแม่ให้อยู่เหมือนกัน นะสิบอกให้!!
ไม่ค่อยเข้าประชุมสภาไทย อ้างติดงาน อ๋อ ที่แท้งานแต่งชุดนักบินเพื่อชมเครื่องบินโชว์นั่นเอง (พอโดนสภาถามว่าหายไปไหน ตอนหลังเธอรีบเข้ามาประชุมบอกติดงาน แต่ความจริง ไปดูโชว์เครื่องบิน)
--------------------------------
ดีแต่สวย เจงๆ
ไม่เข้าประชุมสภาไทย อ้างติดงาน แต่ถ้าให้ไปนั่งตีหน้าสวย ปูว่างเสมอ!!
นี่แหล่ะงานหลักงานถนัดของปู!!
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
ยิ่งลักษณ์โพสสวยหน้าทัชมาฮาล
ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรัก (ส่วนปูมีแต่อนุสรณฺ์ อมรฉัตร)
ทักษิณพจมาน คืออนุสรณ์แห่งความเลว!!
วันนี้พอแค่นี้ก่อน ^^
วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555
มาตรา133-134 ที่นิติราษฎร์มันไม่พูดถึง!!
พวกนิติราษฎร์ กระสันอยากจะแก้ประมวลกฏหมายอาญามาตรา112 ซึ่งมีไว้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยโดยเฉพาะ
ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
แต่นิติราษฎร์ กลับไม่เคยพูดถึงอยากจะแก้มาตรา133 และมาตรา134 ที่ปกป้องคุ้มครองประมุขและผู้แทนรัฐต่างประเทศเลย?
การหมิ่นประมาทบุคคลสำคัญของรัฐต่างชาติ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 133 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 134 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จะเห็นได้ว่า ไทยเราก็มีกฏหมายคุ้มครองปกป้องประมุขของชาติอื่นในราชอาณาจักรไทยเช่นเดียวกัน ไม่ได้ 2 มาตรฐานแต่อย่างใด
เพียงแต่บทลงโทษมาตรา112 อาจมีโทษหนักกว่าบ้าง ก็เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติไทย และสถาบันอันที่เป็นรักของเรา
------------------------------
"คนจีนสอนลูกหลานให้กราบไหว้บรรพบุรุษ เพื่อระลึกถึงพระคุณของบรรพชน แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพชน ที่สร้างรากฐานให้ตระกูลได้มีมั่นคงมาถึงลูกหลาน
ผมมองหน้าไอ้พวกนิติราษฎร์ ดูหน้าตาพวกมันแล้ว ก็เห็นว่าเป็นลูกเชื้อสายจีนกันทั้งนั้น สงสัยพวกมันคงเป็นพวกลูกหลานเจ๊กกบฎเนรคุณบรรพชนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าแผ่นดินสยาม!!
ก่อนที่พวกนิติราษฎร์จะคิดแก้มาตรา112 พวกเอ็งลองกลับไปด่าบรรพชนของพวกเอ็งก่อนแล้วกันว่า เสือกมาพึ่งพาอาศัยแผ่นดินนี้กันทำไม?"
ใหม่เมืองเอก.
---------------------------------
โฉมหน้าพวกJanrai nittirat
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
http://imgur.com/XENNNHu
-------------------------------
ความเห็นของบุคคล 2 ท่านเกี่ยวกับพวกนิติร่าน !!
กนก รัตน์วงศ์สกุล
"ทุกๆ 10 นาที จะมีคนโพสต์ต่อต้าน กลุ่มที่จะขอแก้มาตรา 112 ลงที่เฟซบุ๊คนี้ ผมก็ตามอ่านตลอด บางคนลงรูปของอาจารย์นิติฯ ธรรมศาสตร์ ที่เป็นหัวหอกแก้มาตรานี้ ซึ่งผมจะลบออกทุกครั้ง เพราะไม่อยากเห็นหน้าคนกลุ่มนี้บนเฟซบุ๊คผม
ถ้าพวกนี้อายุ 30 – 40 กว่าปี ตามที่เสธ.หนั่นไล่ให้ไปอ่านประวัติศาสตร์ ผมสงสัยว่า พ่อแม่เขายังอยู่หรือเปล่า รุ่นพ่อรุ่นแม่น่าจะทันได้เห็น ”ในหลวง” ทรงงานมาตลอด ถ้าลูกไม่ใส่ใจในความเป็นกษัตริย์นักพัฒนา มัวแต่ดื้อด้านจะแก้กฎหมายท่าเดียว
แล้วพ่อแม่พวกนี้ทำอะไรอยู่..ไม่ห้ามปรามเลยหรือ? หรือวายชนม์ไปหมดแล้ว?
ผมขอโทษนะครับ อย่าหาว่าผมก้าวล่วง แต่อยากถามคนกลุ่มนี้จริงๆว่า พ่อแม่คุณอบรมสั่งสอนหรือเปล่า?"
------------------------------
ความเห็นของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.
อยากจะเรียนไปยังบางส่วนว่า ต้องกลับไปทบทวนว่า ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ท่านครองราชย์มาจนมีพระชนมายุ ๘๔ พรรษามาแล้ว แต่คนที่เป็นนักวิชาการอายุเพียงแค่ ๓๐-๔๐ ปี เรียนหนังสือจบมาแล้วไปเรียนต่อ เคยได้ทำคุณประโยชน์อะไรให้แก่แผ่นดินบ้างหรือไม่ เพียงแค่เรียนหนังสือจบมาแล้ว เอาความรู้ต่างๆ เหล่านั้นมาเพื่อจะแก้โน่น-แก้นี่ ซึ่งยังไม่เคยลองปฏิบัติอะไรสักอย่าง
ต้องเข้าใจว่า สถาบันทรงมีคุณต่อแผ่นดินอย่างไรเป็นประเด็นสำคัญ ผมไม่สามารถไปบังคับใครได้ ถ้าพูดแรงไปก็จะหาว่าไปบังคับ หรือผูกขาดความจงรักภักดี ไม่ใช่...แต่ต้องการให้ทุกคนระลึกอยู่เสมอว่า บ้านเมืองมีชื่อเสียงเกียรติยศในโลกนี้ ส่วนใหญ่ที่รู้จักประเทศไทย รู้จักมาจากสถาบันก่อนทั้งสิ้น
ท่านทรงครองราชย์ เสด็จฯ แปรพระราชฐาน เสด็จฯ เยี่ยมเยียนประเทศต่างๆ จนเขารู้จักประเทศไทยตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ และถึงวันนี้ไม่รู้ว่าใครมาจากไหนเหมือนกัน ชาติตระกูล เกิดประเทศไทยหรือไม่...ไม่รู้
ถ้าท่านพูดจาแรง พูดไม่ดีต่อสถาบัน ผมจำเป็นต้องใช้คำพูดที่ไม่ดีกับท่าน เพราะท่านไม่เคยสำนึกในผืนแผ่นดินไทยเลย ผมเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง คนทั้งแผ่นดินเคารพเทิดทูน แต่ท่านมาทำลายความรู้สึกของคนทั้งแผ่นดิน
ขอถามว่าท่านจะได้อะไร
อย่าให้ว่า...ผมใช้คำรุนแรง เมื่อท่านรุนแรง ผมก็รุนแรงกับท่าน แต่ผมอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่มีการทำอะไรนอกกฎหมายทั้งสิ้น ท่านอย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน"
คลิกอ่าน ตรรกะเพี้ยนๆ ของนิติทรราช!!
วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555
ตรรกะเพี้ยน ๆ ของนิติราษฎร์ (นิติร่าน)
1. นิติราษฎร์ เสนอให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานพระองค์ก่อนขึ้นครองราชย์
นี่คือความคิดที่เอาไปเปรียบเทียบกับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแหงๆ ที่ต้องสาบานก่อนเข้ารับตำแหน่ง
โถๆ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าคำสาบานธรรมดาๆ แบบที่สติปัญญาน้อย ๆ ของพวกนิติราษฎร์จะคิดได้
เรื่องนี้ฟังสว.คำนูณ ชี้แจงดีกว่าชัดเจนจริงๆ ว่าในหลวงได้ทรงสาบานตนต่อประชาชนแล้ว ไปอ่านได้ที่ http://astv.mobi/AR1tQAv
แล้วตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่อาจมาเปรียบเทียบกับพระมหากษัตริย์ได้เลย การคิดมาเปรียบเทียบเท่ากับหมิ่นพระเกียรติแท้ๆ
แนะนำอ่าน ตำแหน่งประธานาธิบดีฐานันดรเทียบเท่านายกรัฐมนตรี
2. ปิยบุตร แสงกนกกุล เสนอแนวคิด ห้ามพระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัส(สด)ต่อสาธารณะชน
ตรรกะนี้เพี้ยนสุดๆ มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิพูดในที่สาธารณะได้
แต่อยู่ๆ ปิยบุตร นิติราษฎร์ กลับมาลดสิทธิอันชอบธรรมของพระมหากษัตริย์ให้เหลือน้อยกว่าคนธรรมดา?
ถ้าปิยบุตรไม่ใช่คนโง่และเลว คิดไม่ได้นะนี่ตรรกะเลว ๆเพี้ยน ๆ แบบนี้
ตรงจุดนี้ถือว่า พวกนิติราษฎร์ได้กระทำการหมิ่นพระเกียรติต่อสถาบันเลยทีเดียว เพราะจำกัดสิทธิของสถาบันให้น้อยกว่าคนทั่วไป
แนะนำอ่าน ปิยบุตร ก๋งเมิงเตี่ยเมิงเป็นใคร?
3. นิติราษฎร์ชอบอ้างว่ามาตรา112 ถูกใช้ในการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง
โถๆ ใครถูกใส่ร้ายป้ายสีก็สู้คดีด้วยหลักฐานพยานกันไปสิ กระบวนการยุติธรรมมีอยู่ ถ้าคิดว่ากฏหมายมีไว้เพื่อใส่ร้ายป้ายสี แล้วจะมาคิดล้มกฏหมายทิ้ง
ต่อไปใครถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย ก็คงต้องยุบกฏหมายหมวดฆาตกรรมทิ้งด้วยเหรอ?
คิดสิคิด !!
ใครใส่ร้ายผู้อื่น กฏหมายก็ให้ฟ้องกลับเอาผิดได้ การแจ้งความเท็จก็ผิดกฏหมายอยู่แล้ว
ซึ่งมาตรา112 ไม่ได้จำกัดการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมสักหน่อย พวกนิติราษฎร์แถได้เลวแท้
4. นิติราษฎร์ อ้างเหลือเกินเรื่องสิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็น
เพราะนิติราษฎร์มันไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกมันพยายามจะลดสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ลงมาเป็นเพียงบุคคลธรรมดาเท่านั้น
เพราะถ้าเป็นสถาบันหลักของชาติ พวกมันย่อมลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ แต่เพราะพวกมันอยากลบหลู่ดูหมิ่น มันเลยอยากแก้มาตรา112 แล้วอ้างสิทธิเสรีภาพบังหน้า
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
แนะนำอ่าน มาตรา112ที่รัก
5. นายวรเจตน์ วรนุส พูดไว้ว่า
"เพราะผมเป็นนักเรียนทุนอานันทมหิดลนี่แหละครับ ผมจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว สิ่งที่ผมทำอยู่คือการตอบแทน กตัญญูต่อผู้ที่ให้ทุนอานันทมหิดลแก่ผม ที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่รู้ว่านักเรียนคนอื่น ๆ ที่ได้ทุนนี้มีจินตนาการเรื่องนี้อย่างไร แต่สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมทำก็เพื่อความดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป ผมชัดเจนเสมอว่าผมต้องการรัฐธรรมนูญในประเทศที่เป็นราชอาณาจักร"
โถๆ โกหกอย่างหน้าด้านๆเลยนะ วรเจตน์ วรนุส เพราะความจริงสถาบันกษัตริย์จะคงอยู่ได้อย่างมั่นคงเพราะมีมาตรา112 เหมือนเดิมนี่แหล่ะ มีแต่พวกอยากล้มเจ้าเท่านั้นที่อยากแก้มาตรานี้
สิ่งที่วรเจตน์ วรนุสพูดน่ะ เอาไว้หลอกควายแดงเถอะนะ วรเจตน์ วรนุส
แนะนำอ่าน akecity แฉผังล้มเจ้าของนิติทรราช
ทักษิณมันทำให้พวกล้มเจ้าเหิมเกริมมากขึ้น เพราะพวกล้มเจ้าเกาะกระแสเสื้อแดงคลั่งแม้วนี่แหล่ะ
แนะนำอ่าน 8ราชนิกุลกับประเด็นแก้ไขมาตรา112
-----------------------
ทำไมนิติราษฎร์ไม่ช่วยคดีหมิ่นของสนธิลิ้มด้วยล่ะ?
เพราะสนธิลิ้มแค่นำคำพูดนังดา ตอปิโดมาถ่ายทอด เจตนาเพื่อให้ประชาชนรับรู้ความเลวของนังดาตอปิโด สนธิลิ้มจึงไม่ได้มีเจตนาหมิ่นฯโดยแท้จริง
แต่การถ่ายทอดต่อ ก็อาจเข้าข่ายผิดมาตรา112 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฏหมาย
พวกเสื้อแดงต่างออกมาเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับสนธิในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งๆที่กรณีสนธิลิ้ม น่าจะเข้าข่ายถูกเจ้าหน้าที่รัฐนำมาตรา112มาใส่ร้ายทางการเมืองมากกว่า
แต่กลุ่มนิติราษฎร์กลับไม่เคยออกมามองว่า คดีสนธิลิ้มเป็นการถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองเลย
นี่แแปลว่าอะไร? นิติราษฎร์มีเจตนาช่วยเฉพาะพวกล้มเจ้าแท้จริงเท่านั้น นั่นเอง
ใหม่เมืองเอก.
วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555
คู่มือม็อบก่อนการชุมนุมประท้วง!!
เนื่องจากขณะนี้ รัฐบาลปูนกแก้วเริ่มจะไม่พอใจประชาชนที่มักก่อการประท้วงปิดถนนบ่อยครั้งมากขึ้น เพราะสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนในรัฐบาลมากขึ้น เพราะท่านต้องแบกหน้าตาอำมาตย์ถอดด้ามลงไปพบประชาชนชั้นไพร่กลางถนน เพราะม็อบปิดถนนได้กลายเป็นประเพณีนิยมประท้วงในยุครัฐบาลปูนกแก้วไปแล้ว
แถมล่าสุด มหาดไทยประกาศจะเดินหน้าเอาผิดม็อบปิดถนนทั้งหลายอย่างจริงจัง ตามข่าวนี้
นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายข้าราชการประจำ แถลงว่า จากกรณีที่มีกลุ่มมวลชนชุมนุมปิดถนนเพื่อเรียกร้องให้ทางราชการแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นจำนวนมากนั้น
การกระทำดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เดินทางสัญจรเป็นอย่างมาก แม้การรวมตัวกันเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ดังนั้นเพื่อเป็นการปราม เพราะมีสิ่งบอกเหตุว่ามีการชุมนุมในหลายพื้นที่ กระทรวงมหาดไทยจึงสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนี้
1.ให้กำชับนายอำเภอและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้หาข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และเข้าไปช่วยเหลือแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ หากปัญหาเกินขีดความสามารถ ให้ประชาชนที่เดือดร้อนยื่นข้อเรียกร้องผ่านตัวแทนตามกระบวนการทางกฎหมาย
2.ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิในการชุมนุม ไม่สมควรปิดถนนเด็ดขาด
3.กรณีชุมนุมปิดถนน ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูลการกระทำผิด โดยการถ่ายภาพ วิดีโอเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด
ส่วนการสั่งการให้ใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด เพราะมีข่าวว่าจะมีการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่นั้น ก็มีรายงาน จึงต้องป้องกันและปรามไว้ก่อน
---------------------------
akecity ขอแนะนำม็อบเรียกร้องทั้งหลาย ก่อนการชุมนุมครั้งต่อไป ควรปฏิบัติตามดังนี้
1. ให้ม็อบสวมใส่เสื้อแดงทุกคน ถ้าเป็นไปได้ ควรมีหน้าทักษิณ หรือมีหน้ายิ่งลักษณ์ หรือมีคำว่า ไพร่!! ติดอยู่บนเสื้อแดงด้วยยิ่งดี เพราะจะทำให้ตำรวจไม่กล้าสลายการชุมนุม
2. ควรชูป้ายที่เขียนคำว่า 2มาตรฐาน หรือคำว่า เท่าเทียมกัน หรือคำว่าไพร่ ประกอบการชุมนุมด้วย เพราะจะทำให้ม็อบของทุกท่าน ได้รับความสนใจจากสื่อทุกสื่อ
ง่ายๆเพียง2ข้อเท่านี้ ม็อบปิดถนนทุกท่าน จะได้รับความปลอดภัย และจะได้รับการลงมาแก้ไขจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญหากเกิดการสลายการชุมนุมของพวกท่านจากเจ้าหน้าที่รัฐ ผมขอรับประกันว่าม็อบทุกท่านจะร่ำรวยกว่าเดิม หรืออาจรวยถึงขั้นเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ง่ายๆ
และหากท่านต้องติดคุก รับรองได้ว่า ทุกท่านจะได้สิทธิพิเศษได้ติดคุกหรูใหม่เอี่ยมแน่นอนครับ
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555
akecity แฉ ผังล้มเจ้า ของนิติทรราช!!
ผังล้มเจ้าของพวกนิติทรราช (นิติราษฎร์)
จากผังล้มเจ้าที่แสดงให้เห็น อธิบายความได้ว่า
ณ.สถานการณ์ปัจจุบัน พวกล้มเจ้าและนิติราษฎร์ มองรูปการณ์ว่า ต้องเริ่มจากเรื่องเล็กไปก่อน สั่นคลอนด้วยการขอแก้ไขมาตรา112
เพราะพวกนิติทรราชยังมองว่า หากจะล้มสถาบันในเวลานี้ คงยังทำไม่ได้ เพราะรัชกาล9 ยังทรงมีพระบารมีมาก เมื่อยังล้มไม่ได้ก็ให้แซะฐานให้กร่อนไปเรื่อยๆ โดยอาศัยประเด็นแก้ไขมาตรา112 เป็นทัพหน้า
ถ้าวันนี้พวกนี้ทำสำเร็จ หากวันใดที่กระแสคนไม่เอาเจ้าเพิ่มมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน พวกนี้ก็จะเริ่มประเด็นใหม่ คือ เปลี่ยนแปลงวันชาติไทยใหม่ โดยอ้างเรื่องประชาธิปไตยบังหน้า อ้างกระแสของเสียงส่วนใหญ่ในโลกเสรี ได้มองเห็นระบอบประชาธิปไตยมีความสำคัญกว่ากษัตริย์
ซึ่งผมเขียนไว้ในบทความเรื่อง ทำไมวันชาติไทยต้องเป็นวันเฉลิมพระชนม์
หากวันใดที่เขาเปลี่ยนแปลงวันชาติไทยให้ตรงกับวันเปลี่ยนแปลงการปกครองได้เมื่อไหร่
ก็จะหาทางลดบทบาทพระมหากษัตริย์ลง โดยเริ่มจากแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรงคำว่า "พระมหากษัตริย์" ให้เหลือแค่คำว่า "กษัตริย์" เท่านั้นตัดคำว่า "พระมหา" ออกไป เหมือนสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆ
ต่อมาก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระราชอำนาจ เรื่องแต่งตั้งองคมนตรี โดยจะยุบองคมนตรีทิ้งไป!!
ต่อมาก็จะยุบยกเลิกมาตรา112 ในประมวลกฏหมายอาญา (และมาตราอื่นๆ ใน รธน. ที่เกี่ยวข้องไปด้วย)
ถ้าทำได้ถึงจุดนี้เมื่อไหร่!!
พวกนิติทรราชก็จะมองว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ประเทศไทยต้องลองทำประชามติเรื่อง ประเทศไทยควรมีสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไปหรือไม่ ? เหมือนที่ประเทศเนปาลได้ทำมาแล้ว
ฉะนั้น ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนสุดท้ายที่วางไว้นี้ ก็อาจเกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง กลุ่มผู้จงรักภักดี กับกลุ่มล้มเจ้า ก่อนก็เป็นได้
และถ้าเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างประชาชนเมื่อใด สุดท้ายกองทัพก็อาจต้องเข้ามายึดอำนาจอีกครั้ง โดยอ้างเพื่อรักษาความสงบของชาติ และยุติการนองเลือด
(เหมือนที่อียิปต์ได้เผชิญสงครามกลางเมืองมาเมื่อปีที่แล้ว จนทหารเข้ามายึดอำนาจอ้างรักษาความสงบ สุดท้ายทหารครองอำนาจเสียเอง ซึ่งอียิปต์ก็กำลังเผชิญสถานการณ์ในขณะนี้)
ทีนี้ หากผู้นำกองทัพยังเป็นฝ่ายทหารผู้จงรักภักดี ประเทศไทยก็จะยังเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ยังเป็นประมุขต่อไป
แต่ถ้าผู้นำทหารที่ยึดอำนาจ ไม่ใช่ทหารผู้จงรักภักดี ทางเลือกของประเทศไทย อาจจะเหลือแค่2ทางคือ
1. เป็นประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ แบบมีประธานาธิบดี และอาจมีการปฏิวัติซ้ำซากเหมือนเดิม เพราะนักการเมืองไทยสันดานคอรัปชั่นที่สุด
2. เป็นเผด็จการทหารแบบพม่า โดยมีประชาธิปไตยบังหน้า และปล่อยให้อเมริกาเข้ามากอบโกยทรัพยากรในชาติได้ เพื่อรักษาอำนาจของผู้นำเผด็จการ
และโอกาสนองเลือดก็ยังไม่จบต่อไป..
------------------------------
คลิปคมชัดลึก
ครก. ฝ่ายพวกนิติราษฎร เจอของจริง สยามประชาภิวัฒน์ ในเรื่องแก้ไขมาตรา112
ซึ่งผมดูตั้งแต่ต้นจนจบ สรุปสาระสำคัญได้ว่า
นายยุกติ มุกดาวิจิตร คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) หรือนายหัวหงอกฝ่ายครก.เอียงนิติราษฎร์อ้างว่า วันนี้กระแสประชาชนในประเทศเปลี่ยนไปแล้ว จึงจำเป็นต้องแก้ไขมาตรา112 นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ตรงกับตรรกะผังล้มเจ้าที่ผมได้แสดงไว้
แปลความว่า ถ้าอนาคตกระแสล้มเจ้ามากขึ้นในวันใด พวกนี้ก็พร้อมจะทำประชามติล้มเลิกสถาบันกษัตริย์แน่นอน
การคาดการณ์ การแต่งตั้งผบ.เหล่าทัพ ครั้งต่อไป ผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการในแต่ละเหล่าทัพ
คุณสมบัติผู้บัญชากองทัพบก เรือ อากาศ คนต่อไป ข้อแรกคือ
1. เทิดทูนทักษิณ
2. ไม่จำเป็นต้องจงรักภักดีสถาบันกษัตริย์
คลิก พวกเลวเอ๋ย แต่จริงก็ตั้งพรรคนิติราษฎร์สิวะ
วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555
akecity บัญญัติคำนิยามให้สหรัฐอเมริกา
คำนิยามสำหรับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
"รัฐบาลสหรัฐอเมริกา คือ ชาติที่ดำเนินนโยบายตี2หน้าเก่งที่สุดในโลก ชาติใดไม่ให้อเมริกาเข้าไปหาผลประโยชน์ ชาตินั้นย่อมเป็นศัตรูกับอเมริกา โดยที่ไม่เกี่ยวกับระบอบการปกครองใดๆทั้งสิ้น หมายถึงประเทศใด ๆ จะปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ก็ได้ หรือจะปกครองด้วยเผด็จการทหารก็ได้ ปกครองด้วยระบอบใด ๆ ก็ได้ ขอเพียงให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาหาผลประโยชน์ได้ ประเทศนั้นก็จะไม่ถูกต่อต้านจากระบอบอเมริกา"
ใหม่เมืองเอก
----------------------------------
คุณผู้อ่านครับ
เมื่อก่อนสหรัฐฯ ต่อต้านซัดดัม ฮุสเซน กล่าวหาว่า อิรักสะสมอาวุธชีวภาพ สะสมอาวุธเคมี อิรักกำลังคิดทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยเหตุนี้ปธน.จอร์ช w บุช ก็ใช้ข้อกล่าวหานี้บุกโจมตีอิรัก เพื่อล้มซัดดัม
ทั้ง ๆ ที่ สหรัฐอเมริกาเคยสนับสนุนซัดดัมเพื่อรบกับอิหร่าน
แต่เมื่อล้มซัสดัมได้แล้ว สหรัฐฯ ก็หาอาวุธที่กล่าวหาในอิรักไม่เจอ ทั้งๆที่บดขยี้จนอิรักหรือแต่ซาก ประชาชนบ้านแตกสาแหรกขาด เพียงเพื่อตอบสนองความบ้าอำนาจของสหรัฐ ที่ต้องการล้มซัดดัม ซึ่งในเรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้แล้วในเรื่อง ตรรกะของสมศักดิ์ เจียม
และบัดnow สหรัฐฯ กำลังจ้องหาเรื่องอิหร่าน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว อิหร่านเป็นชาติที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่คนในประเทศค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับโลกมุสลิมในอาหรับประเทศอื่น ๆ ด้วยกัน
อิหร่าน ให้สตรีชาวอิหร่านมีสิทธิเลือกตั้ง มีสิทธิขับรถ มีสิทธิทำอะไรหลายๆอย่าง ในขณะที่สตรีมุสลิมในอาหรับประเทศอื่นๆกลับถูกห้าม เช่นที่ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น
อิหร่านมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ซาอุฯ ไม่มี เพราะยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช
ซาอุดิอาระเบีย มีกฏหมายลงโทษพวกหมิ่นสถาบันกษัตริย์อย่างรุนแรง ถึงขั้นประหารชีวิต!!
แล้วทำไมสหรัฐอเมริกาไม่จ้องหาเรื่องซาอุดิอาระเบีย?
คำตอบก็คือ ซาอุดิอาระเบียซูฮกต่อสหรัฐ ซาอุฯ ซื้ออาวุธจากสหรัฐปีนึงๆ มากมายมหาศาล
ขณะที่อิหร่าน เป็นประเทศที่คนฉลาด คิดค้นเทคโนโลยีหลายอย่างของตนเอง เพราะถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ อิหร่านผลิตเครื่องบินเองได้ ผลิตรถยนต์เองได้ ผลิตยางรถยนต์เองได้ ผลิตอะไรต่อมิอะไรได้มากมาย
อิหร่านกำลังจะค้นคว้าวิจัยเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ แต่กลับถูกสหรัฐพยายามต่อต้านคัดค้าน และกล่าวหาว่า จะใช้นิวเคลียร์เพื่อเอามาโจมตีสหรัฐ
แต่!! อินเดียกับปากีสถาน ที่เป็นเหมือนประเทศศัตรูกัน พยายามมีอาวุธนิวเคลียร์เพื่อกดดันอีกฝ่าย กลับได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ
นี่เพราะอะไร?
คำตอบก็เป็นดังคำนิยาม ที่ผมให้ไว้นั่นก็คือ ชาติใดซูฮกสหรัฐ ปล่อยให้สหรัฐเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ ได้ ชาตินั้นย่อมไม่ถูกสหรัฐจ้องโจมตี (อย่างเปิดเผย)
------------------------------
สหรัฐฯ ร้ายลึก
แต่ใช่ว่าประเทศที่เป็นมิตรกับอเมริกา จะรอดเป็นเหยื่อของอเมริกาได้
เพราะชาติอเมริกาตี2หน้าได้เก่งที่สุดในโลก ใช้วิธีการทั้งบนดินใต้ดินทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์อเมริกาได้ทั้งนั้น หากอเมริกาพบว่า สิ่งใดที่เป็นอุปสรรคต่อการกอบโกยของอเมริกา อเมริกาก็จะใช้วิธีต่างๆนานาน เพื่อทำลายอุปสรรคนั้น
โดยมักจะอ้างคำว่า สิทธิเสรีภาพบังหน้า!!
แต่ตัวสหรัฐฯ เองนั่นแหล่ะ ที่เป็นตัวละเมิดเสรีภาพ และสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก เช่นทหารอเมริกันละเมิดสิทธิต่อผู้หญิงอาหรับ ละเมิดสิทธิต่อเชลยศึกอิรัก มีให้เห็นในหลายเหตุการณ์
หรืออย่างกรณีพม่ายกเลิกการสร้างเขื่อนเมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐอเมริกาแสดงออกว่ายินดีที่พม่าเห็นแก่การอนุรักษ์ธรรมชาติ
แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกากลับเป็นชาติที่ไม่ยอมลงนามสนธิสัญญาปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอเมริกาเองก็เป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก
------------------------
สหรัฐอเมริกา เป็นชาติที่ขายอาวุธมากที่สุดในโลก
หลายๆคนคงเคยได้ยินว่า สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าต่อประเทศต่างๆมากมาย แต่ทำไมสหรัฐยังไม่เจ๊งไปสักที ?!
สาเหตุหนึ่งก็คือ สหรัฐฯ มียอดกำไรจากการค้าอาวุธทั่วโลกค้ำจุนประเทศอยู่นั่นเอง
สหรัฐฯ อาจใช้วิธีทั้งทางตรงทางอ้อม เพื่อให้เกิดความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอกในประเทศต่างๆ ในทวีปต่างๆ เพื่อสหรัฐฯ จะได้ขายอาวุธได้มากขึ้นนั่นเอง
สหรัฐฯ สนับสนุนกลุ่มกบฎในหลายประเทศ สนับสนุนเผด็จการในหลายประเทศ สนับสนุนซัดดัมต่อต้านอิหร่าน สนับสนุนบินลาเดนต่อต้านโซเวียต คนพวกนี้ก็เคยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทั้งนั้น
สงครามที่อิรักก็เป็นเสมือนการทุ่มงบโฆษณาประสิทธิภาพอาวุธของสหรัฐฯ ให้ทั่วโลกได้เห็นนั่นเอง เหมือนที่เราเคยได้ดูถ่ายทอดปฎิบัติทิ้งระเบิดโดยฝูงบินสหรัฐฯ กันสด ๆ
สงครามในอิรักสร้างผลกำไรในการค้าอาวุธให้สหรัฐทั่วโลกมากมายมหาศาล โดยมีลูกค้ารายใหญ่ที่สุด คือ ซาอุดิอาระเบีย
ฉะนั้น ใครที่หลงเชิดชูว่า สหรัฐฯ คือฮีโร่แห่งโลกเสรีนิยม ใครที่อ้างสิทธิเสรีภาพเพื่อทำลายวัฒนธรรมดี ๆ ของประเทศตัวเอง คนพวกนี้ก็คือทาสทางความคิดของระบอบอเมริกานั่นเองครับ
เพราะอเมริกาใช้คำว่าสิทธิเสรีภาพมาหลอกให้คนโง่ ๆ เหล่านี้ ให้เชื่อว่าตัวเองคือพวกหัวก้าวหน้า แต่เป็นความก้าวหน้าแค่เปลือก
เพราะสุดท้ายคนพวกนี้ก็คือคนโง่ที่เป็นเหยื่อให้สหรัฐฯ หลอกใช้มาเพื่อทำลายประเทศตัวเอง เพียงเพื่อให้สหรัฐฯ เข้ามาหาผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ
(แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ตรงข้ามกับ ทุนนิยมบริโภคฟุ้งเฟ้อแบบสังคมอเมริกัน โดยสิ้นเชิง)
แนะนำอ่าน สาเหตุที่คนอเมริกันคนหนึ่งละทิ้งอเมริกา!!
-------------------
ผลสำรวจโพลล่าสุดของเอแบค ระบุว่า คนส่วนใหญ่ที่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ50 กลับไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญเลย!!
ก็เพราะมีแต่ควาย ควาย ควาย เท่านั้น!!
คลิกอ่าน ความพยายามครองโลกของสหรัฐอเมริกา!!!
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555
ชาวอุบลสมควรขอบคุณวีรชนแดง53 มั้ย!?
เพราะถ้าไม่ได้ วีรชนแดง53 ช่วยจัดหนักให้แล้ว
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
ชาวอุบลฯ คงไม่ได้อาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังใหม่แน่ๆ
ซึ่งกำลังจะสร้างจาก เงินภาษีของประชาชน!!
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
"เ ผ าเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบไปเป็นอำมาตย์คนใหม่ก่อนนะ"
หลายคนอาจสงกาสัยว่า
ทำไม ไ อ้เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อได้เป็น รมช.เกษตร?
akecity มีคำเฉลยมาให้ครับ ตามนี้
v
v
v
v
ก็หน้ามันเหมือนผู้ช่วยชาวนามั้ยล่ะครับ?? เพียงแต่ไ.อ้เต้น ณัฐวุฒิมันเป็นควายพันธุ์เสื้อแดงเท่านั้น
และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทางการสหรัฐยังไม่ประกาศเลิกเตือนภัยการก่อการร้ายในไทย เนื่องมาจากแกนนำผู้ก่อการร้ายได้เป็นรมต.ในรัฐบาลไทยแล้วนั่นเอง hahaha!!
"ผมไม่น้อยใจเลย เรื่องตำแหน่งเป็นเรื่องสมมุติ อย่าไปยึดติดไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิต แต่เป็นเรื่องต้องข้ามพ้นไปให้ได้ คนแบบตนจะมาทะเลาะกับพรรคเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีก็ขี้หมาเต็มที และไม่เคยพูดว่าต้องได้อะไรจากพรรค เมื่อนายกฯตัดสินใจอย่างไรก็เคารพ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ใช่ว่าจะต้องง่อยเปลี้ยเสียขาหรือจะต้องตาย อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงที่มีข่าวจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ซึ่งก็เข้าใจกันดีเพราะเราอยู่ในสถานะผู้ถูกเลือกไม่ใช่ผู้เลือก" จตุพรกล่าว!! (มติชนออนไลน์)
"ปู รักแดงทุกคนเท่ากันนะคะ
แต่คุณตู่กรุณากินหญ้าแพรกรอไปก่อนนะจ๊ะ"
คลิกอ่าน แผนชั่วของแดงจัญไร
วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555
เปิดบัญชีหนังหมา112ตัวแรกเสนอแก้ไขมาตรา112
(และสืบเนื่องจากบทความในมติชิน มติโจร ที่ผมอ่านเจอ)
ท่านเจ้าแห่งนรกภูมิจึงได้ส่งสารมายังโลกมนุษย์ผ่านมายังเอกซิตี้ (ผู้พิทักษ์คุณธรรมปราบปรามคนชั่ว)
แจ้งว่า ท่านได้บันทึกรายชื่อพวกชิงหมาเกิดบนแผ่นดินไทยไว้แล้ว
ท่านเจ้าแห่งนรกภูมิ ได้แจ้งว่า คนพวกนี้เมื่อตายไปต้องได้ไปตะลอนทัวร์ในนรกภูมิอย่างแน่นอน และหลายคนจะไม่ได้ตายดีแน่ๆ อาจตายโหง หรือหลายคนอาจตายในสภาพทุเรศนัยน์ตาแก่ผู้พบเห็นแน่นอน
พวกชิงหมาจรจัดที่นครพนมมาเกิดที่ลงชื่อชั่วๆ112ตัวแรก เสนอแก้ไขมาตรา112 (แต่ใจจริงอยากจะล้มมาตรา112ในโอกาสต่อไป) มีรายชื่อชั่วๆ ดังต่อไปนี้
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ
ผาสุก พงษ์ไพจิตร เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สุจิตต์ วงษ์เทศ นักวิชาการ นักเขียน
รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ วุฒิสมาชิกและอัยการ
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทักษ์ เฉลิมเตียรณ มหาวิทยาลัยคอร์แนล
อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับภาพยนตร์/ศิลปิน
ชัยศิริ จิวะรังสรรค์ ศิลปิน
ธงชัย วินิจจะกูล มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เมดิสัน
ธเนศวร์ เจริญเมือง รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อานันท์ กาญจนพันธุ์ สังคมและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ยศ สันตสมบัติ สังคมและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เกษียร เตชะพีระ รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา สิงคโปร์
กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ศรีประภา เพชรมีศรี โครงการจัดตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล
ขวัญระวี วังอุดม โครงการจัดตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล
เอกกมล สายจันทร์ รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โกสุมภ์ สายจันทร์ รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สมชาย ปรีชาศิลปกุล นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ฉลาดชาย รมิตานนท์ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เกรียงศักดิ์ เชษฐพัฒนวนิช คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วัฒนา สุกัณศีล สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชัชวาล ปุญปัน อดีตอาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ ม.เชียงใหม่
วรเจตน์ ภาคีรัตน์ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จันทจิรา เอี่ยมมยุรา นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ธีระ สุธีวรางกูร นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปิยะบุตร แสงกนกกุล นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สาวตรี สุขศรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปูนเทพ ศิรินุพงษ์ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประจักษ์ ก้องกีรติ รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อภิชาต สถิตนิรามัย เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันรัก สุวรรณวัฒนา ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์ ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ยุกติ มุกดาวิจิตร สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อนุสรณ์ อุณโน สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นลินี ตันธุวนิตย์ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มรกต ไมยเออร์ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อัครพงษ์ ค่ำคูณ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วาด รวี นักเขียน
ปราบดา หยุ่น นักเขียน
วรพจน์ พันธุ์พงศ์ นักเขียน
ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักเขียน นักแปล
มุกหอม วงษ์เทศ นักเขียน
สุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการ
ไอดา อรุณวงศ์ วารสาร "อ่าน"
พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ นักแปลอิสระ
วิจักขณ์ พานิช นักเขียน นักแปล
สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียน-นักวิชาการอิสระ
นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ สื่อมวลชน
สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี สื่อมวลชน
นพ. กิตติภูมิ จุฑาสมิต ผู้อำนวยการรพ. ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน
จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการ สำนักข่าวประชาไท
จิตรา คชเดช ผู้นำแรงงาน, กลุ่ม Try Arm
สมบัติ บุญงามอนงค์ นักกิจกรรมสังคม
แดนทอง บรีน ประธานสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน
เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ทนายความ
รัตนมณี พลกล้า ทนายความ
พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความ
ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ
อานนท์ นำภา ทนายความ
ประเวศ ประภานุกูล ทนายความ
อนุสรณ์ ธรรมใจ เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
อันธิฌา ทัศคร ปรัชญาและศาสนา ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
กานดา นาคน้อย เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู (Purdue) สหรัฐอเมริกา
เก่งกิจ กิติเรียงลาภ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
พฤกษ์ เถาถวิล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ดร.พงศาล มีคุณสมบัติ นักวิชาการอิสระด้านพลังงานนิวเคลียร์
ไชยันต์ รัชชกูล มหาวิทยาลัยพายัพ
คมลักษณ์ ไชยยะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ชัชวาลย์ ศรีพาณิชย์ อดีตนายกสมาคมธรรมศาสตร์แห่งแคลิฟอร์เนีย
ชาตรี ประกิตนนทการ สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ชาญณรงค์ บุญหนุน คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
เชษฐา พวงหัตถ์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
โกวิท แก้วสุวรรณ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
พิพัฒน์ สุยะ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
เอมอร นิรัญราช คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
พวงทอง ภวัครพันธุ์ รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เวียงรัฐ เนติโพธิ์ รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิติ ภวัครพันธุ์ รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นฤมล ทับจุมพล รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สิริพรรณ นกสวน สวัสดี รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ฉลอง สุนทรวาณิชย์ อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สุวิมล รุ่งเจริญ อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ธนาพล ลิ่มอภิชาต อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกษม เพ็ญภินันท์ อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำสิงห์ ศรีนอก ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
วัฒน์ วรรยางกูร นักเขียนรางวัลศรีบูรพา
อธิคม คุณาวุฒิ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารเวย์
เวียง-วชิระ บัวสนธ์ บรรณาธิการ สำนักพิมพ์สามัญชน
ดวงมน จิตร์จำนงค์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
พิเชฐ แสงทอง มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับภาพยนตร์
อนุสรณ์ ติปยานนท์ นักเขียน
อุทิศ เหมะมูล นักเขียนรางวัลซีไรต์
เรืองรอง รุ่งรัศมี นักเขียน นักแปล
ทองธัช เทพารักษ์ นักเขียน การ์ตูนนิสต์ ศิลปิน
เดือนวาด พิมวนา นักเขียนรางวัลซีไรต์
ประกาย ปรัชญา กวี
ซะการีย์ยา อมตยา กวีรางวัลซีไรต์
วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักเขียน
กฤช เหลือละมัย กวี
วินัย ปราบบริปู นักเขียน ศิลปิน
จรัล ดิษฐาอภิชัย
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
คลิกอ่าน รู้แล้วทำไมเสื้อแดงถึงเกลียดป๋าเทพ โพธิงาม
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555
รู้แล้วทำไมเสื้อแดงถึงเกลียดป๋าเทพ โพธิ์งาม!!
เพราะตัวตนของป๋าเทพที่แท้จริง
ก็ตรงกับคลิปหนังเรื่องหมาแก่อันตราย นี่แหล่ะครับ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!! (https://www.facebook.com/tudtorcadcad)
พอพูดถึงสันดานนักการเมืองไทย ผมก็เลยนึกถึงกรณีสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
ตอนแรกที่นักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะมาประท้วงคัดค้านการก่อสร้าง เพราะโรงเรียนจะต้องโดนทุบทิ้ง เพื่อหลีกทางให้รัฐสภาแห่งใหม่มาก่อสร้างริมเจ้าพระยา สวยงาม หรูหรา อลังการ เหมือนได้มาประชุมและมาพักผ่อนโรงแรมหรูไปในตัว ด้วยบรรยากาศริมแม่น้ำ
เด็กๆมาคัดค้านขอให้ไปสร้างที่อื่น ได้มั้ย?
พวกสส.ไทยผู้ทรงเกียจคร้าน โดดประชุมประจำ ไม่ยอมท่าเดียว สั่งให้ย้ายโรงเรียนไปซะ
แต่พอเกิดมหาอุทกภัย54 สันดานความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองไทยก็เริ่มออก คิดเปลี่ยนที่สถานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เสียแล้ว
อ้างว่ากลัวน้ำท่วม!! ทำให้ต้องเสียเงินก่อสร้างแพงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำ
โถๆ แล้วโรงเรียนโยธิน เขาไม่ต้องกลัวน้ำท่วมเหรอครับ ท่านสส.ทั้งหลาย??
ความเห็นแก่ตัวของสส.ไทย ไม่แพ้คนเลวๆชาติใดในโลกจริงๆ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!
คลิกอ่าน แอนตี้ป๋าเทพ ตั้ว พงษ์พัฒน์ ตรรกะโง่ๆของแดงถ่อ.ย!!
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555
ทำไมต้องยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี
จากกรณีเมื่อปี2550 นายโชติศักดิ์ ไม่ยืนเคารพธงชาติในโรงหนังและพูดว่า "ไม่มีกฎหมายบังคับทำไมต้องยืน"
เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นอีกเรื่องที่ พวกไม่จงรักภักดีชอบนำมาอ้าง ว่า
"ทำไมฉันต้องยืนตรงเวลามีเพลงสรรเสริญพระบารมีด้วย ถ้าฉันไม่อยากจะยืนฉันก็จะไม่ยืน เพราะนี่คือสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของฉัน"
(ข้อมูลด้านล่าง ให้คลิกที่ชื่อพระราชกฤษฎีกา และชื่อพระราชบัญญัติ เพื่อไปอ่านต้นฉบับได้เลย)
แต่ในกฎหมายไทย ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2485 มาตรา 6 และมาตรา 15 ประกอบพระราชกฤษฎีกาวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2485 มาตรา 6 (3)
มาตรา 6 ในพระกฤษฎีกา กำหนดวัฒนธรรมแห่งชาติพ.ศ.2485 บุคคลทุกคนจักต้องเคารพตามระเบียบเครื่องแบบหรือตามประเพณี คือ
(1) เคารพธงชาติเวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา ทุกวันพร้อมกัน
(2) เคารพธงชาติ ธงไชยเฉลิมพล ธงเรือรบ ธงประจำกองยุวชนทหาร หรือธงประจำกองลูกเสือ เมื่อชักขึ้นหรือลงประจำสถานที่ราชการ เมื่อเชิญมาตามทางราชการ หรืออยู่กับที่ประจำแถวหรือหน่วยทหาร ยุวชนทหาร หรือลูกเสือ
(3) เคารพเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงเคารพอื่นๆ ซึ่งบรรเลงในงานตามทางราชการ ในงานสังคม หรือในโรงมหรสพ
-------------
จากที่ผมไปอ่านมาแล้ว บทลงโทษผู้ที่ไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี มีความผิดดังนี้
ตามมาตรา15 (ตามพระราชกฤษฎีกาวัฒนธรรมแห่งชาติพ.ศ.2485) ผู้ใดฝ่าฝืนพระราชกฤษฎีกาซึ่งออกตามความในมาตรา6 (ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติพ.ศ.2485)
มีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ
*[มาตรา 15 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2486]
กฎหมายนี้มีมาตั้งแต่สมัยนายปรีดี พนมยงค์ ลงนามรับรองกฎหมายฉบับนี้ในฐานะเป็นคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์(ในรัชกาล๘) ซึ่งพวกไม่จงรักภักดีเป็นพวก2มาตรฐาน ยกย่องท่านปรีดีว่าเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย
ซึ่งกฎหมายให้เคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับนี้ ก็ออกมาเมื่อสมัยท่านปรีดี พนมยงค์เป็นผู้สำเร็จราชการ ฯ แล้วทำไมพวกนี้ถึงไม่ให้ความเคารพกฎหมายฉบับนี้ ??
แม้กฎหมายฉบับนี้จะออกมาเมื่อพ.ศ.2485 เป็นสมัยจอมพลป. เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม ซึ่งพวกไม่จงรักภักดีก็ได้ยกย่องจอมพลป.ในหลายประเด็นที่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตน
เช่นสมัยจอมพลป. ได้ลดบทบาทพระมหากษัตริย์ลง แต่สมัยจอมพลป.ก็ยังออกกฎหมายให้ประชาชนต้องเคารพเพลงสรรเสริญ ซึ่งยังมีผลบังคับใช้มาถึงปัจจุบันด้วย
พวกที่อ้างสิทธิเสรีภาพ แต่กลับไม่เคารพกฎหมายของประเทศ ไม่เคารพวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศ คนพวกนี้ย่อมเป็นที่น่ารังเกียจไม่ว่ามันจะไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ก็ตาม
กฎหมายเมื่อปีพ.ศ.2485 กำหนดโทษปรับไม่เกิน100บาทนั้น ผมถามหน่อยว่า เมื่อปี2485 ทองคำบาทละเท่าไหร่?
ที่จริงน่าจะแก้กฎหมายฉบับนี้เสียใหม่ว่า ให้สอดคล้องกับราคาทองคำในปัจจุบันด้วยซ้ำ
สมมุติว่า ราคาทองคำเมื่อปี2485 ราคาบาทละ 100บาท แต่พ.ศ.2555 ราคาทองคำ 24,000บาท
กฎหมายเรื่องการเคารพเพลงสรรเสริญ ใครละเมิดไม่ปฏิบัติตาม น่าจะปรับสัก24,000บาท และจำคุกไม่เกิน1เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
--------------------------------------
แต่ปัจจุบันไม่มีโทษเรื่องนี้อีกแล้ว
ทีนี้มีประเด็นเพิ่มคือ พระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ในมาตรา3ได้ยกเลิกพ.ร.บ.วัฒนธรรม2485 และ2486 ไปแล้ว
โทษทั้งหลายที่เกี่ยวกับการไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญ จึงไม่มีอีกแล้วครับ
แต่เผอิญว่า คดีนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ที่ไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญในโรงหนังเกิดขึ้นเมื่อปี50 โดยที่นายโชติศักดิ์ และมีการพูดว่า "ทำไมต้องยืนด้วยไม่มีกฎหมายบังคับ"
คดีนายโชติศักดิ์เกิดก่อนปี2553 จึงควรใช้กฎหมายเดิมต่อไปครับ ถ้าไม่ใช่ในกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็ควรโดนความผิดฐานไม่เคารพวัฒนธรรมอันดีของไทยครับ
แต่เมื่อปัจจุบันไม่มีกฎหมายบังคับแล้ว ถ้าไม่ยืนก็ไม่มีโทษเรื่องวัฒนธรรม แต่เรื่องหมิ่นฯ ต้องดูองค์ประกอบแวดล้อมเพิ่มเติม
----------------------------------------
บ้านเมืองมีกฎหมาย เราก็ต้องเคารพ
ขนาดฝรั่งเขามาเที่ยวเมืองไทย เวลาฝรั่งเขาไปดูหนังในโรงหนัง เห็นคนไทยยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ฝรั่งเขาก็ยืนเคารพเหมือนกับคนไทย
เพราะฝรั่งส่วนใหญ่เขาเป็นผู้มีวัฒนธรรมที่ดี เมื่อเขาไปเยือนบ้านใคร เขาก็เคารพและให้เกียรติกฎระเบียบของบ้านนั้น เมืองนั้น
แม้ประเทศฝรั่งหลายประเทศเขาจะไม่มีการทำความเคารพเพลงสรรเสริญ เหมือนบ้านเราก็ตาม แต่เมื่อฝรั่งเขามาบ้านเรา เขาก็ย่อมต้องทำตามกฎหมายและวัฒนธรรมของบ้านเรา นี่แหล่ะเขาถึงเรียกว่า เป็นผู้เข้าใจสิทธิเสรีภาพที่ถูกต้องอย่างแท้จริง (ทั้งๆที่ฝรั่งส่วนใหญ่ก็มาจากประเทศที่เป็นเสรีประชาธิปไตยทั้งนั้น)
ไม่เหมือนพวกคนไทยหนักแผ่นดินบางจำพวกที่ ปากอ้างสิทธิเสรีภาพ แต่พฤติกรรมกลับโง่เขลาเบาปัญญายิ่งนัก
พวกไม่จงรักภักดี ไม่เคารพกฎหมายประเทศเรา ซึ่งผิดรัฐธรรมนูญในทุกๆฉบับ แม้กระทั่งฉบับปี2540 ที่เสื้อแดงเรียกร้องอยากจะใช้ก็มีระบุใน
มาตรา ๖๖ บุคคลมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้
มาตรา ๖๗ บุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย
มาตรา ๖๙ บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รับราชการทหาร เสียภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรม พิทักษ์ ปกป้อง และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
แม้แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับ2540 ที่เรียกร้องอยากจะใช้กันนัก ก็ยังระบุไว้เลยว่าต้องเคารพกฎหมาย
ฉะนั้นจะอ้างสิทธิเสรีภาพใดๆ ถ้ามันขัดต่อกฎหมาย สิทธิเสรีภาพนั้นย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพที่เกินขอบเขต
ตัวอย่างเช่นในโรงหนัง รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่า โรงหนังจะต้องมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีอยู่แล้ว เพราะเป็นแบบธรรมเนียมปฏิบัติกันมานาน
ถ้าใครไม่อยากยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ก็ไม่ต้องไปดูหนังที่โรงซะก็สิ้นเรื่อง หรือไม่ก็ตัดขาตัวเองทิ้งซะ เวลาไปดูหนังจะได้ไม่ต้องยืน
(อนุโลมให้สำหรับคนพิการไม่มีขา ผู้บังคับใช้กฎหมายคงไม่อยากเอาผิดโดยหลักรัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์)
แต่ถ้าจะอ้างว่า เคารพด้วยใจเลยไม่ยืน ทีนี้ก็อยู่ที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจะพิจารณาว่า อ้างได้สมเหตุสมผลหรือไม่?
แต่ถ้ามีเจตนาแสดงออกว่า ฉันไม่เคารพสถาบันกษัตริย์ ฉันเลยไม่อยากจะยืน กรณีเช่นนี้อาจไม่ใช่แค่ไม่รักษาวัฒนธรรมอันดี เพราะการไม่ยืนเพราะอะไร? เหตุผลสมควรรับฟังหรือไม่ กรณีนี้อาจเข้าข่ายจงใจดูหมิ่นพระเกียรติยศขององค์พระประมุขของชาติหรือไม่?
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นสำคัญ ว่าจะใช้ดุลยพินิจเช่นไร
ไม่ได้บังคับให้ใจใครต้องเคารพ แต่พฤติกรรมของท่านต้องเคารพตามที่กฎหมายกำหนด
ซึ่งกฎหมายได้ระบุไว้ว่า ในโรงหนังต้องทำความเคารพ ถ้าคุณไม่เคารพ ทั้งๆที่คุณรู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ในโรงหนังต้องมีการแสดงความเคารพเพลงสรรเสริญฯ การที่คุณไม่เคารพ นั่นแสดงว่า คุณมีเจตนาจงใจเข้ามาเพื่อดูหมิ่น!! หรือไม่?
ย้ำ!! ว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้รักษาและบังคับใช้กฎหมาย
แม้คุณจะไม่เคารพ แต่คุณก็ต้องให้เกียรติในสิ่งที่คนอื่นเขาเคารพด้วย
เช่นถ้าเราไปอเมริกา คนอเมริกันเขากำลังยืนเคารพธงชาติ แม้เราไม่ได้เป็นคนอเมริกัน เราก็ต้องยืนตรงให้ความเคารพเพลงชาติของเขาด้วย จึงจะเรียกว่า ให้เกียรติประเทศเขา
ดูฝรั่งร้องเพลงสรรเสริญดีกว่า เผื่อพวกไม่จงรักภักดีจะได้ฉลาดขึ้นบ้าง
แนะนำอ่าน มาตรา112 ที่รัก!!
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555
ความฝันเล็กๆของเด็กชายคนหนึ่งในวันเด็ก!!
-->
เด็กชายคนหนึ่ง
"ป๋มฝันไว้ว่าสักวันหนึ่ง แม่กับพ่อจะได้เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฏหมายเหมือนพ่อแม่ของเพื่อนๆที่โรงเรียนครับ
นักข่าว "แล้วทำไมพ่อแม่ของหนูถึงไม่จดทะเบียนสมรสกันล่ะจ๊ะ"
ด.ช.คนหนึ่ง "เคยได้ยินแม่พูดกับลุงว่า แม่ไม่อยากเป็นเมียหลวงครับ"
นักข่าวอมยิ้ม..
ภาพความน่ารักระหว่างแม่กับลูก
"ทานเยอะๆนะครับคุณแม่ ช่วยบำรุงสมองดีนะครับ"
ภาพประกอบนี้ไม่เกี่ยวกับบทความแต่อย่างใด
--------------------
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ครับ
แล้วบุคคลในรูปท่านนี้ควรได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือเท่าไหร่จากรัฐบาลท่านครับ?
เด็กชายคนหนึ่ง
"ป๋มฝันไว้ว่าสักวันหนึ่ง แม่กับพ่อจะได้เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฏหมายเหมือนพ่อแม่ของเพื่อนๆที่โรงเรียนครับ
นักข่าว "แล้วทำไมพ่อแม่ของหนูถึงไม่จดทะเบียนสมรสกันล่ะจ๊ะ"
ด.ช.คนหนึ่ง "เคยได้ยินแม่พูดกับลุงว่า แม่ไม่อยากเป็นเมียหลวงครับ"
นักข่าวอมยิ้ม..
ภาพความน่ารักระหว่างแม่กับลูก
"ทานเยอะๆนะครับคุณแม่ ช่วยบำรุงสมองดีนะครับ"
ภาพประกอบนี้ไม่เกี่ยวกับบทความแต่อย่างใด
--------------------
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ครับ
แล้วบุคคลในรูปท่านนี้ควรได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือเท่าไหร่จากรัฐบาลท่านครับ?
กรณีถุงยังชีพ เรืองไกรไม่มีทางชนะประชาธิปัตย์!!
-->
นายเรืองไกร อดีตสว.สรรหา(เรื่อง) ยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ดำเนินการเอาผิดพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีรับเงินบริจาค สิ่งของบริจาคและถุงยังชีพ จากข่าวมติชนตามนี้
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 62 ประกอบมาตรา 73 ยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีพรรคประชาธิปัตย์อาจกระทำการเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 65, 71, 82 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง จากการเปิดศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 เพื่อรับบริจาคการสนับสนุนจากประชาชน ภาคเอกชน มีลักษณะการรับบริจาคบางส่วนที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 71
โดยมีข้อเท็จจริงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าได้รับของบริจาคจากหน่วยราชการ คือ กระทรวงพลังงาน เป็นถุงยังชีพจำนวน 500 ถุง ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดอยู่ในการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ ผ่านรายการฟ้าวันใหม่ทางช่อง บลูสกาย
นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า ในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีการเผยแพร่รูปภาพกิจกรรมการแจกของช่วยน้ำท่วม ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยมีรูปหนึ่งเห็นชัดเจน มีโลโก้และชื่อพรรคประชาธิปัตย์ปรากฏอยู่ทางด้านขวาของรูป ตรงกลางรูปมีภาพนายอภิสิทธิ์ นพ.วรงค์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมอยู่ด้วย ดังนั้น ถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน ที่รับมาจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงเป็นทรัพย์สินที่คำนวณเป็นเงินได้ ตามความหมายของ "การบริจาค" ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 4 บัญญัติไว้ ดังนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพรรคการเมืองไม่สามารถรับบริจาคจากหน่วยราชการได้ ย่อมเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 71 ประกอบมาตรา 65 ถือว่าการกระทำสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนยุบพรรคต่อไป
------------------------------
มาดูมาตราต่างๆในพรบ.พรรคการเมืองกันไปพลางๆก่อนครับ
จากที่สว.เรืองไกรอ้างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตราต่างๆ ในส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดนั้น มีอยู่ตามนี้คือ
มาตรา ๔ ว่าด้วยการบริจาค
“การบริจาค” หมายความว่า การให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่พรรคการเมือง เพื่อการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง หรือของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามข้อบังคับพรรคการเมือง
มาตรา ๖๕ ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
มาตรา ๗๑ ห้ามมิให้หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ นิติบุคคลที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดในประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง บริจาคแก่พรรคการเมือง
มาตรา ๘๒ พรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุนต้องใช้จ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในส่วนนี้ และส่วนที่ ๕ การใช้จ่ายของพรรคการเมือง และจะต้องจัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป และให้นำความในมาตรา ๔๒ วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
คุณผู้อ่านลองอ่านเล่นๆไปก่อน แล้วลองคิดว่าจากข่าวด้านบนกับกฏหมายมาตราต่างๆที่เรืองไกร ยกมาอ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำความผิดนั้น
พรรคประชาธิปัตย์ผิดจริงหรือไม่?
(คลิกอ่านรายละเอียดพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่นี่)
-----------------------
คำตอบคือ...??
ถ้าอ่านผ่านๆแบบไม่คิด เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เสร็จแหงๆ
แต่ถ้าผมเป็นศาล คดีนี้ตัดสินไม่ยากเลยครับ
เพราะคำตอบคือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าข่ายความผิดในมาตราใดๆเลย
สาเหตุก็เพราะ ตามพรบ.พรรคการเมืองนั้น เจตนารมณ์ของกฏหมายก็คือเฉพาะเรื่องการบริจาคให้พรรคการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น
แต่กรณีพรรคประชาธิปัตย์เปิดรับสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยนั้น
เจตนาของผู้ใจบุญทุกคน เขามาเพื่อบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยผ่านทางพรรคการเมือง ผู้ใจบุญเขาไม่ได้มาบริจาคสิ่งของให้พรรคการเมืองเอาไว้ใช้เองสักกะหน่อย
เพราะเจตนารมณ์ของกฏหมายพรรคการเมือง มีไว้เอาผิดพรรคการเมืองและนักการเมืองที่รับของบริจาคเข้าพรรคหรือเข้าตัวนักการเมืองไว้เอง จนเกินข้อกำหนดของกฏหมาย
แต่กรณีรับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม พรรคการเมืองเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น พรรคการเมืองไม่ได้รับสิ่งของไว้ใช้เอง
ฉะนั้น กรณีถุงยังชีพและสิ่งของบริจาคที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดรับนั้น จึงไม่เข้าข่ายความผิดของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในมาตราใดๆเลยครับ
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เขาประกาศว่า รับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ประกาศรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์สักหน่อยครับ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ การที่บริษัทห้างร้านต่างๆที่เขาไปบริจาคสิ่งของกันที่ช่อง3 แล้วคุณสรยุทธ ออกมายืนรับมอบนั้น
ถามว่า ผู้บริจาคเขามาบริจาคสิ่งของและเงินให้ช่อง3กับคุณสรยุทธ
หรือเขามาบริจาคสิ่งของให้ผู้ประสบภัย ?!
สรุปก็คือ นายเรืองไกรโชว์โง่!! อีกแล้วครับท่าน
คลิกอ่าน เรืองไกรไม่มีทางชนะ กรณีฟ้องรัฐบาลมาร์คกักน้ำ!!
นายเรืองไกร อดีตสว.สรรหา(เรื่อง) ยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ดำเนินการเอาผิดพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีรับเงินบริจาค สิ่งของบริจาคและถุงยังชีพ จากข่าวมติชนตามนี้
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 62 ประกอบมาตรา 73 ยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีพรรคประชาธิปัตย์อาจกระทำการเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 65, 71, 82 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง จากการเปิดศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 เพื่อรับบริจาคการสนับสนุนจากประชาชน ภาคเอกชน มีลักษณะการรับบริจาคบางส่วนที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 71
โดยมีข้อเท็จจริงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าได้รับของบริจาคจากหน่วยราชการ คือ กระทรวงพลังงาน เป็นถุงยังชีพจำนวน 500 ถุง ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดอยู่ในการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ ผ่านรายการฟ้าวันใหม่ทางช่อง บลูสกาย
นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า ในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีการเผยแพร่รูปภาพกิจกรรมการแจกของช่วยน้ำท่วม ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยมีรูปหนึ่งเห็นชัดเจน มีโลโก้และชื่อพรรคประชาธิปัตย์ปรากฏอยู่ทางด้านขวาของรูป ตรงกลางรูปมีภาพนายอภิสิทธิ์ นพ.วรงค์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมอยู่ด้วย ดังนั้น ถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน ที่รับมาจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงเป็นทรัพย์สินที่คำนวณเป็นเงินได้ ตามความหมายของ "การบริจาค" ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 4 บัญญัติไว้ ดังนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพรรคการเมืองไม่สามารถรับบริจาคจากหน่วยราชการได้ ย่อมเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 71 ประกอบมาตรา 65 ถือว่าการกระทำสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนยุบพรรคต่อไป
------------------------------
มาดูมาตราต่างๆในพรบ.พรรคการเมืองกันไปพลางๆก่อนครับ
จากที่สว.เรืองไกรอ้างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตราต่างๆ ในส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดนั้น มีอยู่ตามนี้คือ
มาตรา ๔ ว่าด้วยการบริจาค
“การบริจาค” หมายความว่า การให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่พรรคการเมือง เพื่อการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง หรือของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามข้อบังคับพรรคการเมือง
มาตรา ๖๕ ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
มาตรา ๗๑ ห้ามมิให้หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ นิติบุคคลที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดในประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง บริจาคแก่พรรคการเมือง
มาตรา ๘๒ พรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุนต้องใช้จ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในส่วนนี้ และส่วนที่ ๕ การใช้จ่ายของพรรคการเมือง และจะต้องจัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป และให้นำความในมาตรา ๔๒ วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
คุณผู้อ่านลองอ่านเล่นๆไปก่อน แล้วลองคิดว่าจากข่าวด้านบนกับกฏหมายมาตราต่างๆที่เรืองไกร ยกมาอ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำความผิดนั้น
พรรคประชาธิปัตย์ผิดจริงหรือไม่?
(คลิกอ่านรายละเอียดพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่นี่)
-----------------------
คำตอบคือ...??
ถ้าอ่านผ่านๆแบบไม่คิด เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เสร็จแหงๆ
แต่ถ้าผมเป็นศาล คดีนี้ตัดสินไม่ยากเลยครับ
เพราะคำตอบคือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าข่ายความผิดในมาตราใดๆเลย
สาเหตุก็เพราะ ตามพรบ.พรรคการเมืองนั้น เจตนารมณ์ของกฏหมายก็คือเฉพาะเรื่องการบริจาคให้พรรคการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น
แต่กรณีพรรคประชาธิปัตย์เปิดรับสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยนั้น
เจตนาของผู้ใจบุญทุกคน เขามาเพื่อบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยผ่านทางพรรคการเมือง ผู้ใจบุญเขาไม่ได้มาบริจาคสิ่งของให้พรรคการเมืองเอาไว้ใช้เองสักกะหน่อย
เพราะเจตนารมณ์ของกฏหมายพรรคการเมือง มีไว้เอาผิดพรรคการเมืองและนักการเมืองที่รับของบริจาคเข้าพรรคหรือเข้าตัวนักการเมืองไว้เอง จนเกินข้อกำหนดของกฏหมาย
แต่กรณีรับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม พรรคการเมืองเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น พรรคการเมืองไม่ได้รับสิ่งของไว้ใช้เอง
ฉะนั้น กรณีถุงยังชีพและสิ่งของบริจาคที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดรับนั้น จึงไม่เข้าข่ายความผิดของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในมาตราใดๆเลยครับ
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เขาประกาศว่า รับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ประกาศรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์สักหน่อยครับ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ การที่บริษัทห้างร้านต่างๆที่เขาไปบริจาคสิ่งของกันที่ช่อง3 แล้วคุณสรยุทธ ออกมายืนรับมอบนั้น
ถามว่า ผู้บริจาคเขามาบริจาคสิ่งของและเงินให้ช่อง3กับคุณสรยุทธ
หรือเขามาบริจาคสิ่งของให้ผู้ประสบภัย ?!
สรุปก็คือ นายเรืองไกรโชว์โง่!! อีกแล้วครับท่าน
คลิกอ่าน เรืองไกรไม่มีทางชนะ กรณีฟ้องรัฐบาลมาร์คกักน้ำ!!
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555
พวกเลวเอ๋ย แน่จริงก็ตั้งพรรคนิติราษฎร์สิวะ !!
akecity แนะวิธีล้มมาตรา112 วิธีแรก
พรรคเพื่อทุยของไอ้เหลี่ยม มันบอกไม่แตะมาตรา112 แน่นอน ฉะนั้น
ไอ้พวกนิติราษฎร์เอ๋ย นำโดย
1. ไอ้วรเจตน์ ราคีนัก (ซึ่งแปลว่า คิดชั่ว ใจชั่ว พฤติกรรมชั่ว)
(แนะนำอ่าน อดีตชาติของ วรเจตน์ นิติเนรคุณ)
2. ไอ้สมเสือก เอ้ย ไอ้สมศักดิ์ เจียม (ไอ้ลูกเอเลี่ยน)
(แนะนำอ่าน ชีวประวัติไอ้ลูกเอเลี่ยน สมศักดิ์ เจียมอีทีสถุล!!)
3. ไอ้ปิยบุตร แซ่ชั่วสกุล ไอ้หน้าอ่อนจบจากประเทศเศษฝรั่ง
(แนะนำอ่าน ปิยบุตร แสงกนกกุล ก๋งมึงเตี่ยมึงเป็นใครวะ?)
ไอ้พวกเชี่ยทั้ง 3 ตัวนี้ กู akecity ขอแนะนำว่า พวกมึงทั้งหลาย ไปตั้งพรรคการเมืองชื่อ พรรคนิติราษฎร์ หรือจะชื่อ พรรคนิติทรราช ก็ได้ไปเลย อย่ามาทำตัวเป็นปลิงควายเกาะกระแสพรรคเพื่อแม้ว ขอแก้ไขมาตรา112 เลยว่ะ
ถ้าพวกมึงมันอยากจะแก้มาตราอะไร มึงชูประเด็นเป็นนโยบายพรรคไปเลย
ไหนพวกมึงอ้างนักอ้างหนาว่า เชื่อมั่นประชาธิปไตย (หรือสังคมนิยมกันแน่วะ)
ในเมื่อการแก้กฎหมายต้องเข้าไปแก้ในสภา ไอ้พวกล้มเจ้าและนิติห่าราด พวกมึงก็ตั้งพรรคการเมืองเข้าไปแก้ไขเอาเองเลย
ไหน ไอ้พวกสาวกล้มเจ้า ของไอ้เจียมสถุล มันเชื่อนักหนาว่าพวกล้มเจ้าของมันมีเยอะยิ่งกว่าหมัดหมาทั้งประเทศ
ถ้าพรรคนิติราษฎร์ของพวกมึงได้คะแนนมากกว่าพรรคเพื่อทุยของไอ้เหลี่ยมได้นะ
พวกมึงย่อมมีความชอบธรรมในการแก้มาตรา112 แน่นอน
อย่าๆ พวกมึงอย่าดีแต่ปากอยากล้มเจ้า แต่กลับปอดแหก หน้าตัวเมียเกาะตูด เกาะกระแสทักษิณอยู่อย่างทุกวันนี้เลย
พวกมึงทั้งไอ้วรเจตน์ ไอ้สมศักดิ์ สถุลไม่เจียม และอีกหลายๆ ตัว จะหน้าด้านอยู่ขัดระเบียบข้าราชการไทย กินภาษีของราชอาณาจักรไทยอยู่ไปใย ออกมาเข้าระบบการเมืองให้ถูกทางซะ ไอ้พวกล้มเจ้าทั้งหลาย
อย่ามัวแต่เห่าอยู่นอกสภา ฮ่า ๆๆๆ
-----------------------
กู akecity เลยขอแนะนำว่าให้
ไอ้สมศักดิ์ สถุลไม่เจียม เป็น หัวหน้าพรรคนิติทรราช
ไอ้วรเจตน์ อดีตนักเรียนทุนอานันท์ เป็นเลขาธิการพรรคนิติทรราช
ส่วนไอ้ปิยบุตร ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคนิติทรราช
แล้วมึงจะไปเชิญไอ้พวกเชี่ยๆ อย่าง เช่นไอ้ชูพงศ์ ถี่ถ้วน เป็นที่ปรึกษาพรรคนิติทรราช
ให้ไอ้ใจรัล อึ้ง กับ อีเพ็ญ จักรภพ เป็นกรรมการบริหารพรรคนิติทรราช
ให้ ไอ้บก.ลายจุด เป็นโฆษกพรรคนิติทรราช
แล้วเอาอีนังก้านธูป เด็กเชี่ย มาเป็นเหรัญยิกๆ
สุดท้ายก็เอานังคำผกา เป็นประชาสัมพันธ์พรรค โชว์นมย้อยนมดำทุกวัน
มึงทำกันไปเลย แบบนี้ จะดูพวกมึงหน้าตัวเมียและดูเชี่ยน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
พรรคของพวกมึงจะดังสุดๆ เชื่อกูเถอะ
-------------------------
แต่กูว่า พวกมึงไม่กล้าว่ะ เพราะพวกมึงมันพวกปลิงควาย ดีแต่เกาะตูดควายแดง ไม่มีปัญญาก่อการเลวเอง นอกจากเกาะกระแสนิยมไอ้เหลี่ยมจัดของเสื้อแดง
เพราะว่าพวกมึง นิติราษฎร์ มันกาก!!
กู akecity ขอเยาะเย้ยพวกมึงเลยว่ะ
ไอ้พวกนิติราษฎร์ชาติหมาหน้าปลิง ^^
คลิกอ่านมันส์ๆ ต่อที่ ขำว่ะ ฟายแดงล้มเจ้า เก่งแต่ปากแต่โง่
วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555
พระราชดำรัสต่อสาธารณชนมีแต่พระคุณ
ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสต่อประชาชนชาวไทยครั้งใด ก็ล้วนแต่มีประโยชน์และคุณอนันต์ต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคนที่เชื่อฟังคำของพระองค์ทุกครั้ง
ไม่เคยแม้ครั้งเดียว ที่พระราชดำรัสของในหลวงจะไร้ค่า
ตรงข้าม พระราชดำรัสในทุกครั้งกลับเปี่ยมล้นด้วยคุณค่าและพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น
ถ้าคนไทยทุกคนเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำที่พระองค์พระราชทานให้ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
ย่อมบังเกิดความสุขสวัสดิ์ในชีวิตทุกคน
King of King
-------------------------
มีแต่ตะกวดในร่างคนเท่านั้น ที่เห็นดอกบัวเป็นกงจักร
แล้วทำไมถึงมีพวกเลวถึงบังอาจมาห้ามพระองค์มีพระราชดำรัสต่อประชาชนของพระองค์ (อ๋อพ่อแม่มันไม่สั่งสอนไง)
ทำไมพวกเลวพวกนี้ ไม่ไปห้ามพวกนักการเมืองที่โกหก ตอแหล อย่างหน้าด้านๆล่ะ
วันนึงบอก เอาอยู่ สุดท้ายพังพินาศ!!
วันนึงบอกจะไม่ช่วยคนๆเดียวหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะช่วยประชาชนทั้งประเทศ แล้วเป็นไง โกหก สะตอเบอร์เบอร์รี่อย่างด้านๆ หนังหน้าหนายิ่งกว่าบู้ทหรู!!
หรือไอ้นักการเมืองชั่วๆ ที่พูดว่า "เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" นี่แหล่ะคือคำพูดที่ไอ้พวกนักวิชาการนิติทรราชมันชอบฟัง จนอยากจะกราบตีนไอ้คนพูด
ไอ้พวกนักวิชาการนิติทรราชทั้งหลาย กลับไม่เห็นว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง
แต่พระราชดำรัส ไอ้พวกนิติทรราชกลับมองว่าเป็นสิ่งที่ควรถูกห้าม
มีแต่พวกโง่และสารเลวเท่านั้น ที่เห็นด้วยกับตรรกะของนักวิชาการนิติทรราชเชี่ย ๆ พวกนี้
----------------------
ผู้หญิงเลว ๆ ที่คิดหมิ่นสถาบัน มักหน้าตาแบบนี้
จำได้มั้ยว่า คดีเสื้อแดงคุกคามนักข่าวช่อง7 สี
คำที่ว่า ถ้าเจอช่วยจัดให้หน่อย ตำรวจบอกว่าไม่ใช่การข่มขู่ คุกคาม
ดังนั้น ถ้าใครเจอนังก้านธูปที่ธรรมศาสตร์ ก็ช่วยจัดให้หน่อยแล้วกันนะครับ
ทีนี้ลองดูหน้า นังดา ตอปิโดสิครับ หน้ามันคล้ายกับนังก้านธูป ราวกับเป็นแม่ลูกในท้องมารเดียวกัน
อ่านแต่เรื่องเครียดกันแล้ว
-----------------------
มาดูผู้หญิงที่รักในหลวงให้เจริญหูเจริญตาดีกว่า
สวยทั้งกายและใจจริงๆ
น้องแต้ว ณฐพร
เชอรี่ เข็มอัปสร
อุ้ม สิริยากร
เชอรี่ เข็มอัปสร
อุ้ม สิริยากร
คลิก ศัพท์เด็ดโดนใจกว่าในการเมืองร่วมสมัย (ศัพท์แก้ศัพท์มติชน)
วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555
บุรุษแห่งปี2554-55 เจ๋งกว่า ไม่นานเกินรอ!!
มารู้จักบุรุษแห่งปี 2554 ที่ไปแล้วกันก่อน
บุรษแห่งปี2554 คนแรกคือ
นายอุสมะ บินลาเดน ผู้ต่อต้านสหรัฐอันดับ1 เด้ดสะมอเร่ไปแล้ว
บุรุษแห่งปีอันดับ2 คือ
พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำจอมเผด็จการอันดับต้นๆของโลก ปัจจุบันมะก้องด้องไปแล้ว
แว่นตาเท่มากๆ
บุรุษแห่งปีอันดับ3 คือ
นายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ คนนี้ก็ซี๊เลี้ยวโว้ย!!
แว่นตาเท่มากๆ
และขอแนะนำ บุรุษแห่งปีอันดับที่4 แห่งปี2554 และต่อเนื่องมาถึงปี2555
Coming soon ไม่นานเกินรอ (เตรียมจองศาลาได้เลย)
เขาก็คือ....
นักโทษชายทักษิณ เหลี่ยมจัดแห่งดูไบแอนด์มอนเตเนโกร
ผู้ที่ทำให้แผ่นดินไทยที่เคยสงบสุข ต้องไม่สงบสุขอีกต่อไป ตามคำกล่าวของมันที่ว่า
"ถ้าผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข"
แว่นตาเท่มากๆ
คลิกอ่าน เปิดโปงแผนชั่วปี53ของเสื้อแดงแบบฮาๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)